Red Rooms (2023)
เรื่องย่อ
Red Rooms (2023) ในมุมที่มืดมนที่สุดของเครือข่ายมืด มีสถานที่ที่เหยื่อถูกจับเป็นเชลย ถูกทรมานทางจิตใจ ถ่ายทอดสด จากนั้นจะได้รับโอกาสหลบหนีหากพวกเขาสารภาพบาปที่เลวร้ายที่สุดของตน และเก็บรักษาพวกเขาไว้ทางออนไลน์ชั่วนิรันดร์ในห้องสีแดงเคลลี-แอนน์ ( จูเลียตต์ การิเอปี้ ) เป็นผู้หญิงที่หลงใหลในคดีอาญาของฆาตกรต่อเนื่อง ลูโดวิค เชอวาลีเยร์ ( แม็กซ์เวลล์ แม็คคาเบ-โลโกส ) และถูกผลักดันเข้าสู่ โลกของอาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่มืดมิดเนื่องจากเธอ
หมกมุ่นอยู่กับการพยายามค้นหาคลิปวิดีโอที่หายไปของการเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งจะพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าลูโดวิคมีความผิดหรือบริสุทธิ์คดีฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง Ludovic Chevalier เพิ่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี และ Kelly-Anne ก็หมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ เมื่อความจริงเริ่มเลือนลางลงพร้อมกับจินตนาการอันน่าสะพรึงกลัวของเธอ เธอจึงตัดสินใจเดินไปตามเส้นทางอันมืดมิดเพื่อค้นหาชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนา นั่นคือวิดีโอที่หายไปของเด็กสาววัย 13
ปีที่ถูกฆาตกรรม ซึ่ง Kelly-Anne มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเธออย่างน่าตกใจชื่อผู้ใช้ของ Kelly-Anne บนเว็บไซต์โป๊กเกอร์คือ LadyOfShalott ซึ่งอ้างอิงถึงบทกวีเกี่ยวกับ Camelot ในศตวรรษที่ 19 ชื่อว่า “The Lady of Shallot” โดย Alfred Tennyson กวีชาวอังกฤษ ตัวละครที่มีชื่อเดียวกับเธอต้องทนทุกข์ทรมานจากความโดดเดี่ยวไม่ต่างจาก Kelly-Anne ดูหนังออนไลน์
ผู้กำกับ
ปาสกาล พลานเต้
บริษัท ค่ายหนัง
เนเมซิส ฟิล์ม
นักแสดง
- จูเลียตต์ การิเอปี รับบทเป็น เคลลี-แอนน์
- ลอรี บาบินรับบทเป็น เคลเมนไทน์ สาวกคนหนึ่งที่เคลลี-แอนน์เริ่มสนิทสนมด้วย
- เอลิซาเบธ โลคัส รับบทเป็น ฟรานซีน โบลิเยอ
- แม็กซ์เวลล์ แม็คเคบ-โลโกส รับบทเป็น ลูโดวิค เชอวาลิเยร์
- นาตาลี แทนนัส
- ปิแอร์ ชาญง
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Red Rooms (2023) ต้องบอกไว้ก่อนว่าหนังทุกเรื่องที่ทำมาจากหนังสือมักจะถูกลดทอนดีเทลที่ไม่สำคัญออกไปเยอะมาก ซึ่งจากที่ทั้งอ่านและดูหนังแล้วก็ เออ เยอะจริง 55555 แต่ก็ไม่ได้เสียอรรถรสขนาดนั้นนะ และเพื่อที่จะเติมเต็มทุกความรู้สึก สัมผัสทุกจินตนาการที่นักเขียนอยากจะถ่ายทอด จจ.ก็แนะนำให้อ่านหนังสือก่อนนะ แต่ก็ตามที่ทุกคนสะดวกนะ
เกริ่นกันมายาวมาก เรามาอ่านรีวิวเรื่องนี้กันดีกว่า จจ.ชอบเรื่องนี้ที่เขากล้าจับประเด็นหลายอย่างมาเล่นในเรื่องในเยอะมาก ตัวละครหลักและตัวละครเสริมก็มีมิติสุด ๆ นักเขียนสามารถเอาความที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างลูกชายของประธานาธิบดีของอเมริกากับเจ้าชายคนรองของราชวงศ์อังกฤษมาบรรจบกันได้
มันค่อนข้างน่าทึ่ง! แต่บอกเลยว่าคุณจะซึ้งกับความรักของคนทั้งคู่สุด ๆ
แรกเริ่มคือ อเล็กซ์ แคลร์มอนต์ ดิแอซ ลูกชายคนเล็กของปธน.หญิงคนแรกของอเมริกา ด้วยรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาและความฉลาดปราดเรื่อง ทำให้คนคนนี้เป็นจุดเด่นและเป็นตัวตั้งตัวดีในการช่วยหาเสียงของแม่เป็นอย่างมาก ทั้งครอบครัวอาศัยอยู่ในทำเนียบขาว ชีวิตวุ่นวายกับเรื่องการเรียนและกิจกรรมทางการเมือง
กระทั่งวันหนึ่งอเมริกาได้รับคำเชิญให้ส่งตัวแทนไปงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายฟิลลิปแห่งอังกฤษ อเล็กซ์ได้เป็นตัวแทนไปงานแต่งในครั้งนี้ เขาไปด้วยความรู้สึกที่อึดอัดเล็กน้อย เพราะคิดว่าถ้าไปงานแต่งก็ต้องเจอกับคนในราชวงศ์อย่าง เฮนรี่ เจ้าชายคนที่สองของราชวงศ์ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเข
ความจริงคนทั้งคู่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อน แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้น ทำให้อเล็กซ์เข้าใจผิดคิดว่าเฮนรี่ไม่ให้ความสนใจกับคนธรรมดา คงจะอยากแต่คบหาคนที่ฐานะเท่านั้น แต่อเล็กซ์ในเวลานั้นก็มีฐานะเป็นถึงลูกชายของประธานาธิบดี นี่ยังไม่มีฐานะมากพออีกเหรอ? จากนั้นความสัมพันธ์ที่ควรจะดีก็ไม่เคยดีมาตลอด
คนรอบตัวอเล็กซ์รู้ว่าอเล็กซ์ไม่ชอบใจเจ้าชายเฮนรี่ แต่ก็คิดว่าเพราะอายุใกล้ ๆ กันคงจะมีความอิจฉากันตามประสา กระทั่งเจอกันที่งานแต่ง ในช่วงจังหวะชุลมุนก็เลยทำให้ทั้งเฮนรี่และอเล็กซ์ล้มใส่ก้อนเค้กราคา 75,000 ปอนด์ล้มลงกลางงานอภิเษกสมรส จนกลายเป็นข่าวที่สื่อถึงความร้าวฉานระหว่างสองประเทศมหาอำนาจเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของคนทั่วโลก เพื่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์ และเพื่อหน้าตาของครอบครัวหมายเลขหนึ่ง ทั้งอเมริกาและอังกฤษต่างก็ต้องให้ความร่วมมือในการแก้ไขข่าวนี้ใหม่ อเล็กซ์ได้รับภารกิจให้บินมาที่อังกฤษในฐานะ “เพื่อนสนิท” ของเจ้าชายเฮนรี่ ส่วนเฮนรี่เองก็ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับ “เพื่อนรัก” คนนี้ที่มาเยือน
เอาง่าย ๆ ก็คือ สองคนนี้มันไม่ถูกกัน! จิกกัดตามประสาวัยรุ่นที่มีฐานะไม่ธรรมดา ไป ๆ มา ๆ จากศัตรูก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นอื่น โดยเฉพาะการส่งข้อความหากันตลอดเวลาที่ว่าง หรือแม้กระทั่งการโทรหาข้ามทวีปของอเล็กซ์ เพียงเพราะแค่อยากบ่นเรื่องที่ต้องเอาไก่งวงมาอยู่ในห้องทั้งคืนในวัน Thank giving
น่ารักอยู่เด้อหาว่า เริ่มแรกก็เพื่อนกันธรรมดาเนี่ยแหละ จนคืนวันปีใหม่ อเล็กซ์ต้องเชิญเหล่าวัยรุ่นที่มีอิทธิพลต่อวงการการเมืองและอื่น ๆ มาร่วมงานปีใหม่ เจ้าชายเฮนรี่ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเชิญมา ปาร์ตี้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและแสงสี ทำให้เฮนรี่ได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่แปลกใหม่ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เด่นชัดขึ้นมาในใจ
ทุกคนนับเลขถอยหลังพร้อมกัน! อเล็กซ์ยกมือตะโกนร้องสวัสดีปีใหม่อย่างดีใจ ก่อนจะหันไปจูบกับนอร่าเพื่อนสาวที่อยู่กับเขามาเกือบครึ่งชีวิต วินาทีนั้นทำให้เฮนรี่ตกตะลึงและเดินออกจากงานในที่สุด จนอเล็กซ์ต้องออกตามหา และเห็นว่าเจ้าชายกำลังยืนโดดเดี่ยวใต้ต้นไม้ในสวนที่เงียบสงบ
และไม่รู้ว่าด้วยบรรยากาศ แอลกอฮอล์ หรือว่าอะไรก็ตาม ทำให้เฮนรี่ตัดสินใจที่จะดึงอเล็กซ์เข้ามาจูบ จากนั้นก็ตามด้วยคำขอโทษ เฮนรี่รู้สึกว่าตัวเองทำพลาดอย่างวู่วาม และรีบร้อนจากไปในทันที
ส่วนไอ้ลูกชายปธน.ก็ได้แต่ยืนงงอยู่กับที่ และตลอดอาทิตย์นั้นก็ได้แต่วนคิดเฝ้าฝันถึงท่าทางของเฮนรี่และจูบในคืนนั้น สุดท้ายก็ทนไม่ไหว เขาอยากรู้ว่าเฮนรี่ทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร สุดท้ายผ่านไปหลายเดือนก็ได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้งในห้อง The Red room และและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น
ซึ่งเรื่องราวหลังจากนี้ก็อยากให้ทุกคนไปตามต่อกันเอาเอง แต่จะบอกว่ามันมาครบทุกรสชาติมาก ๆ ทั้งความคลั่งรัก ความโรเมนติก ความอึดอัด และความหนักอึ้งของภาระหน้าที่ที่แบกอยู่บนบ่า แม้กระทั่งว่าการตัดสินใจในครั้งสำคัญเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตในอนาคต เรียกได้ว่าเป็นนิยายอีกเรื่องที่จะเรียกทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตาของผู้อ่านในเวลาเดียวกัน
จจ.ชอบความคลาสสิกของเรื่องนี้มาก โดยเฉพาะคนทั้งคู่ที่มักจะส่งอีเมลเป็นประจำ เป็นอีเมลที่ทั้งคะนึงหาและก็เสียดสีอย่างเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็มีการลงท้ายอีเมลด้วยการอ้างอิงของจดหมายจากบุคคลสำคัญ ๆ เป็นการอ่านที่ได้อะไรเยอะมากจากเรื่องนี้ (แม่ง แต่ก็ปวดหัว)
อะ มาว่าด้วยเรื่องของการแปลกันหน่อย ปกติจจ.ไม่ค่อยได้อ่านนิยายฝั่งตะวันตกสักอย่างไร แต่ก็พอจะเข้าใจสำนวนและการดำเนินเรื่องอยู่บ้าง สำหรับเราก็แปลกใหม่ มีทั้งเข้าใจและก็ไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน (ไม่เข้าใจเยอะกว่า) แต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่ อ่านรู้เรื่องนะ พยายามอ่านแบบไทยแบบอิ้งสลับกัน และแล้วก็อ่านจบในที่สุด ประทับใจมาก
ฮุ้ว! เขียนยาวไปเพื่อใคร แต่บอกเลยว่าเป็นนิยายที่สนุกอีกเรื่องจริง ๆ ต้นกลางจบครบซึ้งทุกรสชาติ ใครจะอ่านนิยายก่อนหรือจะดูแบบภาพยนตร์ก่อนก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าทำสองอย่างก็จะเติมเต็มจินตนาการได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะนักแสดงที่ถ่ายทอดสายตาได้ดีสุด ๆ ขณะเดียวกันนิยายก็ใส่รายละเอียดความเป็นอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งมาก
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณนิยายเรื่องนี้ที่ปลุกไฟในตัวจจ.ในขุดตัวเองลุกขึ้นมาอ่านนิยายได้อีกครั้ง มีความสุขมาก อ่านไปอมยิ้มไป ร้องไห้ก็แล้ว ทั้งยังมีฉากในซี้ดปากแบบ อู้ววววว “ของรัฐของหลวงเขาฟาดฟันกันมันมากเพคะ!”
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Insidious Chapter 2 (2013) วิญญาณตามติด 2
8.3