Madame Web (2024) มาดามเว็บ
เรื่องย่อ madame web
แคสแซนดรา เว็บ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หน่วยฉุกเฉินในแมนฮัตตัน หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์เกือบจะตายมาแล้ว เธอก็ค้นพบว่าตัวเองมีพลังญาณทิพย์อันชวนพิศวง ที่สามารถทำให้มองเห็นมิติแห่งอนาคตอันใกล้ได้ และนั่้นดึงดูดทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับหญิงสาว 3 คนที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้ผนึกพลังด้วยกัน เว้นแต่พวกเธอจะต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากอันตรายที่กำลังต่อกรอยู่กับวายร้ายที่มีพลังคล้ายกัน ดูหนัง ออนไลน์
ผู้กำกับ madame web
เอส. เจ. คลาร์กสัน
บริษัท ค่ายหนัง madame web
- โคลัมเบียพิคเจอร์ส
- ดิโบนาเวนตูราพิคเจอร์ส
- มาร์เวลเอนเตอร์เทนเมนต์
- ทีเอสจีเอนเตอร์เทนเมนต์
นักแสดง madame web
- ดาโคตา จอห์นสัน
- ซิดนีย์ สวีนนีย์
- อิซาเบลา เมอร์เซด
- เซเลสต์ โอคอนเนอร์
- ทาฮาร์ ฮาจี
- ไมค์ เอปส์
- เอมมา โรเบิตส์
- อดัม สกอตต์
โปสเตอร์หนัง madame web
รีวิวหนัง madame web
หมาเเกะหนัง
ความเห็นหลังดู: Madame Web มาดามเว็บ”วัตถุดิบโคตรดี เเต่ทำไมทำเเบบนี้” (ไม่สปอยล์)
ความเห็นของผม: ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นหนังที่ผมสนใจด้วยข่าวที่ได้ยินมาพอสมควรว่าจะมีตัวละครนู้นตัวละครนี้ เเต่หลังดูจบ ไม่เชื่อว่า คุณจะสามารถทำให้หนังที่มีวัตถุดิบที่ดีมากทั้งนักเเสดงคุณภาพเเทบจะทั้งหมด ตัวละครที่มีปูมหลังที่น่าสนใจ เเละก็ไอเดียที่ต้องการผสมหนังอย่าง คนเหล็กเเละ Happy Death Day ออกมา ใครจะไปเชื่อว่ามันจะถึงขั้นตัดต่อปวดตา บทน่ารำคาญ เวียนหัวพอสมควรครับกับการตัดต่อ ส่วนการดูในระบบ IMAX สิ่งที่เติมเต็มให้ตัวหนังยังพอบันเทิงได้คือระบบเสียงที่มีความหนักเเน่นใช้ได้เลยครับ
ข้อดีของหนังที่ตัวหนังมีก็คือนักเเสดงครับ เเต่ละคนก็เหมือนจะพยายามชูบุคลิกของตัวละครออกมาให้ดูน่าจดจำ เเต่ทว่าสิ่งที่น่าจดจำกลับเป็นตัวบุคคลซะมากกว่าตัวละครในหนัง เเล้วก็การถ่ายภาพที่ดูย้อนยุคสไตล์ต้นยุค 2000 ก็ทำออกมาได้ดีใช้ได้ครับ เเละก็ไอเดียที่หยิบมาทำก็เหมือนจะน่าสนใจอยู่นะ เเล้วก็การดูในโรง IMAX ก็ได้เสริมฉากต่อยกันที่มีความหนักเเน่นเพิ่มขึ้นนิดนึง
ข้อเสียของหนังที่รู้สึกเลยคือการหยิบมาทำหนังเรื่องนี้เหมือนจะเป็นไอเดียที่ดี เเต่สิ่งที่รู้สึกเลยคือ ตัวหนังขาดความกระชับมากๆ ตัดต่อไม่รู้เรื่องเลยในบางฉาก บทพูดก็ไม่มีความเป็นธรรมชาติ กดดันเเละอึดอัดในตอนดูมากๆครับ เเล้วที่ผิดหวังเลยคือ การหยิบเรื่องราวมาเล่าได้ผสมกันมั่วไปหมด ฉากระทึกในเเนว Slasher ที่เลือกที่จะทำมันเหมือนจะดีเเละครีเอทีฟ เเต่รู้สึกว่าปวดตากับการตัดต่อที่ฉับไปฉับมาจนมีทั้งดูรู้เรื่องเเละไม่รู้เรื่องไปตามๆกัน เเล้วก็การเคารพเเฟนสไปเดอร์เเมนที่ใส่เหมือนเเค่จำเป็นต้องมีซะมากกว่าครับ เเล้วบางฉากมันฮาเเบบไม่ต้องการจะฮาก็มีมากครับ สิ่งที่รู้สึกเสียดายที่สุดเลยคือ การลำดับเรื่องที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ที่บางจุดจะตั้งคำถามกับการเขียนบทครับ
สรุปเเล้ว นี่คือหนังที่สำหรับผมผิดหวังมาก ถ้าให้เปรียบเทียบ เหมือนคุณทำพิซซ่าหรืออาหารจานหนึ่ง โดยมีวัตถุดิบที่ระดับเกรดเอ เเต่เหมือนคนปรุงอาหารทำออกมาได้ไม่ดีพอกับวัตถุดิบที่ได้รับไป เสียดายกับไอเดียที่ดี เเต่ตัวหนังกลับรู้สึกไม่สุดเเละสำหรับผมอาจจะหนักกว่า มอร์เบียสด้วย
นักดูหนังเถื่อน
หนังใหม่ ปี2024 MADAM WEB เข้าฉายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2024 เนื้อหาในหนังอาจจะเป็นเหมือนโลก Multiverse ของSpider man ผ่าน มาดามเว็บ เราน่าจะได้เห็นเนื้อเรื่องใหม่ๆที่เราไม่เคยรับรู้ผ่านภาคก่อนๆ จะได้ทำความรู้จักกับซุปเปอร์ฮีโร่หญิงคนใหม่ มีทั้ง spider woman และ spider girl
คนวิจารณ์หนังไม่เป็น Part 2
รีวิวหนัง: Madame Web มาดามเว็บ ไม่ถึงกับแย่จนน่าสาปส่ง เพียงแต่ว่าเรารู้สึกค่อนข้างเสียดายตัวหนังที่มันน่าจะมีศักยภาพที่จะสนุกหรือดีกว่านี้ได้ เราว่าหนังมันคือการพบกันครึ่งทางระหว่างไอเดียหลักอย่างการเป็นหนังสยองขวัญกลิ่นอาย Final Destination และหนัง Slasher ยุค 2000s ที่ตัวละครยอดมนุษย์คือวายร้าย
เพียงแต่โซนี่กลับพยายามฝืนบังคับให้ต้องใส่ความเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ลงไปด้วย ทำให้จากฉากไล่ล่าหนีตายของตัวละครที่มันควรจะมีจังหวะระทึกสยองขวัญ กลับยัดเยียดใส่ความตูมตามระเบิดระเบ้อ แอ็คชั่นแบบยอดมนุษย์ และซาวด์ประกอบที่ผิดมูดฉากไปมากๆ มันเลยเป็นไอเดียตั้งต้นที่ดีแต่กลับ execution มาไม่สนุก
การกำกับของ s.j. clarkson ค่อนข้างราบเรียบเกินไป ด้วยความที่เขาเป็นสายงานกำกับซีรี่ย์มาก่อน scope ของการทำหนังใหญ่มันต่างจากการทำซีรี่ส์อย่างริบรับ ตัวหนังเรื่องนี้มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูตอน pilot ของซีรี่ย์เรื่องหนึ่งแต่เล่ายาวมากไปหน่อย การเล่า แบ่งจังหวะ pacing รวมๆมันเลยช้าๆยืดๆ
บวกกับบทหนังที่ถูกปูไว้ว่าเป็นการเล่าเรื่องต้นกำเนิดฮีโร่ ทำให้ตัวหนังจริงๆแล้วกว่าที่ตัวละครจะประกอบร่างใส่ชุดหนังปราบอธรรมอะไรต่างๆก็มีอยู่ประมาณ 2-3 นาที ทั้งเรื่องคือการปูตัวละครเพียงอย่างเดียว และก็เพราะการประชาสัมพันธ์ของโซนี่ที่หลอกคนดูโดยการขายหน้าหนังว่ามันคือหนังแอคชั่น-ฮีโร่ ทั้งที่จริงๆหนังแทบไม่มีฉากต่อสู้เลยสักฉาก
นอกนั้นก็ตามสภาพของหนังที่เราขอใช้คำว่ามันพบกันครึ่งทางจริงๆ ในขณะที่เรามองเห็นแผลสดทั้งบทพูดที่ดูเป็นตัวละครเกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะพูดกัน การ misleading ของตัวหนัง การกำกับที่ฝีมือยังไม่เหมาะกับสเกลหนังใหญ่ หรือการพยายามใส่หนังสองแนวจนลงไม่ตัว
และความหวงแหนลิขสิทธิ์กับการเข้ามาควบคุมการทำงานของโซนี่ก็มีส่วนที่ทำลายตัวหนัง การสร้างหนังมาเพื่อให้ลิขสิทธิ์ยังคงอยู่ และก็แทรกแซงบงการตัวหนังซะเองจนไม่มีพื้นที่อิสระของมัน ทำให้ไอเดียหนังซุปเปอร์ฮีโร่สยองขวัญที่ควรจะน่าสนใจ กลับทำออกมาเป็นได้แค่หนังซุปเปอร์ฮีโร่คนปล่อยพลังจืดๆเรื่องหนึ่งเท่านั้น
ทว่าๆ หลายๆ element ของหนังอีกด้านหนึ่งก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวเลย อย่างที่บอกว่ารวมๆหนังมันค่อนข้างเรียบๆเบาๆ แห้งเหือดจนน่าเบื่อไปหน่อย แต่คิดว่าไอเดียมันตั้งใจจะเล่าจริงๆ เราก็พอจะสนุกในความเป็นหนังสยองขวัญไล่เชือดผสมๆกับหนังโกงความตายที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าของมัน
มุมกล้องดี ดูตั้งใจจะถ่ายฉีกๆงานภาพแนวๆ การตัดต่อที่เขาบ่นๆกัน เราว่าหนังมันก็พอจะแก้ไขเท่าที่ทำได้ไม่เลวเลย และส่วนตัวแล้วสิ่งที่พยุงหนังไว้มากสุดๆคือชุดนักแสดงทั้ง 4 คนอย่าง dakota johnson, sydney sweeney, isabel merced และ celeste o’connor ที่ต่างส่งไม้รับเคมีกันต่อไปมาได้ไหลลื่นราวกับสายไยแมงมุมที่ถูกเชื่อมเข้าเอาไว้ด้วยกัน
แม้ระหว่างทางหนังจะราบเรียบแค่ไหน มีแผลมากขนาดไหน แต่ตัวละครของทั้ง 4 คนมันน่าสนใจมากๆ ซึ่งก็รวมถึงการแสดงของทุกๆคนที่สนุกกับบทบาทที่ตัวเองได้รับกันมากๆ เราชอบในความสัมพันธ์แบบพี่เลี้ยงเด็กของแคซซี่และเหล่าเด็กๆอย่างจูเลีย อันยา และแม็ตตี้มากๆ มีความดื้อๆซนๆไม่ฟังคำสั่งพี่เลี้ยง มีการช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกันอะไรแบบนี้
และแน่นอนว่า Sydney Sweeney ในลุคสาวแว่นเนิร์ดๆคือดีต่อใจมากกกกกกกกกกกกก น่ารักสุดๆ มีความขี้อ้อนขี้งอนง่าย เป็นน้องคนเล็กสุดของทีมที่เป็นคน nice person สุดๆ ส่วน Dakota Johnson ก็สวยแบบตัวแม่มากจริงๆ
จริงๆแล้วเราไม่เชิงกับชอบหนังอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้เกลียดหนังจนอยากจะด่าเสียๆหายๆ เราว่าหนังมีความน่าสนใจ มีนักแสดงที่เขาเล่นสุดความสามารถ มีการพยายามจะทำอะไรใหม่ๆออกมา เพียงแต่ว่าความเละเทะยุ่งเหยิงจากหลายๆปัจจัย ก็เลยจะน่าเสียดายที่ตัวหนังอาจจะไม่มีแววได้สร้างภาคต่อออกมาแน่ๆ ทั้งที่ปูตอนจบมาขนาดนั้นแล้วก็ตาม
คะแนน: 2.5/5 ดาว
หนังครอบจักรวาล
Madame Web (2024) – สี่สาวชักใย !!
Director : S.J. Clarkson
Genre : Action, Adventure, Sci-Fi
– ออกตัวก่อนว่าเป็นคนหนึ่งที่เอนจอยกับหนังอยู่นะ อาจจะแบบไม่ได้ชอบมากมาย แต่รอบนี้ไม่หลับแหะ (ไม่รู้ว่าเพราะต้าว Sydney คอยดึงสายตาไว้ไหมนะ) แต่ก็อย่างที่บอกหนังมันเต็มไปด้วยบาดแผล ถ้าจะให้เปรียบก็คือ เหมือนทหารที่ผ่านศึกสงครามมาทั้ง World War I และ World War II เลยแหละ โชกโชนไปด้วยรูกระสุน ที่ยังยืนหยัดจะสู้ต่อ
– อย่างแรกเลย ผมสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่โคตรจะแปลก หลายๆซีนมักให้เราได้ยินเสียงตัวละคร แล้วภาพตัดไปที่อื่นเหมือนกับว่ามีการถ่ายซ่อมกันยับๆ ซึ่งจากข่าวที่ Dakota Johnson ออกมาบอกก็ดูจะเป็นเรื่องจริงแบบ 100% แล้วแหละ ที่สำคัญเลยคือหนังมันโคตรจะไม่สมูท ดูไปเอ๊ะใจไป ดูไปนั่งงองแดกไป งองแบบจะลำดับภาพแบบนี้ทำไมน้า???
– สิ่งที่เซ็งเป็ดอีกอย่างคือการที่ตัวละครมีพลังในการนิมิตร แต่การนิมิตรนั้นๆไม่ได้ส่งผลต่ออะไรเลย หรือแบบมันเป็นการนิมิตรที่ไม่มีอะไรหวือหวาทั้งนั้น มันดูจืดๆสุดๆ และก็หนังมักจะเล่าเรื่องราวต่างๆแบบไร้ค่า ไร้แก่นสาร เช่นตอนงานเลี้ยงเบอร์เกอร์ คุยไดอะล็อคเรื่องเบอร์เกอร์เกือบ 5 นาที ผมถามคำเดียว ใครมันอยากรู้เรื่องเบอร์เกอร์วะ ถ้าอยากรู้เดี๋ยวเปิดยูทูปดูเอง…
– มันมีหลายๆครั้งที่โคตรจะ cringe เลย โดยเฉพาะการปูหรือสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครผูกพันธ์กัน เชื่อมะนอกจากวิ่งหนีอันตรายและเต้นบนโต๊ะแดกข้าวแล้ว การจะให้ตัวละครรักกันต้องฝึกทำ CPR คือตัวละครมาดามเว็บอ้ะ เค้าเป็นหน่วยกู้ภัย ที่แบบ CPR ได้ เราก็จะได้เห็นซีนที่ตัวละครมาดามเว็บ สอนเด็กสาวทั้งสามคน ผลัดกันทำท่า CPR หุีน ผมแบบโคตรขนลุก โคตรอีหยังวะ CPR หุ่นแล้ว ผูกพันธ์กันละ อะไรอ่ะ!
– แต่หนังมันก็มีข้อดีในช่วงองก์แรกอยู่ ผมมองว่าเคมีแปลกๆของทั้ง 4 ตัวละครที่โคตรไม่เข้ากัน แต่ต้องมาเจอสถานการณ์แปลกๆด้วยกัน ผมว่าตอนนั้นสนุกดีนะ แถมผมเองก็ไม่สามารถละสายตาจาก Sydney Sweeney ได้จริงๆ เธอน่ารักทุกอิริยาบท ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้จะไม่ได้โชว์ sex appeal อะไร แต่เสน่ห์ก็ล้นจอ ซึ่งก็เหมือนกับชุดฮีโร่ของแต่ละคนในตัวอย่าง เราก็จะได้เห็นแค่ในนิมิตรแบบรวมๆกันไม่ถึง 5 นาที…
‼️‼️สรุป‼️‼️ เป็นหนังที่ผมจอยนะในช่วงองก์แรกๆ พอมันเริ่มผูกพันธ์กัน เราเริ่มถูกผลักออกจากหนัง บทป่วยเอาเรื่อง เรื่องราวที่ควรจะเล่าไม่เล่า ไปเล่าเรื่องเบอร์เกอร์ มีการใส่ตัวละครแม่ของปีเตอร์ พาร์คเกอร์มาให้ว้าวซ่าเล่น อะไรที่คิดว่าจะได้เห็น ก็จะไม่ได้เห็นเลย เอาเป็นว่ามันคือต้มจืดที่ลืมปรุง แต่ก็ยังโชคดีที่หมูสับ กับเต้าหู้มันยังพออร่อยอยู่บ้าง!!!
💚ความชอบส่วนตัว 2.5/5
🎬ความเป็นหนัง 1.5/5
☄️ หนังดาวตก 4/10
เสพติดดูหนัง
Movie Review • Madame Web• มาดามเว็บ (2024)
– ไร้การสปอยเนื้อหาสำคัญ –
ถือว่าเป็นการเปิดจักรวาลแมงมุม ที่แอบผิดหวังไม่น้อยเลย แม้จะได้นักแสดงขวัญใจเรามาแสดงเยอะแต่ไหนก็ไม่ช่วย คือมันไม่สามารถที่จะสร้างความประทับใจหรือเป็นที่น่าจดจำได้เลย นอกจากความน่าเบื่อหน่ายและความจืดชืดตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งโดยส่วนตัวเราไม่ได้คาดหวังว่ามันจะต้องเป็นหนังที่เพอร์เฟคนะ แต่อย่างน้อยขึ้นชื่อว่าเป็นการเปิดจักรวาลทั้งทีมันน่าจะสร้างอิมแพคซัมติงอะไรซักอย่างนึง เพื่อที่จะทำให้คนเค้าอยากที่จะดูมันต่อ
ในส่วนของเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมาก แต่มีกลิ่นอายความน่าสนใจอยู่ในนั้น พื้นเพตัวละครตั้งแต่ตัวนางเอกยันตัวร้ายก็คือเล่าออกมาแบบเรียบๆ ตรงๆ ว่าอะไรคือชนวน อะไรคือจุดเริ่มต้น ความต้องการต่างๆ คืออะไร และมันจะเชื่อมโยงไปในสถานการณ์อื่นยังไง เว้นก็แต่แก๊งค์สามใบเถาที่เราจะยังไม่ค่อยเห็นและรับรู้อะไรมาก รับบทนางกั๊กฟีล 1!!
เราขอแยกประเด็นและรวบรวมส่วนที่เรารู้สึกว่าไม่ชอบในตัวหนังเป็นหัวข้อ
อย่างแรก : มันเล่าช้าและหมดเวลาไปกับการเกริ่นในส่วนที่มันไม่จำเป็นนานจนน่าเบื่อ ไปจนจังหวะการตัดต่อที่ดูแบบชวนเวียนหัว คือเราเข้าใจนะว่ามันคือกิมมิกของสเกลพลังที่หนังมันพยายามจะสื่อ ให้คนดูรู้สึกและสัมผัสได้ถึงสเกลนั้น แต่บางทีพอเวลามันมากไป มันก็สร้างผลเสียได้เหมือนกัน
อย่างที่สอง : ตัวละครในเรื่องดูจืดมาก เริ่มกันตั้งแต่ตัวนางเอกเองที่สำหรับเรา นางดูไม่ค่อยมีศักยภาพที่จะมาเป็นผู้นำเลย ทั้งการตัดสินใจที่มันดูขัดหูขัดขัดตา จนเรารู้สึกว่าแบบอันนี้คือคิดดีแล้วใช่ไหม ไปจนตัวร้ายในเรื่องที่ให้ฟีลลิ่งเหมือนคนมีตังค์ทำตัวงอแง อยากจะเบ่งอำนาจและอยากจะจัดการสิ่งที่มันดูขัดหูขัดตา(ด้วยเรื่องราวบางอย่าง) ซึ่งมันดูง้องแง้งปนน่ารำคาญมาก
และสุดท้ายเลยคือแก๊งค์สามใบเถาที่เคมีดูเข้ากันแบบจับวาง คนนึงทำยังงั้น คนนึงทำอย่างนี้ บางอย่างก็ดูแบบคือมึงเพิ่งรู้จักกันนะ แล้วซึ่งทั้งหมดทั้งมวล เมื่อเหล่าตัวละครต้องมาอยู่ด้วยกันในชะตากรรมเดียวกัน ผลออกมาคือดูกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง และพอมาในตอนท้ายก็เหมือนมัดมือชกด้วยซีเคว้นช์ใหญ่ในตอนท้ายให้คนดูให้เชื่อว่า อ๋อววว์พวกเราคือทีมเดียวกันนะ แบบนี้จบ
อย่างที่สาม : คือการรับรู้และการเข้าใจในเรื่องราว เพราะหนังมันไม่ค่อยขยี้ในส่วนที่มันจะต้องขยี้เลย ถึงเวลาคือเหมือนเล่าปุ๊บ ทำปั๊บ เฉลยเลยอะไรทำนองนั้น ผสมกับการตัดต่อฉับพลันแล้วก็เข้าสู่ซีนต่อไป มันเลยทำให้เราไม่ได้อินกับสถานการณ์ในเรื่อง ผลที่ตามมาคือมันไม่ได้สร้าง Impact อะไรให้กับเราเลยว่า ตัวละครมันผ่านอะไรกันมา ตัวละครมันน่ายกย่องหรืออยากที่จะทำให้เราอยากจะรู้เรื่องราวในอนาคตในจักรวาลต่อมั้ย แม้ว่าเราจะชอบภาพนิมิตในอนาคตของตัวละครทั้งสี่ก็ตาม นิยามให้หนังเรื่องนี้เลยว่า “แกงอ่อมหม้อรวมมิตรสุด”
สุดท้ายแล้วถ้าจะถามว่ามันคุ้มค่าแก่การที่จะเข้าไปดูมั้ย อันนี้พูดในมุมตัวเองนะว่าหนังไม่ว่ามันจะดีหรือว่ามันจะแย่แค่ไหน คนที่จะตัดสินได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเองนี่แหละ อ่านรีวิวแค่พอเป็นแนวทางพอ จะมายึดทุกสิ่งทุกอย่างจากรีวิวไม่ได้ เพราะนี่ก็เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของทางเพจ
และส่วนที่ชอบอะ มันคือเสี้ยวนึงจริง ๆ คือรูปแบบ “พลัง” ของตัวละครที่น่าสนใจมาก และซีนไคลแมกซ์ที่โกลาหลแบบสุด ๆ ซึ่งพอดูใน IMAX with Laser แล้วอะ ภาพมันคมดึงดูดสายตาอยู่ เสียงกระหึ่มแน่นหูแบกอารมณ์ขั้นสุด ซึ่งระบบมันทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว หากดูโรงธรรมดาฉันว่าอ่อมหนักจนหลับคาเบาะก็เป็นได้
Score : 5/10
Admin Minho, Sprite
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน madame web
She-Hulk Attorney at Law (2022) ชี-ฮัลค์
The Marvels (2023) เดอะ มาร์เวลส์
Black Widow (2021) แบล็ค วิโดว์
Captain Marvel (2019) กัปตันมาร์เวล
Black Panther wakanda forever (2022) แบล็ค แพนเธอร์ วาคานด้าจงเจริญ
6.3