ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7

8 คะแนน

ตัวอย่าง

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7

KUBHD ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7

เรื่องย่อ

หลังจาก โอเว่น ชอว์ (ลุค อีวานส์) โดนจัดเต็มในตอนจบของFast & Furious 6ทำให้เด้คคาร์ด ชอว์ (เจสัน สเตแธม) พี่ชายตัวแสบอดีตมือสังหารหน่วยรบพิเศษ สุดคลั่ง บุกล้างแค้นคิดบัญชีกับคนที่ทำร้ายน้องชาย งานนี้ทั้งทีมดอม (วิน ดีเซล) และฮ็อบส์ (ดเวยน์ จอห์นสัน) โดนจัดเต็มซึ่งฮาน (ซุง คัง) เป็นคนแรกที่ต้องเสียชีวิต พร้อมกับการส่งระเบิดไประเบิดบ้านดอม และที่ทำงานของฮ็อบส์ ก่อนเปิดฉากไล่ล่าเด้คคาร์ด ชอว์ ของดอมและทีม ฝ่าย FBI มิสเตอร์โนบอดี้ (เคิร์ท รัสแซล) ก็มีข้อเสนอมาแลกเปลี่ยนโดยให้ดอมและทีมไปตามเอาตัวแรมซี่ย์แฮกเกอร์ที่สร้างโปรแกรมดวงตาเทพ โปรแกรมแกะรอยระดับเทพ ซึ่งโดนผู้ก่อการร้ายโมซี่ จาคานดี้ (ดิจิมอน ฮาวน์ซู) จับตัวไป หากงานนี้สำเร็จดอมและทีมก็จะได้รับการช่วยเหลือในการตามจับเด้คคาร์ด ชอว์ เมื่อครอบครัวต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อการล้างแค้นอย่างแสบสันอีกครั้ง

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 เป็นภาคที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยแอ็คชั่นในภาพยนตร์แฟรนไชส์ยอดนิยม กำกับโดยเจมส์ วาน ภาพยนตร์เรื่องนี้เผชิญกับภารกิจที่ท้าทายในการผลิตให้เสร็จสิ้นภายหลังการเสียชีวิตอันน่าสลดใจของนักแสดงพอล วอล์คเกอร์ แม้จะมีความยากลำบาก แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องมรดกของวอล์คเกอร์เท่านั้น แต่ยังมอบความตื่นเต้นและความลึกซึ้งทางอารมณ์อย่างที่แฟน ๆ คาดหวังอีกด้วย

เรื่องย่อ: เรื่องราวเริ่มต้นจากดอม โทเร็ตโต รับบทโดยวิน ดีเซล และทีมงานของเขาใช้ชีวิตที่ดูเหมือนปกติหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ความสงบสุขของพวกเขาต้องพังทลายลงเมื่อเด็คคาร์ด ชอว์ผู้อาฆาตแค้น ซึ่งแสดงโดยเจสัน สเตแธม พยายามหาทางแก้แค้นให้กับการตายของพี่ชายของเขา ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ทีมได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับของรัฐบาล มิสเตอร์โนบอดี้ รับบทโดยเคิร์ต รัสเซล ซึ่งขอความช่วยเหลือในการกู้คืนอุปกรณ์เฝ้าระวังอันทรงพลังที่เรียกว่า “ก็อดส์อาย” ภารกิจนี้จะพาพวกเขาไปทั่วโลก นำไปสู่ฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นและช่วงเวลาสะเทือนอารมณ์

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 โดดเด่นด้วยการสูญเสียอันน่าเศร้าของ Paul Walker ในระหว่างการผลิตภาพยนตร์ ทีมผู้สร้างเลือกที่จะให้เกียรติแก่ความทรงจำของวอล์คเกอร์ด้วยการจบภาพยนตร์เรื่องนี้และกล่าวคำอำลาตัวละครของไบรอัน โอคอนเนอร์อย่างสุดหัวใจ การใช้เทคโนโลยี CGI การเพิ่มรูปร่างเป็นสองเท่า และการสนับสนุนจากพี่น้องของวอล์คเกอร์ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ตัวละครมีอารมณ์ที่เหมาะสมและสะท้อนอารมณ์ได้

ฉากแอ็คชั่น: ตาม DNA ของแฟรนไชส์นี้ Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 นำเสนอฉากแอ็กชั่นที่ทำให้ต้องอ้าปากค้างซึ่งก้าวข้ามขีดจำกัดของความโกลาหลของยานพาหนะ ตั้งแต่การไล่ล่าด้วยความเร็วสูงไปตามถนนในลอสแองเจลีสไปจนถึงการแสดงโลดโผนที่น่าทึ่งในภูมิประเทศที่เป็นภูเขาของอาเซอร์ไบจาน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้แฟน ๆ ตื่นเต้นระทึกใจด้วยภาพ

หน่วยสืบราชการลับระหว่างประเทศ: การเพิ่มแผนการจารกรรมระดับโลกทำให้เกิดมิติใหม่ให้กับจักรวาล Fast & Furious ภารกิจของทีมในการกอบกู้ “God’s Eye” นำพวกเขาไปสู่ดินแดนและความท้าทายที่ไม่คุ้นเคย โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถของซีรีส์ในการพัฒนาในขณะที่ยังคงรักษาธีมหลักของครอบครัว ความภักดี และการผจญภัยที่มีเดิมพันสูงไว้

เสียงสะท้อนทางอารมณ์: นอกเหนือจากฉากแอ็คชั่นแล้ว Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 ยังโดดเด่นด้วยการสะท้อนอารมณ์ ความสนิทสนมกันและความรักอันจริงใจระหว่างนักแสดง โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับพอล วอล์คเกอร์ ทำให้เกิดประสบการณ์การรับชมที่หวานอมขมกลืนแต่ท้ายที่สุดก็อบอุ่นหัวใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยกย่องไม่เพียงแต่ตัวละครของวอล์คเกอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิตรภาพที่ยั่งยืนที่กำหนดแฟรนไชส์นี้ด้วย

บทสรุป:  เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่นของครอบครัว Fast ทั้งในและนอกจอ ภาพยนตร์เรื่องนี้สรุปแก่นแท้ของแฟรนไชส์นี้ผ่านฉากแอ็กชั่นที่เร้าใจ การแสดงความเคารพอย่างจริงใจ และการกล่าวอำลาพอล วอล์คเกอร์ด้วยอารมณ์ความรู้สึก โดยทำหน้าที่เป็นทั้งรายการที่น่าตื่นเต้นในซีรีส์นี้และเป็นการแสดงความเคารพต่อพี่ชายผู้ล่วงลับ ทิ้งร่องรอยไว้ในใจของแฟน ๆ ทั่วโลกอย่างไม่มีวันลบเลือน รัดเข็มขัดเพื่อการเดินทางที่ไม่เพียงแต่รวดเร็วและรุนแรงเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่จริงใจและจิตวิญญาณที่ยั่งยืนของครอบครัว

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7 หนังประเภท Crime อาชญากรรม เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

ผู้กำกับ

เจมส์ วาน

บริษัท ค่ายหนัง

  • ออริจินอลฟิล์ม
  • วันเรซฟิล์ม
  • มีเดียไรส์แคพิทอล
  • ไชนาฟิล์ม

นักแสดง

  • วิน ดีเซล
  • พอล วอล์กเกอร์
  • ดเวย์น จอห์นสัน
  • จอร์ดาน่า บรูว์สเตอร์
  • ไทรีส กิบสัน
  • มิเชลล์ ร็อดริเกซ
  • คริส บริจส์
  • เจสัน สเตธัม

โปสเตอร์หนัง

KUBHD ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 7 (2015)

KUBHD ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 7 (2015)

KUBHD ดูหนังออนไลน์ Fast And Furious 7 (2015)

รีวิวหนัง

รีวิวกระทู้ pantip Jackobot

[CR] Fast and Furious 7 รีวิว

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7

สิ่งที่น่าสนใจของหนังตระกูล Fast และผมค่อนข้างจะชื่นชอบมากๆคือหนังมันพยายามหลุดจากความจำเจ ไปสู่การเป็นหนังจารกรรม ทรชนคนอึด คือนอกจากจะแข่งรถกันทั่วไป มีการเอาเรื่องสายลับ วางแผนปล้น มาทำให้ตระกูล Fast มีความสดใหม่ โดยเอาแอ๊คชั่นขับรถมาเป็นศูนย์กลางเพื่อยังคงความเป็นหนังตระกูล Fast อยู่

และอีกสิ่งหนึ่งที่ชื่นชอบคือการเอาตัวละครเทพๆ หรือนักแสดงเจ๋งๆมารวมทีม มาเป็นเหล่าร้าย ให้ได้ตัวเอกปะฉะดะกัน ยิ่งภาคนี้ยังมี Jason Statham ,Kurt Russell, Ronda Rousey , Djimon Hounsou รวมถึงไปถึงคุณพี่ จา พนม ของชาวไทยเรา ก็ทำให้ยิ่งรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่มันหนัง The Expendable ภาคใหม่หรือเปล่าเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

สิ่งที่ผมชื่นชอบ คือความเวอร์ของฉากแอ๊คชั่นที่พยายามพัฒนาขึ้นทุกภาคโดยไม่สนใจกฎเกณฑ์ทางฟิสิกส์ หรือกายภาพของมนุษย์ มันทำให้เราได้เห็นแอ๊คชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ โอเวอร์อลังการเหนือจินตการ นอกจากจะทำให้คนดูได้มันส์สะใจในอารมณ์ บางครั้งยังเผลอหลุดขำไปกับความโม้เลยทีเดียว อย่างในภาค 7 นี้ก็มีฉากแอ๊คชั่นที่เป็นจุดขายและน่าสนใจอย่างฉากปล่อยรถลงเครื่องบิน ฉากไล่ล่าในกลางเรื่อง ฉากขับรถทะลุตึก ที่มันสนุกสนานเฮฮาและมันส์ได้ใจคนดูจริงๆ

นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ตระกูล Fast นั้นดูได้เพลิดเพลินและสนุกสนานโดยมองข้ามคุณภาพของบทไปได้ นั่นคือการสร้างสรรค์ตัวละครที่มีเอกลักษณ์ในความอบอุ่น โรแมนติค มีอารมณ์ขัน และความสัมพันธ์ของตัวละครในลักษณะครอบครัวที่ทำให้คนดูสามารถหลงรัก และคอยเอาใจตัวละครเหล่านี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

และนี่เป็นข้อดีของ Fast และ Fast 7 ก็ยังสามารถยึดมั่นข้อดีของตัวเองตรงนี้ได้อย่างเหนียวแน่น จนผมรู้สึกว่าหนังอย่าง The Expendable หรือแม้กระทั่งหนังอย่าง Transformers เองควรจะเอามาเป็นตัวอย่างด้วยซ้ำ ว่าจะยึดมั่นแนวทางของหนังแอ๊คชั่นโอนลี่ไว้ได้อย่างไรให้คนดูยังคงชื่นชอบอยู่

แต่ปัญหาของ Fast 7 กลับไปตกอยู่ที่บทหนังที่เข้าขั้นย่ำแย่เลยทีเดียว โอเคเราอาจจะยอมรับว่าหนังแนวนี้เราจะไปใส่ใจบทหนังอะไรมากมาย ก็เป็นสิ่งที่ผมยอมรับได้หากบทหนังที่ว่าถึงแม้มันจะไม่ได้ดีนักแต่การร้อยเรียงเรื่องให้มันมีความสมเหตุสมผลพอควรที่ทำให้หนังดำเนินเรื่องไปตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็สามารถชื่นชอบ สนุก และรักหนังที่มีบทและเนื้อเรื่องที่ไม่ดีได้ แต่ปัญหาของ Fast 7 คือบทที่ค่อนข้างไร้เหตุผลรุนแรง การตัดสินใจของตัวละคร และเหตุการณ์หลัก เหตุการณ์รองของเรื่องที่ใส่เข้ามา มันดูไม่มีเหตุและผลที่ดี จนดูออกว่าพยายามใส่เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เพียงเพื่อนำไปสู่แอ๊คชั่นเท่านั้นเอง อาทิเช่น การที่ดอมตัดสินใจเลือกช่วยเหลือสายลับที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาเสนองานให้ การที่จู่ๆตัวร้ายหลักอย่างเจสันก็ไปร่วมมือกับตัวร้ายรอง การที่จู่ๆของสำคัญที่สุดของเรื่องก็โดยขโมยไปโดนใครก็ไม่รู้เพียงเพื่อให้พวกพระเอกบุกไปขโมยคืนเท่านั้น

จริงๆถึงแม้ว่าบทมันจะแย่ไร้เหตุผล แต่ก็ต้องยอมรับว่าแอ๊คชั่นที่ใส่มาตั้งแต่ต้นเรื่องจนกลางเรื่อง รวมถึงมุขต่างๆมันพอให้เราลืมความไร้เหตุผลตรงนี้ไปได้ แต่ในที่สุดมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวหนังเองในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย เพราะบทหนังเองไม่สามารถทำให้คนดูคล้อยตามและอินไปกับหนัง รวมถึงปัญหาที่ Fast 7 ภาคนี้มีเหมือนภาค 6 (และเป็นปัญหาใหญ่ๆของหนังขายแอ๊คชั่นหลายๆเรื่อง) คือการที่แอ๊คชั่นสุดพีคเวอร์อลังการมันจบลงไปตั้งแต่กลางเรื่อง และแอ๊คชั่นช่วงท้ายกลับไม่มีอะไรให้รู้สึกว้าวแล้ว เป็นเพียงการขับรถไล่ล่าและยิงกันธรรมดาแบบที่เราจะเห็นในหนังแอ๊คชั่นทั่วๆไป (หรือต่อให้ไม่ทั่วไป ความพีคของแอ๊คชั่นตั้งแต่ต้นเรื่องจนกลางเรื่อง มันก็ทำให้ช่วงท้ายดูธรรมดาไปเลย) อีกทั้งการตัดต่อฉากแอ๊คชั่นที่ชวนสับสน มันทำให้ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายค่อนข้างน่าเบื่อและชวนง่วงเลยทีเดียว

สรุปแล้ว หากใครที่เป็นแฟนของหนังตระกูล Fast ไปดูก็ไม่น่าจะผิดหวัง เพราะการได้เห็นแอ๊คชั่นโม้ๆ และตัวละครที่เราชื่นชอบ แค่นี้ก็ทำให้การดู Fast ภาคนี้สนุก โดยไม่ต้องสนใจอะไร แต่อย่างไรก็ตามด้วยบทที่แย่ที่สุดในจำนวนทั้ง 7 ภาค มันก็ทำให้ Fast ภาคนี้ยังไม่ดีอย่างที่มันควรจะเป็นครับ

>>>>> C+ <<<<<

ปล.การจบเรื่องราวของตัวละครไบรอัน ที่รับบทโดย Paul Walker ก็ถือว่าทำได้ดีในความคิดของผม และถือว่าเป็นการให้เกียรติ Paul ผู้ล่วงลับไปได้อย่างสวยงามทีเดียว

ปล.2 การแสดงของพี่จา พนม ในเรื่อง Fast 7 ก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงในอาชีพนักแสดงของพี่จา ในอนาคต เพราะบทบาทของคุณจา ก็ยังเป็นบทบาทเดิมๆราวกับ Copy Paste ตัวละครที่คุณจาเคยเล่นมา และเปลี่ยนแค่เสื้อผ้าหน้าผม พี่จาของเรายังไม่สามารถเปล่งประกายออร่าของนักแสดงคุณภาพให้เราเห็นได้ แต่มันก็อาจจะเป็นเพราะบทที่พี่จาได้รับ ผมก็ยังเฝ้าติดตามพี่จา พนมของไทยเราต่อไป ว่าจะสามารถพัฒนาบทบาทได้การแสดงมากไปกว่าการรับบทแอ๊คชั่นมิติเดียวแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้หรือไม่ และใช่ครับ พี่จา ใน Fast 7 ทั้งเรื่องแล้ว พี่แกพูดอยู่แค่สองพยางค์เท่านั้น T w T

ปล.3 ผมได้ไปดูเรื่อง Fast 7 ที่ Major พระราม 3 รอบ 20:30 โฆษณาสินค้าเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่าจะเป็นสิบชิ้นได้

รีวิวกระทู้ pantip สมุดคัดไทย

Fast And Furious 7 (2015) เร็ว…แรงทะลุนรก 7

จากมุมมองของ

– คนไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ FF แต่ดูครบทุกภาคจากดีวีดี

– ชอบวิน ดีเซลกับเจสัน สแตแธม

– ชอบอาเจ๊มิเชล โรดริเกรซ (กล้ามเจ๊ชวนซบมากฮะ)

– โดนกระแสในเน็ตทำให้อยากไปดูในโรง

เมื่อไร / ที่ไหน / เท่าไร

– โรงภาพยนตร์ SF Cinema City MBK รอบ 16.40 วันที่ 02/04/2015

– 160 บาท

หลังดูจบ

– เกือบเสียน้ำตา

– แอคชั่นเยอะสะใจจนล้นเลย

– ตอนจบเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่แบบพองฟูและห่อเหี่ยวไปในเวลาเดียวกัน

– ทุกรอยยิ้มของไบรอันบนจอมันมีความสุข แต่มันเศร้ามากจริงๆ

เอาตรงๆ เราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้หนังชุดนี้เลย ดูครั้งแรกก็ภาคสามแล้วค่ะ โตเกียวดริฟท์ เพราะชอบเพลงค่ะ 555

(อีเพลงที่ทำเพลงฟังออกแค่ ดริฟท์ๆๆๆๆ นั่นแหล่ะค่ะ…)

แถมได้ดูเพราะน้องชายเป็นแฟนวิน ดีเซล และเดอะร็อคด้วยค่ะ (น้องเป็นแฟน WWE)

เราเองก็ได้ดู WWE กับน้องบ้างนิดหน่อย แล้วก็ตามดูหนังของพี่เขาสองคนเรื่อยๆ ฮะ (หนังย่อยง่าย)

แล้วก็เป็นเพื่อนดูหนังของพี่เจสันกับน้องอีกเหมือนกัน แต่ก็ไม่ค่อยได้ตีตั๋วไปดูนะ ถ้าไม่ว่าง 555

สรุปเลยว่า

เราเข้าไปดูเพราะกระแสในเน็ตนี่แหล่ะค่ะ ว่าหนังตอนจบทำดีมาก ในแง่ของการเคารพพอล…

เลยอยากดูขึ้นมาเลย แต่ก็กลัวจะผิดหวังอยู่นะ เพราะเราสะเทือนใจกับการจากไปของพอลเหมือนกัน แม้จะไม่ได้มากก็เหอะ

แต่เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่จะไม่มีวันให้นักแสดงที่รักในหนังเรื่องใหม่ๆ อีกแล้ว

และในหนังที่คุณดูเรื่องนี้จะเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของเขา (เราชอบฮีธ เลดเจอร์มากค่ะ)

เราเลยพยายาทำใจให้ไม่คิดไปเองเยอะว่าหนังจะต้องโคตรดี เพราะก็พอจะมีกระแสแว่วๆ มาอยู่ว่า เฮ้ย มันก็ไม่ได้เริ่ดขนาดนั้น

มีจุดบกพร่อง มีความเละเทะของบทที่ต้องปรับอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ อยู่นะ ก็โอเค ไปดูแบบทำใจว่างๆ แล้วกัน

หนังเปิดเรื่องให้เรารู้สึกว่า โอ้…นี่เราไม่ได้ดูหนังชุดนี้นานมากแล้วนะ คือแทบจะไม่ได้ดูซ้ำเลย

ทำให้อยากจะขุดดีวีดีมาดูให้หมด ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุด (ภาค 6)

เรื่องราวและชีวิตของทุกตัวละครที่เราเคยเห็นและจำได้ถูกนำกลับมาใช้เกือบครบ

เน้นประเด็น ‘Family’ และ ‘Brothers’ มาก จนต่อให้ไม่ใช่แฟนเดนตายก็น่าจะสัมผัสได้ว่า

มันคือหนังที่ทำมาเพื่อสดุดีและอาลัยรักในตัวพอล วอล์คเกอร์จริงๆ

นอกจากประเด็นหลักของเรื่องที่ทำทุกอย่างเพื่อปกป้องดูแลครอบครัวของพวกเขาแล้ว

ก็ขอพูดถึงส่วนที่ปกติจะทำให้ชอบหนังประมาณนี้หน่อย

เพราะชอบหนังประมาณนี้ ตัวบทไม่ค่อยคิดอะไรเยอะ ถ้าไม่ประหลาดจริงๆ

นั่นก็คือฉากแอคชั่นและ CG ซึ่งต้องบอกว่าในส่วนของฉากแอคชั่น และคิวบู๊ทำออกมาได้ดี สะใจมาก

ในช่วงแรกๆ สนุกกับมันมาก แต่สักพักเราก็เริ่มอึดอัดค่ะ 555

ไม่ใช่ว่ามันแย่ลงเรื่อยๆ นะ ฉากแอคชั่นทำดีมาก ยกนิ้วให้เลย แต่มัน ‘เยอะ’ เกินไปอ่ะค่ะ

เราคิดว่าถ้ากระชับความยาวของแต่ละฉากลง มันจะไม่เอียนเท่านี้

แต่อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ คนอื่นอาจจะชอบก็ได้ มันก็จุใจดีอ่ะ แค่เรารู้สึกว่ามันไม่กระชับพอแค่นั้นเอง

ถ้าออกเป็นดีวีดีแล้วดูไปรีดผ้าไป ก็น่าจะไม่เอียนเกินไปนะ (อันนี้ชมนะ)

ส่วนพี่จาเท่ฮะ คิวบู๊เป็นเอกลักษณ์มาก

แต่ตอนพูดภาษาไทยปรับหูไม่ทัน ก็เลยไม่ทันได้ฟังว่าพูดอะไร ทั้งที่ก็เป็นวลีธรรมดา 555

ซีนสุดท้ายที่พี่แกโผล่มาแอบคิดนิดนึงว่าก็ยังพอไปต่อได้น่า ถ้าภาคต่อไปยังเล่นอยู่ก็ดีนะคะ

ส่วน CG ก็ทำออกมาโอเค ไม่มีอะไรที่รู้สึกประหลาด

แต่ในส่วนของ CG ที่สร้างใบหน้าของพอลขึ้นมาหน้าของน้องชายพอล

ทำออกมาดีนะ เหมือนอ่ะ แต่เรารู้สึกได้ทันทีว่า อืม ฉากนี้แหล่ะ CG ยิ่งทำให้เราเศร้าขึ้นไปอีกอ่ะ มันหน่วงในใจ

นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก หนังทำให้เราคิดถึงเรื่องราวต่างๆ มาตลอดทั้งเรื่องแหล่ะ

เพราะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง ยิ้ม…ไม่ใช่สิ

เอาใหม่…หนังร้อยเรียงความทรงจำในแต่ละภาคและเหตุการณ์ต่างๆ เป็นระยะ

ทำให้พอมาถึงบทสรุปที่เราก็คิดอยู่แล้วว่าคงออกมาแบบนี้ แต่ก็อดสะเทือนใจไม่ได้

ทั้งบท ทั้งเพลง และฉากสุดท้ายทำให้เกือบจะน้ำตาไหลออกมาจริงๆ

มันเป็นการจากไปที่ไม่มีใครได้ทั้งตั้งตัว แต่ทีมงานทุกคนก็ทำทำให้เขาก็ได้ร่ำลาแฟนๆ บนแผ่นฟิล์มอย่างสวยงาม

เพื่อที่จะบอกว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ห่างกันแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ได้จากไปไหนเลย เพราะเขาจะอยู่ในใจและความทรงจำของเราตลอดไป

ไม่ว่าเราจะห่างกันแค่ 1 ส่วนสี่ไมล์ หรือคนละซีกโลก นายจะอยู่กับฉันเสมอ

No matter where you are. Whether its a quarter a mile away or halfway across the world you will always be family.

ถ้าจะไปดู

– แฟนหนัง FF ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

– ถ้าคุณชอบหนังชุดนี้มาก และถ้าคุณรักพอล วอร์คเกอร์มากๆ ควรติดเตรียมผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตา

– อย่าเชื่อรีวิวมาก ไปสัมผัสด้วยตนเองกับใจที่ไม่คิดอะไร แล้วคุณจะอินไปกับมัน

– ควรรู้ว่าพี่จาไม่ใช่ตัวประกอบออกมาสิบนาทีตายนะฮะ 555

สรุป

– 8/10

– ถ้าเอาภาพรวมของหนังให้แค่ 7.5 แต่ฉากจบที่ทำขึ้นมาเพื่อพอลมันสะเทือนใจจริงๆ จนต้องกดแต้มให้เพิ่ม

– แอคชั่นสะใจมาก แต่ก็ล้นมาก

– รถมาเซราติของพี่เจสันยิ้มค่อดเท่เลยฮะ TTTTTTT สะเทือนใจมากตอนโดนพี่วินดับเครื่องชน

– เพลงจบเศร้ามากค่ะ โคตรบิ๊ว แบบน้ำตาเกือบมาแล้ว ถ้าเราชอบพอลมากๆ เราคงน้ำตาแตกในโรง

– For Paul, The man who always in our heart.

ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ

ปล. ไม่รู้อ่ะว่าอิกกี้ได้รับเชิญด้วย นี่เกือบกรี๊ดเลย 5555

ปล. 2 พี่ลุค อีแวนส์มาเพื่อนอนเป็นผักซีนเดียวเลย ถ่อว…

ขอบสหนัง

Furious 7

หนังจากที่ผมวนเวียนกับแฟรนไชส์ Fast & Furious มาสักพักใหญ่ จนมาถึงงานลำดับที่ 7 ภาคที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของหนังชุดเรื่องนี้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว หนังได้เจมส์ วาน เจ้าพ่อหนังสยองขวัญ มาปรุงแต่งหนังและเล่าเรื่องได้มีอรรถรสเผลอๆอาจจะได้กว่า จัสติน ลิน ด้วยซ้ำ เพราะงานชิ้นนี้ เขาไม่ได้ทำได้งดงามในเรื่องการออกแบบฉากแอ็คชั่น การต่อสู้กันทั้งการเผชิญหน้า หรือการซิ่งรถ แต่ยังเชื่อมโยงพล็อคหนังเรื่องประเด็นความออกมาได้ไหลเลื่อนเลยละ
.
ข้อดี

ผมขอเว้นเรื่องราวประเด็นดราม่านักแสดงหรือการเสียชีวิตของพอล วอล์คเกอร์ ในระหว่างถ่ายทำ ขอเขียนในสิ่งที่ได้สัมผัสจากหนัง Furious 7 “เหมือนบาปกรรมจากลอนดอน จะตามเราถึงบ้าน” การรวมตัวของทีมแก๊งค์ซิ่ง ที่จากชีวิตอันแสนสงบไม่ได้เป็นอาชญากรกลับกลายเป็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาลายพวกเขา เพราะปมความแค้นจาก Furious 6 หนังเชื่อมต่อประเด็นการตายของ ฮาน จาก Tokyo Drift ผนวกเข้ากับการโผล่มาของตัวละครอย่าง เด็คการ์ด ชอว์ ประเด็นการแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
.
พวก 1 ต้องการแก้แค้นให้เพื่อน อีกพวก 1 ต้องการมาเอาคืนแทนน้องชาย หนังจึงมาพร้อมกับการเผชิญหน้าต่อสู้กันโดยฉากแอ็คชั่นที่ดูจะวินาศสันตะโร ระห่ำถึงขีดสุด เจมส์ วาน แม้จะไม่เคยทำหนังแอ็คชั่นมาก่อนในเวลานั้น แต่เขาทำการบ้านมาดี นำเสนอให้ Furious 7 มีภาพปรากฏต่อสายตาคนดูไหลลื่น วางพล็อตเรื่องให้ดูง่าย สนุกมากยิ่งขึ้น โดยที่แต่ละซีนของหนังฉากบู๊มันค่อยๆไต่ระดับความพีคเข้าไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การดิ่งพสุธาราเพื่อช่วยตัวแรมซี่ ในอาเซอร์ไบจาน, ซิ่งทะลุพิกัดทะลุ 3 ตึกในยูเออี, หรือการปล่อยของซีนสุดท้ายในแอลเอการซิ่ง นอกจากนี้การสร้างประเด็นตาเทพค้นหาบุคคลเข้ามาเพิ่ม ทำให้ทิศทางของหนังต่อยอดไปในภาค 8 อีกด้วย
.
หนังอาจจะดูเว่อไปบ้าง จนมีบางคนไม่ถูกจริตออกแนวขี้โม้ไม่สมจริง แต่ต้องยอมรับการทำงานของ วาน ในการใช้เทคนิค CGI มาคลุกเคล้าในตัวหนังทำให้เราได้ภาพซีนแอ็คชั่นที่ดูมันสะใจคนดู เพราะมันหวือหวา ชวนน่าติดตาม และมันก็ทำให้เราได้เห็นภาพตัวละครไบรอันที่อาจจะไม่สมบูรณ์แบบ เพราะน้องชายเขามาเล่นแทน และต้องตกแต่งใบหน้าให้ดูเนียน แถมยังเป็นการสั่งลาตัวละครนี้ให้ดูเท่ห์ส่งท้ายและปิดฉากให้สมกับที่ครั้งหนึ่งเขาได้อุทิศตัวเองเพื่อหนังเรื่องนี้ ไม่แปลกเลยที่ช่วงท้ายหนังจะเล่นเอาผู้ชมอย่างเราๆน้ำตาไหลพราก ในการอุทิศแด่พอล
.
นักแสดง

เราคิดว่าภาคนี้อาจจะท็อปฟอร์ม ยิ่งทีมดอม เหลือน้อย เราได้เห็นบทบาทสำคัญของครอบครัวชุดนี้ วิน ดีเซล หัวโจ๊กหัวนานทีมลีลาซิ่งกินขาด เป็นพี่ใหญ่, มิเชล โรดริเกวซ สาวซิ่ง 1 เดียวในทีมที่ลีลาไม่แพ้ผู้ชาย, ลูดาคริส ที่เป็นช่างปรับแต่งรถและผู้เชี่ยวชาญด้านไอที , นาตาลี เอ็มมานูเอล เทพคอมพิวเตอร์ที่มาช่วยซัพพอร์ทเทจ, ไทรีส กิ๊บสัน ดาราสายฮาที่มาพร้อมมุกแป๊กที่พร้อมจะสร้างสีสัน หรือพอล วอล์คเกอร์ และน้องชายของเขาอีก 2 ที่่มาช่วยเติมเต็มบทโอคอนเนอร์ ให้สมบูรณ์แบบ

รวมถึงเจสัน สเตแธม ที่มาเป็นนักฆ่าตัวแสบที่มาเพิ่มเคมีความมันส์ในการสู้ตัวต่อตัวกับดอมในเรื่อง ฝาก จา พนม ที่มาร่วมแสดงด้วย เราก็แอบได้ยินสำเนียงไทยของเขาในเรื่องนี้แม้จะน้อยกว่าเพื่อนในการปรากฏตัว แต่เราได้เห็นลีลาศิลปะแม้ไม้มวยไทยการต่อสู้ของเขาที่มาซัดกับไบรอัน 2 ฉากใหญ่จนเราจดจำเขาได้
.
ข้อเสีย

ถ้าไม่มีการเสียชีวิตของพอล และฉากแอ็คชั่นที่มันสะใจคนดู ประเด็นอื่นของหนังก็แทบไม่มีอะไรเลย

สรุป

นี่คือFast ที่ครบเครื่องในฉากแอ็คชั่นทั้งฉากการต่อสู้แบบเผชิญหน้าหรือการไล่ล่าบนท้องถนน โดยที่ใช้ปมความแค้นของตัวละคร 2 กลุ่มมาขยายความได้โคตรบันเทิง แถมช่วงท้ายหนังยังสั่งลาไบรอัน โอคอนเนอร์ ได้ลึกซึ้งจนแอบเสียน้ำตาเลยละ

หนังมีให้ชมแล้วใน Netflix

หนังโปรดของข้าพเจ้า

ฉากที่ชอบมากที่สุดในหนังคือตอนเครดิตขึ้นเพราะจะได้ลุกจากโรงพาแฟนกลับบ้านสักทีหลังเสียเวลาดูหนังที่ไม่ชอบอยู่สองชั่วโมง เป็นการดูหนังที่น่าเบื่อที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตการดูหนัง ดูไปต้องส่ายหัวไปตลอดทั้งเรื่อง

#รีวิวที่ 62/2015 | Furious 7 (2015)

บอกก่อนเลยว่านี่ไม่ใช่ april fool งี่เง่า, ไม่ใช่แฟนเดนตายไล่ดู Fast ทุกภาค (เคยดูแค่ภาค 5 ตะลุยริโอซึ่งก็เฉย ๆ) แล้วก็ไม่ต้องมาด่าว่าเขียนสวนกระแส เพราะเพจนี้ด่าหนังที่ไม่ชอบเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ต่อให้ห่วยหรือไม่ถูกรสนิยมเรา แต่ถ้ามันมีมุมที่น่าสนใจเราก็เขียนชมและเชียร์ (ใครอยากดูว่าชอบ/ไม่ชอบเรื่องไหน คลิกดูคะแนนหนังที่ตรง cover เพจ)

ที่อยากบอกอย่างแรกเลยคือ ‘ทอม ครูซ’ เอ็งขายแฟรนไชส์ Mission Impossible ให้ Fast & Furious ไปเถอะ ในขณะที่ MI พยายามเค้นสมองใช้กึ๋นในการทำหนังภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ให้น่าเชื่อถือ พยายามลดความโม้ลงให้เรียลลิสติกจับต้องได้มากที่สุด แต่ Furious 7 มันโม้มาก ถ้าโม้แล้วสนุกเราก็ยังพอรับได้นะ แต่นี่โม้แบบไม่บันยะบันยัง คือแทนที่เราจะดูแล้วสนุกเรากลับต้องส่ายหัวให้มุกโม้ทุเรศเว่อร์ ๆ เข้าไว้ของหนัง ไม่ว่าจะเป็นขับรถข้ามตึก, รถกันกระสุนแม่งทุกอย่างในโลก, รถเหาะขึ้นไปเกี่ยวระเบิด, ส่งคนข้ามรถขณะดริฟท์ล้อหมุน, และอีกมากมายที่ขนมาโม้ได้สุด ๆ จนไม่เหลือความแปลกใจอะไรแล้ว เป็นการโม้ที่เราเวทนาหนังที่ไม่สามารถหาทางออกให้ตัดจบฉากได้นอกจากจะต้องโม้ให้ยิ่งขึ้น ๆ ไปอีก

เรามองว่า Fast มันมีมาต่อเนื่องได้ด้วยความเป็น iconic สำหรับผู้ชายหลายคน ด้วยรถแต่งสวย ๆ, สาวมาโชว์นมโชว์ตูดโดยไม่จำเป็นตลอดทั้งเรื่อง เหมือนเราบอกว่าหนัง chick flick คือตัวแทนความเพ้อฝันของสาว ๆ Fast ก็คือความเพ้อฝันของผู้ชายทั้งหลาย

แล้วเราจะบอกว่าหนังมันพยายามทำให้ตัวละครนำมีความเป็น ‘พระเอก’ โคตรๆๆๆๆ เป็นพระเอกในแบบที่เรารู้สึกรำคาญที่พวกเขาต้องมาคอยพ่นคำพูดเท่ ๆ ไร้สาระ พร้อมกับการกระทำที่บ่งบอกถึงความเป็นพระเอกไม่ต่างอะไรจากการดูละครไทยของฉลอง ภักดีวิจิตร (อันนี้พูดด้วยความเคารพอาหลองนะ ผมนี่แฟนระย้า, อังกอร์) อย่างเช่นจะโดดออกจากตึกก็ต้องเป็นพระเอกช่วยเหลือหญิงสาวให้รอดด้วย

ที่รำคาญมาก ๆ คือความซ้ำซากอันเกิดจากความเป็นพระเอกของคนกลุ่มนี้คือหนังก็ไม่กล้าให้พระเอกตาย ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์คับขันแค่ไหนก็ต้องรอดด้วยมุก “มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้โผล่มาได้จังหวะตลอด” โผล่มาขายความเป็นพระเอกช่วยเหลือเพื่อน ยิ่งดูยิ่งต้องส่ายหัวกับมุกแบบนี้ที่ประเคนเข้ามาหลายครั้งมาก

แล้วเบื่อมากไอ้การที่พยายามขายความเป็นพระเอก นึกถึง Jack Reacher เลย เอ็งมีปืนไม่ยิงกัน มันไม่พระเอก ไม่ลูกผู้ชาย มันต้องต่อยกัน เอาเหล็กฟาดกัน พอมาเจอมุกแบบนี้ได้แต่ส่ายหัวให้กับความเป็นพระเอกมาดแมน

ตลอดการดู Furious 7 ของผมจึงเป็นการลุ้นว่าเมื่อไรเจสัน สเตแธมจะไล่ตื้บพวกมันให้หมดเพื่อจะได้จบ ๆ ไปสักที แล้วไอ้สรรพคุณที่โอ้อวดความสามารถสุดโหดของเจสัน สเตแธมนี่พังทลายในพริบตาเมื่อต้องสู้กับพระเอกที่ไม่รู้จะเก่งไปไหน ตอนเครดิตต้นเรื่องขึ้นเราอุตส่าห์ดีใจมากที่หนังขึ้นว่า and Jason Statham เพราะมันแสดงถึงการให้เกียรตินักแสดงรองที่สำคัญในเรื่อง แต่พอเข้าไปอยู่ในหนังจริง ๆ ก็ได้แต่นึกเสียดายว่าพี่เจสันไม่น่ามาเล่นหนังแบบนี้เลย แย่ยิ่งกว่าการไปปรากฎตัวใน Expendables กับบรรดา action star รุ่นดึกเสียอีก

พูดถึงฉากจบนี่จะบอกว่าหนังฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากการสูญเสียพอล วอล์คเกอร์ในโลกจริงมาสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้น้ำเน่าพรรณาอะไรน่ารำคาญมาก ถ้าสมมุติพอล วอล์คเกอร์ยังมีชีวิตอยู่ ไอ้ฉากนี้มันคงเป็นอะไรที่น่ารำคาญสุด ๆ สำหรับหลายคน แต่ด้วยความที่คนดูหลายคนอินกับกระแสการสูญเสียนักแสดงในแฟรนไชส์ที่ตัวเองโปรดปราน มันจึงกลายเป็นฉากที่รู้สึกร่วมเพราะเราแทนค่าโลกจริงเข้าไปในหนัง ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมเรียกว่าการใช้ประโยชน์จากการสูญเสียนักแสดง (ซึ่งเขาก็ทำคงตั้งใจทำมาเพื่อเอาใจแฟนคลับ ไม่ใช่คนนอกแบบผมอยู่ละ)

บ่นมุมกล้องนิดนึงว่าเหมือนเด็กเห่อของเล่น การเคลื่อนกล้องให้พลิกหงายตามจังหวะคนล้มนี่มันเอามาจาก The Raid 2 ชัด ๆ เลย แล้วเป็นการเอามาที่แบบไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรเหมือนตอนดู The Raid 2 ที่ทำเอาทึ่งกับการกำกับภาพ ส่วนใน Furious 7 ยิ่งใช้บ่อยยิ่งรู้สึกเหมือนคนหัดกำกับฉากแอ็คชั่น

แล้วพี่จา พนมของผมนี่มีฉากนึงแค่พี่ถีบพอล วอล์คเกอร์นี่ก็ตกรถตายละ แต่พี่ดึงพอลเข้ามาต่อยในรถ ผมนี่จะบ้าตาย ที่สุดของความง่อยแล้ว ไอ้ฉากที่คาดหวังสุด ๆ ฉากนึงเลยก็คือตอนจบที่ไปเจอนักวิจารณ์ต่างประเทศอวยนักอวยหนาว่า จา vs. พอล ตอนท้ายสุดยอด กลับกลายเป็นแค่ฉากต่อสู้ที่ธรรมดาดาดดื่นเกลื่อนกลาดในหนังศิลปะการต่อสู้มือเปล่า martial art ทั่วไปมาก

เกือบลืมพูดถึงฉากโดรนไล่ล่ากลางเมือง ด้วยพล็อตอุปกรณ์สอดแนมสุดล้ำที่คล้าย Eagle Eye เวอชั่นไร้ที่มาที่ไปอยู่แล้วพอมาเจอฉากนี้นี่ทำเอาอึ้งไปเลย ทำฉากไล่ล่าไล่ยิงกันได้ห่วยแตกมาก อย่างว่าแหละ ในเมื่อเอาสุดยอดโดรนมายิงพวกพระเอกมันจะไปยิงโดนได้ไง ยังไงก็หลบได้ หลบแบบไม่ต้องสนใจว่าผู้บริสุทธิ์มันจะต้องตายกี่คน (ทีซูเปอร์แมนนี่ด่ากันจัง #แซวเล่นนะอย่าคิดมากกัน)

Director: James Wan

Genre: action, thriller

1/10

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน ดูหนัง ออนไลน์

Death Race 4 (2018) ซิ่งสั่งตาย 4

Death Race 2 (2010) ซิ่งสั่งตาย 2

THE TRANSPORTER 3 (2008) ทรานสปอร์ตเตอร์ 3 เพชรฆาต สัญชาติเทอร์โบ

Seoul Vibe (2022) ซิ่งทะลุโซล

Four Brothers 4 (2005) 4 ระห่ำดับแค้น

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Unang Tikim (2024)
หนังเรท R18+ ซับไทย
หนัง

4.6

Linda (2024)
หนังฝรั่ง ซับไทย
หนัง

4.8

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่