SPIDER-MAN ACROSS THE SPIDER VERSE (2023) สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม
เรื่องย่อ
ดูหนัง ออนไลน์ SPIDER-MAN ACROSS THE SPIDER VERSE (2023) สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม ตำนานสไปเดอร์-เวิร์สของ ไมลส์ มอราลเลส หลังจากได้พบกับ เกว็น สเตซี่ อีกครั้ง สไปเดอร์-แมน เพื่อนบ้านแสนดีแห่งย่านบรู๊คลินก็ถูกส่งตัวไปยังมัลติเวิร์ส เขาได้พบกับทีมสไปเดอร์คนอื่นๆ แต่เมื่อเหล่าฮีโร่ขัดแย้งกันเอง ไมลส์ก็พบว่าตัวเองต้องปะทะกับสไปเดอร์คนอื่นๆ และต้องสร้างคำจัดความใหม่ให้กับความหมายของการเป็นฮีโร่ เขาต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่น่าหนักใจ และได้เรียนรู้แล้วว่าใครๆ ก็เป็นฮีโร่ได้ แต่จะเป็นฮีโร่ในแบบไหนล่ะ ไมลส์และเกว็นต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่อยู่ในมัลติเวิร์สไปตลอดกาล
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง SPIDER-MAN ACROSS THE SPIDER VERSE (2023) สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม หนังประเภท Sci-Fi วิทยาศาสตร์ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- โจอาคิม ดอส ซานโตส
- เคมป์ พาวเวอร์
- จัสติน เค. ทอมป์สัน
บริษัท ค่ายหนัง
- โคลัมเบียพิคเจอร์ส
- โซนี่พิกเจอส์แอนิเมชัน
- มาร์เวลเอนเตอร์เทนเมนต์
- อาราดโปรดักชันส์
- ลอร์ดมิลเลอร์โปรดักชันส์
- ปาสคาลพิกเจอส์
นักแสดง
- ชามีก มัวร์
- เฮลี สไตน์เฟลด์
- ไบรอัน ไทรี เฮนรี
- ลูนา ลอเรน เบเลซ
- เจก จอห์นสัน
- เจสัน ชวาตซ์แมน
- อิสสา เร
- คาราน โซนิ
- แดเนียล คาลูยา
- โอสการ์ อิซาอัก
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Kanin The Movie
หนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้เราชอบ Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) คือการที่มันไม่กั๊กที่จะเล่าเรื่องราว coming of age อย่างสุดหัวใจ การให้ ไมลส์ มอราลเลส ไม่เพียงต้องต่อสู้กับศึกมัลติเวิร์ส แต่เขายังต้องเผชิญหน้ากับการเติบโต ความรับผิดชอบ และการเลือกเส้นทางให้กับชีวิตของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากไม่แพ้การเป็น สไปเดอร์-แมน การที่หนังแบ่งช่วงเวลาหนึ่งให้กับพาร์ทความสัมพันธ์ครอบครัว การคิดทบทวนถึงอนาคตของไมลส์ ทำให้เราเข้าอกเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังแบกรับมากๆ การออกไปสู่โลกมัลติเวิร์ส ก็เหมือนกับการออกไปเผชิญโลกกว้าง พื้นที่ใหม่ สังคมใหม่ ที่เขาไม่มีคนที่บ้านเคียงข้าง เรารู้สึกว่ามันคือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเขาจริงๆ
ฉากนี้ที่ไมลส์คุยกับแม่ดีมากๆ เลย งดงาม ทรงพลัง และจริงใจอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งที่แม่พูดกับเขาในฐานะเด็กที่เติบโตขึ้น ขนานไปกับการเดินทางสู่ สไปเดอร์-เวิร์ส ของเขา โลกใบใหม่ที่เขาอยากเป็นส่วนหนึ่ง แม้ใครจะบอกว่าเขาไม่คู่ควรก็ตาม
— SPIDER-MAN ACROSS THE SPIDER VERSE (2023) สไปเดอร์ แมน ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม
รีวิวกระทู้ pantip ekka_eak
[CR] [#Review] Spider-Man Across the Spider-Verse ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม – หนังที่เชื่อมจักรวาลภาคต่อเข้าด้วยกันได้อย่างสุดยอด
จาก Spider-Man Into the Spider-Verse ในปี 2018 หนัง Spider-Man ในรูปแบบอนิเมชั่นที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำออกมาได้ดีเทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่าหนังคนแสดงบางภาคด้วยซ้ำ ทำให้ผลตอบรับออกมาดีสุดๆ แต่ระยะห่างระหว่างภาคแรกกับภาคนี้ห่างกันถึง 5 ปี และด้วยความดีงามจากภาคแรก ทำให้ภาคนี้ก็มีความคาดหวังเยอะมากๆ ซึ่งพอได้ดูแล้วต้องบอกว่า หวังไว้สูง ก็เจออะไรที่ตรงความคาดหวังมากเช่นกัน เผลอๆ จะเกินคาดอีกด้วย
ในภาคนี้จะยังคงพาเราไปติดตามการเติบโตของ Miles Morales ในฐานะ Spider-Man โดยในภาคนี้เขาต้องต่อกรกับวายร้ายตนใหม่อย่าง The Spot ผู้มีพลังวิเศษที่สามารถข้ามจักรวาลได้ ทำให้ Miles ต้องข้าม Multiverse ไปเจอกับจักรวาลที่มี Spider-Man มากมาย แต่แล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้นเพราะความเห็นของทั้งสองฝั่งไม่ตรงกัน ส่งผลให้เหล่าสไปเดอร์ตามล่าตัว Miles เพื่อเจตนารมณ์ของการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่แท้จริงและ ปกป้องคนที่เขารัก
หนังช่วงแรกจะไปโฟกัสเรื่องราวปัญหาความเป็นวัยรุ่นและครอบครัวของ Miles หนักมาก ซึ่งตอนแรกที่ดูก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีอะไร มันคงจะเหมือน Spider-Man เรื่องอื่นที่เอาเรื่องของพระเอกมาดึงดราม่าเล่นยาวๆ แต่ไม่ใช่ เพราะมันคือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละครให้เราอินกับสิ่งที่หนังจะดึงมาเป็นประเด็นสำคัญที่สุดในเนื้อเรื่องของภาคนี้ได้อย่างดีมากๆ
พอหนังผ่านช่วงแรกมาแล้ว ช่วงที่สองที่หนังพาเราไปสู่การย้าย Multiverse ต้องบอกว่าเป็นส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของหนังก็ว่าได้ เพราะเราจะได้เจอ Spider-Man ตัวใหม่ๆ เยอะแยะไปหมด แต่จะมีตัวที่โดดเด่นและมีอืทธิพลต่อเนื้อเรื่องหลักๆ อยู่ไไม่กี่ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็เท่ๆ ทั้งนั้น ในพาร์ทนี้ยังมีการนำเอา Easter Egg ของหนัง Spider-Man ในภาค Andrew Garfield และ ภาค Tom Holland มาแว้บๆ ด้วย
แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดของหนัง คือการเอาประเด็นหนึ่งที่ในหนัง Spider-Man ทุกภาคต้องมีมาเป็นจุดเชื่อมโยง Multiverse ทุกจักรวาลเข้ามาเป็นเนื้อเรื่องในภาคนี้ ซึ่งประเด็นอะไรอยากให้ไปดูเอง และมันคือจุดที่เป็นจุดเปลี่ยนและจุดผลักดันให้ Miles เลือกที่จะฉีกกฎทุกอย่างและสร้างทางใหม่ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดภาพของ Spider-Man ตามล่า Spider-Man อีกด้วย
นอกจากเรื่องของเนื้อเรื่องแล้ว งานภาพที่โดดเด่นมาตั้งแต่ภาคแรก ยังมีความเจ๋งขึ้นกว่าเดิมอีกในภาคนี้ ด้วยความเป็นอนิเมชั่น มันสามารถจะทำอะไรออกมาก็ได้ที่หนังอาจจะไม่สามารถทำได้ ที่ผมชอบคือการที่หนังทำภาพในแต่ละ Multiverse ให้เข้ากับตัว Spider-Man ในจักรวาลนั้นๆ ได้อย่างมีเอกลักษณ์สุดๆ
ที่ผมไม่ชอบเลยคือ ในขณะที่หนังกำลังเข้มข้นสุดๆ แต่ดันตัดจบเพื่อให้รอดูภาคต่ออย่างใจจดใจจ่อ (ล้อเล่นนะครับว่าไม่ชอบ) หนังบิ๊วอารมณ์ให้พีคอย่างเต็มที่ แล้วตัดจบเลย ทำให้คนดูตั้งตารอภาคสามอย่างแน่นอน ไปดูกันให้ได้นะครับ ผมให้คะแนนเต็มเลยสำหรับหนังเรื่องนี้ครับ
BENJI Review
Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) – สไปเดอร์แมนตะลุย Spider-Verse!
” พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความเสียสละอันใหญ่ยิ่ง ”
กำกับโดย Joaquim Dos Santos, Kemp Powers และ Justin K. Thompson
ในที่สุดก็ได้ดูสักทีกับ Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023)
หลังจากดูจบ รู้สึกได้เลยว่า นี่เป็นหนึ่งในแอนิเมชันที่แกร่งในปีนี้ และมีแนวโน้มน่าได้เข้าชิงออสการ์พอสมควร
( แต่จะไปขั้นคว้ารางวัลหรือเปล่า ต้องมาลุ้นกันอีกที เพราะ หนังก็มีบางอย่างที่ดร็อปไปจากภาคแรกเช่นกัน )
– ส่วนแรกและเป็นส่วนที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง ขอยกนิ้วให้กับ “งานอาร์ตในเรื่อง”
จุดนี้จริง ๆ แข็งมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ในภาคนี้ก็ยังคงมีงานอาร์ตที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเคย ไม่ว่าจะโทนภาพแนวคอมมิค จังหวะการตัดต่อ และลูกเล่น Super ที่หวือหวาฉูดฉาด เมื่อผสมกับเพลงประกอบในเรื่องสไตล์ Pop / EDM ทำให้มู้ดที่ออกมามีความเป็น “Superhero comics”
ตรงนี้เรียกคะแนนจากฟากนักวิจารณ์ได้เยอะ อย่างน้อย สิ่งที่นำเสนอ ไม่ได้เป็นแค่แอนิเมชันทั่วไปอย่างเรื่องอื่น ๆ แต่สะท้อนอัตลักษณ์ของ “Pop Culture” และ “Street Art” ได้อย่างงดงาม เรียกว่าใช้ความอาร์ตได้คุ้มและสร้างสรรค์มาก SPIDER-MAN: ACROSS THE SPIDER-VERSE – “Calling”
– เนื้อเรื่องภาคนี้ มุ่งตรงไปที่ชีวิตส่วนตัวของ “ไมล์ส โมราเลส” (เด็กหนุ่มที่เป็นสไปดี้ใน verse นี้) และมีพาร์ทดราม่าเยอะกว่าภาคที่แล้ว
โดยส่วนใหญ่ โฟกัสที่ประเด็นเรื่องครอบครัวและชีวิตวัยรุ่นของไมล์สที่เผชิญศึกหนักทั้งชีวิตการเรียน ครอบครัว และบทบาทสไปเดอร์แมน รวมไปถึงความโกลาหลใน Multiverse ที่เกิดขึ้นจากการกระทำบางอย่างของเกว็นและไมล์ส ทำให้ Multiverse ปั่นป่วน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไมล์สก็ได้เข้าใจว่า
“พลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้แค่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ แต่ยังมาคู่กับความเสียสละอันใหญ่ยิ่ง” Spider-Vese มีกฏเกณฑ์ที่ทำให้ชีวิตของสไปดี้พบกับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ฉะนั้นแล้ว ไมล์สควรฝืนชะตากรรม หรือยอมรับในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ ไม่ว่าทางใด ล้วนเป็นทางที่ยาก !
– โดยภาพรวม ยังรู้สึกประทับใจภาคแรกมากกว่า เนื่องจากในระยะหลังเราได้เห็นหนังไอเดีย Multiverse มาหลายเรื่อง ทั้งจากตัวแอนิเมชันภาคแรก, Doctor Strange in the Multiverse of Madness และขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ Everything Everywhere All at Once ทำให้ไอเดียนี้ไม่ได้เป็นของใหม่อีกต่อไป และอาจไม่ได้ว้าวเมื่อเทียบกับหนังมัลติเวิร์สยุคแรก ๆ (อย่างไรก็ตาม หนังมีโชว์ไอเดีย Spider-Verse ในโลกต่าง ๆ อิงตามคอมมิค ซึ่งดีไซน์ได้สร้างสรรค์ จนทำให้เราสนุกตามได้)
จุดถัดมา หนังยาวถึง 2 ชม. 20 นาที และเริ่มเข้าประเด็นหลักช้า เลยรู้สึกว่าหนังค่อนข้างยืด อีกทั้งประเด็นทั้งหมดไม่ได้ถูกปิดในภาคเดียว แต่เราต้องรอชมต่อในภาคถัดไป ทำให้รู้สึกว่า หนังไม่กระชับเท่าไร ไม่ได้สมบูรณ์อย่างที่ภาคแรกเคยทำมา อย่างสุดท้าย Element ในเรื่องเยอะพอสมควร ระหว่างดูอาจตาลายได้
สรุป – แม้ภาคแรกจะทำไว้มาตรฐานสูง แต่ Spider-Man: Across the Spider-Verse ก็ทำได้ดีเช่นกัน ถือเป็นแอนิเมชันคุณภาพสูง บทดี ประเด็นเรื่องน่าสนใจ พาร์ทดราม่าเข้มข้น งานดีไซน์สร้างสรรค์
ดังนั้นก็ไม่ควรพลาดรับชม… น่ารอลุ้นในเวทีออสการ์ / ลูกโลกทองคำด้วย
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Spider-Man Into the Spider-Verse (2018) สไปเดอร์-แมน ผงาดสู่จักรวาล-แมงมุม
Spider Man Far from Home (2019) สไปเดอร์ แมน ฟาร์ ฟอร์ม โฮม
Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง
7.8