ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง

5 คะแนน

ตัวอย่าง

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง

KUBHD ดูหนังออนไลน์ Spider Man Homecoming (2017)

เรื่องย่อ

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ปี 2017 ที่เป็นเครื่องหมายของการกลับมาอย่างมีชัยของตัวละคร Marvel อันโด่งดังอย่าง Spider-Man ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) กำกับโดยจอน วัตต์ส และอำนวยการสร้างโดยโคลัมเบีย พิคเจอร์ส และมาร์เวล สตูดิโอส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นพระเอกนักท่องเว็บแนวใหม่ โดยนำเสนอปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ที่อ่อนเยาว์และเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งแสดงโดยทอม ฮอลแลนด์

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง เวลาผ่านไป 8 ปีต่อมา…เหตุการณ์ใน Civil War “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ที่กำลังตื่นเต้นกับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมอเวนเจอร์สเฉพาะกิจ (เรียกว่าเด็กฝึกงานก็ไม่ผิด) แต่หลังจากที่ไปอาละวาดใน CivilWar เขาก็พบกับความจริงว่า ตัวเขาเป็นเพียงฮีโร่เด็กน้อย ที่ยังไม่แกร่งพอจะทำภารกิจใหญ่ๆได้ โทนี่ สตาร์คมักจะเฝ้าบอกเสมอว่า “ให้เป็นฮีโร่เพื่อนบ้านที่แสนดี” ไปก่อน โดยเน้นงานเล็กๆน้อยๆ…แต่วันนึง ปีเตอร์ ก็ได้พบกับแก๊งค้าอาวุธของทูมเมอร์สเข้า ทำให้เขาต้องตัดสินใจหยุดชายคนนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้โทนี่ สตาร์คได้เห็นว่าเขาเองก็มีดีพอเหมือนกัน.. แต่ชีวิตวัยเรียนมัธยมของปีเตอร์นั้น ก็มีอุปสรรคในการตัดสินใจ ว่าจะเป็นนักเรียนที่ดี หรือจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดี…นี่คือบททดสอบ “บทแรก” ในฐานะฮีโร่ของ “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” ในวัยมัธยมที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าในอนาคตเขาอาจจะเป็นหนึ่งในความหวังของทีมอเวนเจอร์รุ่นใหม่ก็เป็นได้

ผู้กำกับ

จอน วอตส์

บริษัท ค่ายหนัง

  • โคลัมเบียพิคเจอร์ส
  • มาร์เวล สตูดิโอส์
  • ปาสคาล พิคเจอร์ส

นักแสดง

  • ทอม ฮอลแลนด์
  • ไมเคิล คีตัน
  • จอน แฟฟโรว์
  • เซนดายา
  • โดนัลด์ โกลเวอร์
  • ไทน์ เดลี
  • เมริซา โทเม
  • รอเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์

โปสเตอร์หนัง

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง

รีวิวหนัง

Movies Delight Club

Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง (Jon Watts, 2017)

คะแนน B

#ไม่มีสปอย

“ถ่ายทอดความเป็นฮีโร่วัยรุ่นก้าวผ่านพ้นวัย” หนังฮีโร่ทุกเรื่องตัวละครควรที่จะบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับ spider-man ฉบับนี้มาพร้อมกับเอกลักษณ์ฮีโร่วัยรุ่นที่การเข้าสอบในชั้นเรียนสำคัญพอๆกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แม้พล็อตเรื่องของ ‘Spider-Man: Homecoming’ จะไม่ได้แตกต่างอะไรหรือแปลกใหม่สำหรับหนังแนววัยรุ่นเรียนรู้ผ่านวัย แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ชัดเจนของหนังเรื่องนี้คือบทภาพยนตร์ที่มีแก่นเรื่องอย่างแจ่มชัดในความเป็นฮีโร่ ‘coming of age’ เพราะตัวหนังไม่ได้เลือกโฟกัสไปที่เรื่องราวความรักเหมือนหนัง ‘Spider-Man’ ก่อนหน้านี้

หนังเองเลือกที่จะโฟกัสไปที่ตัว ‘Peter Parker’ อย่างจงใจและตั้งใจ วิธีเลือกในการเป็นฮีโร่พิทักษ์โลกกับฮีโร่ช่วยเพื่อนข้างบ้านถูกสะท้อนในตัวตนของตัวละครตัวนี้ผ่านวัยและวุฒิภาวะ มันจึงเป็นหนังฮีโร่วัยรุ่นที่สะท้อนความเป็นเด็กได้อย่างสร้างสรรค์ในพื้นฐานของการช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ และด้วยเหตุนี้ตัว Spider-Man ในร่างของ ‘Peter Parker’ จึงสามารถเข้าใกล้คนดูหรือกลายเป็นตัวละครที่เข้าไปอยู่ในใจวัยรุ่นได้อีกหนึ่งตัวละคร ด้วยความที่อายุของตัวละครในเรื่องและเส้นเรื่องย่อยง่ายผนวกกับความสนุกและมาตรฐานงาน ‘Marvel’ คงจะส่งมอบความบันเทิงได้ในระดับที่ดีอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าจะมองหางานที่รู้สึกผิดหวังหรือทนดูไม่ได้ของค่ายนี้แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม ถึงตัวหนังจะมีบทภาพยนตร์และเค้าโครงเรื่องที่รองรับได้อย่างดีแล้ว แต่การกำกับของ ‘Jon Watts’ นั้นไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควรจะเป็นจึงทำให้ภาพรวมของ ‘Spider-Man: Homecoming’ สำหรับเรานั้นรู้สึกเฉยๆ จนน่าแปลกใจ แก่นเรื่องส่วนดราม่าไม่มีให้เห็นอย่างเข้มข้นเหมือนฉบับก่อนหน้า หนังจึงไม่สามารถสะท้อนความเป็นฮีโร่ได้ครบในทุกมิติ

ตัวร้ายไม่ได้โง่งม การสวมบทเป็นตัวร้ายของ ‘Michael Keaton’ ถือว่าเป็นส่วนที่ดีมากๆและเป็นส่วนช่วยให้ตัวหนังมีน้ำหนักที่จับต้องได้มากขึ้น การแสดงและวิธีถ่ายทอดสามารถส่งมอบจุดประสงค์ของการกระทำรวมถึงวิธีคิดได้อย่างสมเหตุสมผล มุมมองของตัวร้ายตัวนี้ยังสามารถสะท้อนหรือส่งมอบการดิ้นร้นเอาชีวิตรอดเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวและฐานะความมั่นคง ซึ่งตัว ‘Michael Keaton’ สามารถให้อารมณ์ความรู้สึกนั้นได้อย่างดี ถือเป็นตัวละครที่มีความเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อยเพราะเราไม่ได้คาดหวังอะไรมากสำหรับตัวร้ายแต่กลับมีมิติมีเนื้อมีหนังซึ่งเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ส่วน ‘Tom Holland’ ในบทของ ‘Spider-Man’ นั้นคงจะสอบผ่านได้ง่ายๆ เพราะตัวบทไม่ได้ยากหรือท้าทายอะไร เราคงทำได้เพียงรอวันที่ตัวละครตัวนี้เติบโตขึ้นมากกว่านี้และมีมิติในมุมอื่นมากกว่านี้ คงจะได้พิสูจน์ฝีมือแบบเต็มตัว ส่วนตัวละครสมทบก็ล้วนสร้างสีสันไม่น้อยโดยเฉพาะ ‘ป้าเมย์’ อิอิ รวมถึงเพื่อนๆของ ‘Peter Parker’ ที่ดูทรงแล้วน่าจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในภาคต่อๆไป

ท้ายสุด Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง ยังคงสามารถตอบสนองความบันเทิงในระดับคุณภาพ ส่งมอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในบางจังหวะ แม้ว่าองค์รวมของหนังจะชัดเจนในการถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นในตัวซุปเปอร์ฮีโร่ แต่จุดนี้ก็เหมือนดาบสองคมที่ทำให้มวลรวมของตัวหนังเองขาดมิติในเชิงกว้าง อาทิเช่น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร แง่มุมความรัก หรือคำถามต่อการเป็นฮีโร่ที่ต้องเสียสละบางอย่างไป ทั้งหมดจึงทำให้ตัวหนังไม่ได้โดดเด่นกว่างานเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ ถ้าหากเราเพียงต้องการแค่ความสนุกสนานบันเทิงอารมณ์ตัวหนังคงจะตอบโจทย์ความต้องการได้ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปครับ

ดูหนังตามคิว

รีวิว Spider-Man: Homecoming (2017) – สไปเดอร์แมน โฮมคัมมิ่ง

กำกับโดย Jon Watts จาก Cop Car (2015)

ความยาวภาพยนตร์ 133 นาที

ภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man มีการสร้างมาอย่างยาวนาน โดยมีภาคแรกที่เป็นเหมือนภาพยนตร์ฮีโร่ยุคแรกเริ่มให้กับโลกภาพยนตร์ตามหลัง X-Men ประสบความสำเร็จไป โดยการสร้างภาคแรกเกิดในปี 2002 เป็นผลงานการกำกับของ Sam Raimi ตัวภาพยนตร์ออกมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนมีภาคต่อตามมา 2 ภาคด้วยกัน หลังจากนั้นในปี 2012 Spidey กลับมาในรูปแบบรีบูท ผู้กำกับคือ Marc Webb โดยได้รับเสียงตอบรับออกมาในแง่ดี แต่หลายคนยังไม่ยอมรับนัก จนกระทั่ง The Amazing Spider-Man 2 (2014) ภาคต่อของ The Amazing Spider-Man (2012) สามารถทำเงินได้ต่ำสุดในแฟรนไชส์ ส่งผลให้ทาง Sony เริ่มล้างไพ่ใหม่อีกครั้ง โดยการร่วมมือกับทาง Marvel Studio จากความร่วมมือนี้ ทำให้เกิดภาพยนตร์ Spider Man Homecoming (2017) สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง ขึ้นมานั่นเอง

ตามความรู้สึกของผม ผมพบว่า…เชี่ย! สนุกสุดๆเลย มันเป็นหนังที่ตอบสนองความบันเทิงเราได้ถึงขีดสุด เพราะช่วงก่อนหน้านี้ผมได้ดู Transformer 5 กับ Pirates of the Caribbean 5 ไป ปรากฏว่าผมไม่ได้รับความพึงพอใจด้านความบันเทิงกลับมาเท่าที่ควร นั่นทำให้เกิดอาการผิดหวังใน Summer นี้เอามากๆ เพราะ Summer ปีนี้หนังที่ถูกใจในช่วงก่อนที่จะดู Spiderman Homecoming คือ Wonder Woman เพียงเรื่องเดียว ที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับความบันเทิงได้อย่างดี ส่วน Guardians of Galaxy 2 เป็นหนังที่พอดูได้อยู่ เพียงแต่คุณภาพไม่สามารถเทียบภาคแรกได้เลย ทำให้เกิดอาการผิดหวังขึ้นมา แต่ Spidey ภาคนี้สามารถทำออกมาได้น่าพอใจ ผมสามารถเพลิดเพลินกับเรื่องราวภายในเรื่องได้อย่างไม่ยาก ซึ่งหากใครหวังจะมารับความบันเทิงจากเรื่องนี้ผมรับประกันว่าสมหวังแน่นอน เอาตามจริงมันเริ่มขนลุกตั้งแต่เพลง Spidey ฉบับดั้งเดิมขึ้นมาแล้วละครับ มันได้อารมณ์ประมาณว่า Welcome to home นะ Spidey

ในส่วนของบทภาพยนตร์ ถึงแม้จะไม่ได้แฝงด้วยนัยยะสำคัญชนิดที่ว่าต้องมีการตีความเพิ่มเติม แต่การที่ไม่เล่นท่ายากนั้น ทำให้การขับเคลื่อนเนื้อเรื่องได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะบทในเรื่องสามารถทำให้เชื่อได้ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าสมจริง ตัวบทภาพยนตร์เรื่องนี้ผมไม่เจอจุดที่ไม่สมจริงเลย จะเรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้บทภาพยนตร์ทำออกมาได้ดีในตัวมันเองเลยทีเดียว เรียกว่าหากผมเป็น Spidey ผมคงมีความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับตัวเขาในภาพยนตร์ หากจะหาข้อเสียในบทภาพยนตร์ คงเป็นบทตัวละครที่ยังดูกระจายได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ตัวละครบางตัวกลืนหายไปอย่างน่าเสียดาย อย่างบทของเพื่อน Peter Parker คนที่โดดเด่นดูจะเป็น Ned เพื่อนอัจฉริยะด้าน IT ของ Peter แต่บทของเพื่อนๆกลับหายไปจนรู้สึกเสียดายมาก หากมีการเพิ่มบทคนอื่นๆมากขึ้นคงจะออกมาดีมากแน่นอน เพราะจะทำให้เราอินกับชีวิตของ Peter มากยิ่งขึ้น

ถึงแม้บทจะมีข้อผิดพลาดในเรื่องนั้นไป แต่การดำเนินเรื่องโดยรวมทำให้ข้อผิดพลาดนั้นดูด้อยลงไป ส่งผลให้เรามองข้ามไปได้โดยไม่คิดอะไรมากนัก ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เราสามารถมองข้ามจุดนี้ไปได้ นอกจากบทและการกำกับแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการแสดงของนักแสดง ก่อนหน้านี้มีการถกเถียงกันพอสมควรเรื่องคนรับบทเป็น Spidey เพราะคนรับบทคนก่อนๆที่รับบทแต่ละคนล้วนทำได้ดีกันทั้งคู่ นั่นจึงเป็นเหมือนบททดสอบของ Tom Holland ว่าเขาเหมาะจะเป็น Spidey คนปัจจุบันหรือไม่ จนสุดท้ายเราได้ข้อสรุปว่าตัว Tom Holland

เหมาะสมที่จะเป็น Spidey คนปัจจุบัน เพราะการแสดงของเขาสามารถทำให้เราเชื่อว่านี่คือ Peter Parker ได้ เรียกได้ว่าอยู่มาตรฐานเลยละครับ ส่วนอีกคนที่ไม่ชมไม่ได้เลยนั่นคือ Michael Keaton เพราะตัวเขาสามารถความโดดเด่นให้ตัวละคร Vulture เป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ดีที่สุดของภาพยนตร์ Marvel เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมิติทางตัวละคร ความน่าเกรงขามของตัวละคร ทุกฉากที่เขาแสดงออกมามันสร้างความน่าจดจำจำนวนมากให้กับหนังเป็นอย่างดี อีกทั้งตัวละคร Vulture ยังมีความสมจริงเอามากๆ เนื่องจากมีการให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกทางนี้ ไม่ใช่ตัวร้ายที่ไม่มีเหตุผลในการกระทำ จึงทำให้เราสามารถอินไปกับตัวละครได้โดยไม่รู้ตัว นั่นจึงเป็นจุดเด่นของตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้

คะแนน B+ ตอบโจทย์ความบันเทิงครบถ้วน ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ Spidey

โดยสรุปแล้ว สำหรับภาพยนตร์ Spider-Man Homecoming สามารถตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มสูบ รวมไปถึงคุณภาพของภาพยนตร์อยู่ในระดับดี ถึงแม้จะไม่ได้ทรงคุณค่าขนาด Wonder Woman แต่ก็ชนะ Guardians of the Galaxy 2 ไปได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงคุณภาพของนักแสดงคับแก้วมาก แต่หนังก็ยังมีข้อเสียในเรื่องการใช้ตัวละครบางตัวได้ไม่คุ้มเท่าที่ควร หากมีการเพิ่มบทบาทตัวละครเพื่อนๆของปีเตอร์มากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์น่าจะมีความสมบูรณ์มากกว่านี้

ส่วนเรื่องต่อไปจะเป็นอะไร รอติดตามได้เลยนะครับ จะพยายามเขียนให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เลยครับ ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามเพจรีวิวหนังช้าที่สุดในบรรดาทุกเพจด้วยนะครับ 😊

ตะกร้าบ่น

Spider-Man: Homecoming (2017)

หลังจากดองมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย (ดองรีวิวตั้งแต่วันที่ 6 อิอิ) วันนี้ทาทำหน้าที่ละฮะ

เราชอบ Spider-man เวอร์ชั่นนี้มาาาาาาก ย้ำว่ามาก ด้วยความผสมกันของ Super Hero กับ High School อย่างลงตัว ซึ่งบางคนบอกว่าไม่ชอบตรงนี้เพราะมันไม่สุดไปสักทาง แต่เราว่าหนังเฉลี่ยโฟกัส Peter Parker กับ Spidy ได้ดี อีกทั้งการใช้ Coming of age ในแง่ของการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ไม่ใช่อายุ จากเด็กเนิร์ดห่ามๆวัย15 กลายเป็น Super Hero (ฝึกหัด)ที่ต้องรับผิดชอบทั้งชีวิตนักเรียนและผู้ผดุงธรรมไปพร้อมกันๆ

ในส่วนของตัวร้าย ออกมาดีจริง มีมิติและมุมมองที่ชัดเจน เป็นมนุษย์สูง ทำออกมาได้ใกล้เคียงกับซีโม่ แห่ง Civil war
ขี้เกียจละ เดี๋ยวมาต่อ

กูชอบดูหนัง

เรื่อง: Spider-Man : Homecoming (สไปเดอร์แมน : โฮมคัมมิ่ง)

เข้าฉาย: 6-7-2017

รีวิว: เห็นอวยกันชิบหาย ขอสวนกระแสละกัน ไม่มีความมันส์อะไรเลย พี่โทนี่กูยังกับพี่เลี้ยงเด็ก นางเอกก็แหม่… แม่งเจ๋งตรง End Credit อย่างเดียว หมดเลยภาพลักษณ์สไปเดอร์แมนในตำนาน 4/10

ปล.ไปดูด้วยตาคุณเองดีที่สุดครับ

Spider-Man Thailand Fanpage

รีวิว (No Spoil)

Spider-Man : Homecoming (2017)

Director : Jon Watts

สไปเดอร์แมนที่ดีที่สุด สไปดี้ที่สนุกสนานที่เราคุ้นเคยในคอมมิค

ดีงามมากกกกกกก หนังเรื่องนี้สนุกและตลกมาก สามารถดูได้ทั้งครอบครัวเลยจริงๆนะ เด็กๆหรือผู้ใหญ่ทุกคนต้องชอบสไปดี้ตัวนี้แน่นอน และทั้งด้านการเล่าเรื่องและการตัดต่อมันก็ไหลลื่นไปหมด จังหวะต่างๆทำให้เราดูได้อย่างไม่เบื่อตลอด 2 ชม.เลย

และภาคนี้ตีความสไปดี้ได้ถูกใจคอคอมมิคแน่นอน กับความโก๊ะๆ ซนๆ งงๆของสไปดี้ตัวนี้ เขาเหมือนสไปเดอร์แมนที่ยังไม่ได้เป็นสไปเดอร์แมน แต่กำลังเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ซึ่งเราว่าเมคเซนและเข้าท่ามาก ฟังชั่นของชุดก็เด็ดมากกก กรี๊ดและขำหลายอันมาก

ชอบมูฟเม้นและแอคชั่นของสไปดี้ตัวนี้มาก บางช่วงแอบนึกถึงการ์ตูนนะ แต่แบบนี้แหละคือสไปดี้ และก็ความสมจริงกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่สไปเดอร์แมนควรจะเจอ แต่ดันไม่มีในภาคก่อนๆ ภาคนี้ใส่มาครบ จนต้องร้องว่า เออหว่ะ ต้องไปดูเอาเอง

ทอม ฮอลแลนด์ แสดงได้ดีมากกกกก กวนและตื่นตัวตลอดเวลา แต่พอบทจะน่าสงสารก็น่าสงสารมากกก และที่สำคัญบทเวลาที่ปีเตอร์กำลังกลัว อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่รู้จะทำยังไง ทอมถ่ายทอดออกมาได้ดีจนน่าขนลุก นั่งดูอยู่มีจุกอยู่เหมือนกัน

ตัวร้ายก็ สุดยอดมากก ไมเคิล คีตัน แบกบทนี้ได้ดีมาก นิ่งๆแต่น่ากลัว ดูน่าเกรงขาม เรื่องความสมเหตุสมผลก็ทำได้ดีเลย เป็นตัวร้ายที่ดีมากอีกตัวของมาเวล ไม่เป็นรองโลกิกับซิโม่เลย

เซอร์ไพสเยอะมากกก สำหรับเรา ในตัวอย่างมันก็สปอยจริงแหละ แต่ในหนังมีอีกหลายอย่างให้เราสำรวจอีกเยอะ!! อ้อ แล้วไม่ต้องกลัวว่ามันจะเป็นหนัง Iron Man 4 นี้คือหนังสไปดี้จริงๆ เชื่อเรา ตัวอย่างกับโปสเตอร์ทำมาเพื่อมาเก็ตติ้งจริงๆ

สรุป : ความบันเทิงเต็มเปี่ยม คุณจะมีความสุขตลอดการดูหนังเรื่องนี้ คุณจะรักสไปเดอร์แมนตัวนี้ มีโมเม้นน่ารักๆเยอะมากกก อย่าลืมชวนเพื่อนๆไปดูกันเยอะๆล่ะ

คะแนน : 9/10

ปล.มีเอนเครดิต 2 ตัวนะ นั่งให้จบ โดยเฉพาะตัวสุดท้าย!!

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Transformers Rise of the Beasts (2023) ทรานส์ฟอร์เมอร์ส กำเนิดจักรกลอสูร

Bumblebee (2018)

Thor Love and Thunder (2022) ธอร์ ด้วยรักและอัสนี

Ghostbusters Afterlife (2021) โกสต์บัสเตอร์ ปลุกพลังล่าท้าผี

Avengers Endgame (2019) อเวนเจอร์ส เผด็จศึก

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Heretic (2024)
หนังฝรั่ง ซับไทย
หนัง

7.3

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่