Shin Godzilla (2016)
เรื่องย่อ
เกิดอุบัติเหตุที่ไม่ทราบสาเหตุใน Aqua Line ของอ่าวโตเกียวซึ่งทำให้ตู้ฉุกเฉินรวมตัวกัน ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นในทันทีทำลายเมืองที่อยู่อาศัยของเมืองเมื่อมันมาถึงเมืองหลวง สัตว์ประหลาดยักษ์ลึกลับตัวนี้มีชื่อว่า “Godzilla”
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังญี่ปุ่น เรื่อง Shin Godzilla (2016) ก็อดซิลล่ารีเซอร์เจนซ์ หนังประเภท Adventure ผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย ดูหนัง ออนไลน์ หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- Hideaki Anno (chief)
- Shinji Higuchi
บริษัท ค่ายหนัง
- Toho Pictures
- Cine Bazar
นักแสดง
- Hiroki Hasegawa
- Yutaka Takenouchi
- Satomi Ishihara
โปสเตอร์หนัง ก็อดซิลล่ารีเซอร์เจนซ์
รีวิว shin godzilla ดูฟรี
Slashmeplease
[CR] Review : Shin Godzilla (ของแท้ดีกว่าจริงๆ)
Review : Shin Godzilla (ของแท้ดีกว่าจริงๆ)
ผู้กำกับ : Hideaki Anno, Shinji Higuchi (The End of Evangelion, Evangelion 1.0-3.0, Attack on Titan part 1-2)
ติดตามรีวิว+พูดคุยเกี่ยวกับเกม ภาพยนตร์ และการ์ตูนได้ที่เพจของผมนะครับhttps://www.facebook.com/Old-Geeks-1275369035829195/
ผมไม่ใช่คนที่ผูกพันกับกอตซิลล่ามากนัก หนังภาคญี่ปุ่นที่เคยดูแค่ภาคเดียว ตอนนั้นก็เด็กมากจนจำอะไรไม่ค่อยได้ (รู้สึกว่าจะสู้กับคิงกีโดร่า) ส่วนหนังภาคฝรั่งนั้นผมได้ดูทั้งสองภาค ไม่ค่อยประทับใจทั้งคู่ครับ แต่เมื่อผมทราบข่าวการสร้าง Shin Godzilla ที่จะกลับไปเป็นญี่ปุ่นสร้าง และได้เห็นดีไซน์ล่าสุดของก็อตซิลล่า ก็เริ่มสนใจขึ้นมาทันทีครับ ดีไซน์แบบนี้ดูเป็นการตบหน้าดีไซน์แบบปี 1998 ที่เน้นความสมจริงจนหมดเสน่ห์ และเน้นความน่ากลัวของก็อตซิลล่ามากขึ้นครับ และในวันนี้หลังจากที่ได้ชม Shin Godzilla แล้ว ก็ได้แต่คิดว่า ต้นตำรับนี่ดีกว่าจริงๆครับ
Shin Godzilla (หรืออีกชื่อคือ Godzilla Resurgence) เล่าถึงประเทศญี่ปุ่นที่ต้องรับมือกับการบุกรุกของสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ รันโด ยางุจิ (ฮิโรกิ ฮาเซงาว่า) นักการเมืองหนุ่มไฟแรง รู้สึกเบื่อหน่ายกับเกมการเมืองของญี่ปุ่น ที่ยุ่งวุ่นวายและไร้ประสิทธิภาพจนไม่สามารถจะจัดการกับภัยพิบัติที่อยู่ตรงหน้าได้ เขาจึงได้ขอตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ที่จะมีแต่คนที่มีความรู้ ไม่แบ่งแยกอาวุโส และจะไม่เล่นเกมการเมืองกัน เพื่อร่วมมือกันรับมือกับปัญหาสัตว์ประหลาดยักษ์นี้ให้เร็วที่สุด แต่เจ้าสัตว์ประหลาดนี้กลับมีพิษสงร้ายกาจจนกองกำลังป้องกันตนเองไม่สามารถต่อกรได้เลย หน่วยของยางุจิจึงเป็นเหมือนความหวังสุดท้ายของญี่ปุ่นแล้วครับ ชะตากรรมของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นยังไงต่อไป ยางุจิจะทำสำเร็จหรือไม่ ติดตามได้ใน Shin Godzilla ครับ
ขอบอกว่า Shin Godzilla ทำให้ผมประทับใจมากจริงๆครับ เป็นหนังที่ทำให้รู้ว่า หนังสัตว์ประหลาดก็สามารถมีเนื้อหนังหนักแน่นได้ นอกจากการทำลายล้างวินาศสันตะโรอย่างเดียว โดย Shin Godzilla นั้นยังมีเนื้อหาเสียดสีการเมือง และระบบราชการได้อย่างยอดเยี่ยม เราจะได้เห็นนักการเมืองทุกรูปแบบ ทั้งจอมประจบสอพลอ คนที่ (คิดว่า) มีศีลธรรมแต่ขาดความสามารถและการตัดสินใจที่เฉียบขาด และคนที่เอาแต่จะเล่นเกมการเมืองอย่างเดียวไม่สนใจสถานการณ์ของประเทศชาติ นักการเมืองเหล่านี้เมื่อประกอบกับระบบราชการอันล่าช้าและสับสนยุ่งเหยิง ทำให้การจัดการกับปัญหาใหญ่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่าง Godzilla แทบจะเป็นไปไม่ได้ครับ หน่วยเฉพาะกิจของพระเอก ที่ไม่คำนึงถึงอาวุโส และไม่เล่นเกมการเมือง สนใจแต่การใช้ความสามารถเพียวๆแก้ปัญหาให้ได้จึงเหมือนทำมาตบหน้าการเมืองญี่ปุ่น (ย้ำว่าญี่ปุ่น) นั่นเองครับ สถานการณ์การเมืองที่ถูกทำให้โอเวอร์เกินจริงเล็กน้อยในหนังยังนำมาสู่มุกตลกร้ายหลายมุกที่ฮาแบบ Unexpected ทีเดียวครับ อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเมืองในหนังยังมี Dilemma และรายละเอียดยิบย่อยมากมายที่คิดว่าน่าจะเอามาถกกันได้อีกนานทีเดียวครับ สายการเมือง, การต่างประเทศน่าจะชอบเลย
แต่ไม่ใช่ว่าหนังจะมีดีแค่ประเด็นเสียดสีการเมืองเพียงอย่างเดียว การถ่ายทอดตัว Godzilla ในหนังเรื่องนี้ยังทำได้อย่างน่าเกรงขามมากๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มี Special Effect ขั้นเทพระดับ Hollywood ก็ตาม แต่ฉากการต่อสู้กับ Godzilla ก็สามารถทำให้เราลุ้น และแสดงความอลังการของมันได้เป็นอย่างดีครับ และขอบอกเลยว่า พี่ก็อตของเราในภาคนี้ร้ายกาจมากๆเลยทีเดียว พิษสงรอบตัวจริงๆครับ หากจะหาข้อติตัวหนัง คงจะเป็นการตัดต่อในช่วงแรกๆที่ไปไวมากๆ คือพอรู้ว่าน่าจะตั้งใจแหละ ให้เห็นความยุ่งเหยิงของระบบราชการ แต่บางทีมันเร็วไปจริงๆครับดูไม่ทัน และในช่วงท้ายของเรื่อง ที่ผมคิดว่ามัน Anticlimax ไปหน่อยครับ รู้สึกว่า Conflict มันคลี่คลายง่ายไปนิด
สำหรับเรื่องงานภาพนั้นหากดูเผินๆอาจจะคิดว่าห่วยจัง เทคนิคพิเศษไม่ดีเลย แต่ผมว่าผู้สร้างน่าจะตั้งใจทำเป็น Tribute ให้กับหนังภาคก่อนๆมากกว่าครับ เพราะเทคนิคมันโบราณอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ และเมื่อหนังต้องการโชว์งานภาพของจริงก็ทำได้สวยงามมากจริงๆครับ ฉากตัว Godzilla ในยามค่ำคืนนี่งามมาก แม้แต่ฉากตัวละครคนยืนคุยกันยังมีซีนสวยๆอีก ประทับใจครับ ส่วนดนตรีประกอบก็ดีทีเดียว จะเป็นการผสมผสานระหว่างดนตรีแบบหนังสัตว์ประหลาดยุคเก่า กับ Score จากวง Orchestra ที่ให้ทั้งบรรยากาศอลังการและความสิ้นหวังได้อย่างดีครับ สุดท้ายคือการแสดงนั้น เหล่าทีมนักแสดง (ที่มีหลายชีวิตมากๆ) ต่างก็เอาอยู่หมดทุกคนครับ สามารถถ่ายทอดความเป็นนักการเมืองในแบบต่างๆกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่ชอบคือไม่ได้แคสแบบเน้นหน้าตาดีด้วยครับ หน้าตาธรรมดามากๆบอกว่าเป็นนักการเมืองตัวจริงก็เชื่อครับ (หรือใส่สูทกันหมดแบบนี้จะบอกว่าเป็นวง World Order ก็เชื่อครับ 555)
สรุป : เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ไม่ได้มีดีแค่การทำลายล้างวินาศสันตะโร แต่ยังมี Message อันล้ำลึกที่ไม่น่าจะหาจากหนังสัตว์ประหลาดเรื่องอื่นได้อีกแล้ว ถ้าเป็นก็อตซิลล่านี่ ต้องต้นตำรับจากญี่ปุ่นจริงๆครับ
คะแนน : 8.4/10 (A), ชอบ ครับ
หนังโปรดของข้าพเจ้า
Shin Godzilla (2016)
พอญี่ปุ่นเอาก็อดซิลล่ากลับมาปัดฝุ่นใหม่นี่เขาปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์หนังให้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองญี่ปุ่นจริง ๆ มันคือก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นที่ถูกใช้เป็นตัวแทนของหายนะสเกลใหญ่โตจนก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหนังก็พาเราไปดูการทำงานของภาครัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ในการรับมือวิกฤตที่ไม่เคยมีปรากฎในคู่มือใด ๆ มาก่อน ตรงนี้เองที่ทำให้ Shin Godzilla กลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อโชว์พลังการประสานงานของหน่วยงานต่าง ๆ แบบญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งถ้าใครเคยเห็นคนญี่ปุ่นรับมือกับวิกฤตสึนามิ, กัมมันตภาพรังสีรั่ว, แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จะยิ่งอินกับหนังเพราะพวกเขาสามัคคีรวมพลังกันสร้างชาติใหม่ได้ตลอดจริง ๆ ส่วนก็อดซิลล่าก็ตีความออกมาแปลกใหม่ชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และมันก็โชว์พลังการทำลายล้างขั้นสูงกว่าที่เคยมีมา
.
เรื่องย่อสั้น ๆ คือมีสัตว์ประหลาดปรากฎตัวขึ้นที่อ่าวโตเกียว ทำให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมเตรียมแผนอพยพผู้คนพร้อมกับหาทางหยุดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากก็อดซิลล่า
.
หนังมันมาคนละแนวกับ Godzilla ปี 2014 ของ ‘แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส’ ซึ่งส่วนตัวผมบอกเลยว่ามันดีทั้งสองเวอร์ชั่น คือฝั่งฮอลลีวูดเนี่ยมาตายตรงดราม่าเบาและเวิ่นเว้อ แต่แอ็คชั่นตอนก็อดซิลล่า vs. มูโต้คือคุณภาพ 10/10 โคตรเดือด โคตรอลังการ โคตรมันสะใจ ส่วน Shin Godzilla ของฝั่งญี่ปุ่นนั้นดีในแง่การใช้ก็อดซิลล่าเป็นสัญลักษณ์ของหายนะทางธรรมชาติที่มนุษย์ต้องหาทางรับมือ เราจึงได้เห็นการทำงานของรัฐบาลในการจัดการวิกฤต ซึ่งภาคการเมืองในหนังมันมีความสมจริงเป็นขั้นเป็นตอนที่น่าเชื่อถือ
.
แล้วความที่มันเป็นต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นเวอร์ชั่น 1954 เคยถูกใช้แทนสัญลักษณ์ของนิวเคลียร์ที่สร้างผลกระทบร้ายแรงต่อญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ดังนั้นถ้าประเทศไหนจะทำก็อดซิลล่าให้พูดถึงนิวเคลียร์ได้ชัดเจนที่สุด ยังไงก็ต้องเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นสร้างเพราะมันคือการที่ประเทศเขาพูดถึงซากปรักหักพังหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งแน่นอนว่ายังคงตกค้างอยู่ในใจคนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากเห็นการใช้นิวเคลียร์อีกครั้ง ดังนั้นสาส์นที่ Shin Godzilla จะสื่อจึงเป็นการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ในแบบที่ชาติอื่นไม่มีทางทำได้เข้าถึงแบบญี่ปุ่น
.
ชอบการออกแบบตีความก็อดซิลล่า แต่ยังรู้สึกขัดใจ CG อยู่พอสมควร เรารู้สึกว่ามันเป็นก็อดซิลล่าที่ดูปลอมและพวกตึกถล่มอะไรแบบนี้ยังดูไม่เนียน เรื่องงาน CG นี่ยังคงต้องให้เครดิตความชำนาญและงบประมาณฝั่งฮอลลีวูด แต่ถึงอย่างนั้นคอนเซ็ปต์ตัวก็อดซิลล่าทั้งในแง่สเกลพลังของมัน การเคลื่อนไหวรวมถึงหลักการดำรงชีวิตของมันก็นับว่าน่าสนใจอยู่มากทีเดียว และงาน CG บางฉากก็จัดอยู่ในขั้นที่ชวนตะลึงในความงามบนความโหดร้ายของก็อดซิลล่า ซึ่งมันมีโมเม้นต์ก็อดซิลล่าโชว์ของชนิดที่ทำเอาเราตกตะลึงได้อยู่เหมือนกัน
.
อย่างไรก็ตามความวินาศสันตะโรจากก็อดซิลล่าเป็นเพียงแค่พื้นหลังของหนัง เพราะจุดเน้นของหนังจริง ๆ คือเรื่องการรับมือวิกฤตครั้งใหญ่ของรัฐบาลญี่ปุ่น ในโลกความจริงนั้นเราทึ่งประเทศญี่ปุ่นมาก บ้านเขาผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงทางธรรมชาติมาเยอะมาก ทั้งสึนามิและแผ่นดินไหว แล้วไหนจะนิวเคลียร์กับตอนกัมมันตภาพรังสีรั่วอีก แต่ดูเศรษฐกิจและการฟื้นฟูประเทศหลังภัยพิบัติแต่ละครั้งสิ ต่อให้ร้ายแรงขนาดนั้นเขาก็ผ่านไปได้ตลอด พอมาดู Shin Godzilla ที่แม้จะชัดเจนว่าหนังพยายามโฆษณาชวนเชื่อการทำงานของรัฐบาล แต่เรากลับไม่รู้สึกขัดใจเลยเพราะมันดูจริงจังน่าเชื่อถือ และเราก็รู้สึกได้เลยว่าความสามัคคี, เสียสละ, ร่วมแรงร่วมใจกันมันช่วยให้ชาติเขาพ้นภัยได้จริง ๆ โดยไม่ต้องยอมตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นโดยนัย
.
ในภาพรวมแล้ว Shin Godzilla ถือเป็นความสำเร็จของสตูดิโอ โตโฮ ในการปลุกก็อดซิลล่าให้กลับมาผงาดเป็น pop culture ของยุคได้อีกครั้ง แม้หนังจะมีความวินาศสันตะโรใหญ่โต แต่มันไม่ใช่หนังดูเอามัน(ยกเว้นใจรักสัตว์ประหลาดถล่มเมืองก็ว่าไปอย่าง) เพราะเรารู้สึกหดหู่กับความสูญเสียจากหายนะทางธรรมชาติ ซึ่งก็อดซิลล่าเป็นทั้งตัวแทนของภัยพิบัติ และตัวแทนความโหดร้ายของอาวุธนิวเคลียร์ที่ดูจะเป็นตัวเลือกในการแก้ปัญหาของมนุษย์เสมอมา
Directors: Hideaki Anno, Shinji Higuchi
writer: Hideaki Anno
Genre: action, drama
8.5/10
หนังเรื่องนี้ ku ดูแล้ว
#รีวิว Shin Godzilla (2016)
กลับมาอีกครั้งกับสัตว์ประหลาดสุดโด่งดัง ก็อดซิลล่า!! คราวนี้เป็นเวอชั่นบ้านเกิดจากญี่ปุ่น เรามาพูดถึงความบรรลัยกันดีกว่า เริ่ม!!!!!
หนังเล่าเรื่องง่ายๆคือมีสัตว์ประหลาดโผล่มาจากน้ำตัวเบ้อเริ่ม เราจะรับมือกับมันไงดี ตัวหนังจะเน้นบทสนทนาซะส่วนใหญ่เอาซะkuอ่านซับไม่ทัน บวกกับตัวละครอีกบานตะไท เเค่เริ่มเรื่องkuก็มึนละ แถมฉากคุยกันไม่มีดนตรีประกอบอีกคราวนี้เบื่อไปใหญ่
ถ้าใครดูหนังญี่ปุ่นบ่อยๆก็คงจะรู้จักสไตล์การแสดงที่มันจะเว่อๆหน่อยอันนี้ kuเฉยๆ ด้วยความที่หนังมันเป็นชาตินิยมว่าด้วยเรื่องการเมือง อเมริกา นิวเคลีย ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นคงจะอินแต่ไม่ใช่ku
เรื่องที่kuรับไม่ได้อย่างแรง คือตัวก็อดซิลล่าที่โคตรจะไม่เนียน ดูปลอมๆหลอกๆเผลอๆแม่งมีคนใส่ชุดอยู่ข้างในอิห่า ได้ข่าวว่าหนังลงทุนไปเยอะตังไม่เหลือเอาไปจ้างทำซีจีดีๆหรอวะ kuดูอุลตร้าแมนยังสนุกกว่าอีก
อีกเรื่องที่จะไม่พูดไม่ได้ คือkuดูโรงที่ เซนทรัลเวิลระบบ MX4D ทั้งเก้าอี้สั่น ฉีดน้ำ กลิ่น ควัน แสง จัดเต็ม ดูๆไปจะหลับน้ำแม่งฉีดอีกละสัส คนจะนอน
#หนังเรื่องนี้kuดูแล้ว 3/10
#kuX
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Godzilla vs Kong (2021) ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง
6.3