KUBHD ดูหนังออนไลน์ 28 Days Later (2002) 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน
เรื่องย่อ
ดูหนัง ออนไลน์ 28 Days Later (2002) 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน
คุณถูกกำหนดวันไว้แล้ว…
หลังจากกลุ่มผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์ ได้บุกเข้าไปยังสถาบันวิจัยสัตว์เจริญพันธุ์ พวกเขาได้พบกับชิมแปนซี ที่ถูกขังและล่ามโซ่ ไว้เบื้องหน้าจอภาพจำนวนมหาศาล ที่แสดงผลของความรุนแรงอันน่าสยดสยอง พวกเขาเพิกเฉยต่อคำเตือนของนักวิจัยผู้ตื่นตระหนก ที่ว่าลิงชิมแปนซีเหล่านั้น ‘ติดเชื้อ’ และได้ปลดปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ จนเป็นเหตุให้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีอย่างบ้าเลือด ของบรรดาสัตว์ที่กำลังเดือดดาล
28 วันต่อมา… จิม (คิลเลี่ยน เมอร์ฟีย์) หนุ่มส่งเอกสาร ฟื้นคืนสติจากอาการโคม่า และพบตนเองในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอนดอน ในความงุนงงและสับสน เขาออกเดินสำรวจหาผู้คน ตามวอร์ดคนไข้และระเบียงทางเดิน จนในที่สุด ออกไปถึงถนนด้านนอก เพื่อเสาะหาความช่วยเหลือ จวบกระทั่งเงาเริ่มทอดยาว เขาจึงมาถึงยังโบสถ์แห่งหนึ่ง และ ได้พบกับซากศพจำนวนมาก ที่ถูกกองสุมไว้บนพื้นวิหาร เสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับการปรากฎตัวราวสายฟ้าแลบ ของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีเลือดกลบตา และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทำให้จิมต้องวิ่งกลับออกไปยังถนน และพบกับ ‘ผู้ติดเชื้อ’ คนอื่น ๆ ซึ่งถูกดึงดูดมาด้วยเสียงนั้น จิมออกวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนกและสับสน ในขณะที่ฝูงชนทวีจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ วิ่งไล่ตามเขาไปตามท้องถนนอันมืดมิด
เสียงระเบิดกึกก้อง เป็นเหมือนการประกาศการมาถึงของเพื่อน ‘ผู้รอดชีวิต’ เซเลน่า (นาโอมิ แฮร์ริส) และ มาร์ค (โนอา ฮันท์ลีย์) หลังได้รับการช่วยชีวิตอย่างกล้าหาญ จิมถูกพาไปยังที่ปลอดภัย และได้รับคำอธิบายจากพวกเขา ถึงสมุฏฐานของการติดเชื้อ ซึ่งถ่ายทอดได้โดยเลือด และจะเข้าครอบงำในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ประเทศอังกฤษทั้งประเทศต้องติดเชื้อ และไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า เชื้อนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้วหรือไม่
เซเลน่าและมาร์คยอมรับอย่างไม่เต็มใจ ที่จะช่วยพาจิม ซึ่งตกอยู่ในสภาวะช็อค ในการเดินทางกลับไป เพื่อหาบิดามารดาที่บ้านที่เดพท์ฟอร์ด อันจะเกิดผลที่น่าสะพรึงกลัวตามมา หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาลัดเลาะไปตามถนนที่ไร้แสงไฟ เซเลน่าและจิมก็พบเห็นแสงลอดมาจากตึกแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจค้น และพบกับผู้รอดชีวิตอีกสองคน ซึ่งเป็นพ่อลูก แฟรงค์ (เบรนดัน กลีสัน) และ ฮานนาห์ (เมแกน เบิร์นส์) ซึ่งกำลังแร้นแค้นน้ำกินน้ำใช้อย่างสาหัส จนต้องกระเสือกกระสนหาที่อยู่ใหม่
เมื่อทุกคนย้ายเข้าไปพักพิงที่ตึกนั้น พวกเขาได้ค้นพบสัญญาณวิทยุอัตโนมัติ ที่คอยคนตอบรับ จากกองทหารในแมนเชสเตอร์ ซึ่งบัญชาการโดย นายพลเฮนรี่ เวสท์ (คริสโตเฟอร์ เอคเคลสตัน) ผู้อ้างว่ามี ‘คำตอบ’ ของการติดเชื้อ และเชื้อเชิญให้ผู้รอดชีวิตทุกคน เข้ารวมกลุ่มกับพวกเขาที่ฐานทัพปิด เมื่อไม่ทางเลือกอื่นใดอีก ทั้งกลุ่มจึงมุ่งหน้าเดินทางขึ้นเหนือ ด้วยรถแท็กซี่สีดำของแฟรงค์ โดยหารู้ไม่ว่า กำลังจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด
ผู้กำกับ
แดนนี่ บอยล์
บริษัท ค่ายหนัง
- เสิร์ชไลท์ พิกเจอร์ส
- DNA Films
- UK Film Council
- DNA Pictures International
- Film Council
นักแสดง
- Cillian Murphy
- Naomie Harris
- Brendan Gleeson
- Christopher Eccleston
- Megan Burns
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
คนวิจารณ์หนังไม่เป็น
28 วันต่อ……
28 Days Later… (2002) 28 วัน ฝันแลวร้าย คนตายกินคน
ผมรู้แล้วหละครับว่า ฉากอพาร์ทเมนต์พ่อลูกในเรื่อง The Darkest Hour มาจากไหน
เรื่องนี้แหละ
แต่จะมาพูดถึงฉากนั้น ผมขอมาพูดถึงตัวหนังกันก่อนครับ
หนังเองนับว่าเป็นหนังซอมบี้ที่ผมเองอยากจะเก็บไว้ในลิสต์ หนังซอมบี้ที่ชอบมากที่สุดเลยครับ สำหรับหนังเรื่องนี้
หนังว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ที่ต่อต้านการจับสัตว์ไปทดลองในแล็ป ได้บุกห้องแลปเข้ามา และก็ได้เห็นลิงซิมแปนซีมากมายโดนกักขังอยู่ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เตือนอย่างสุดขีดว่า ลิงพวกนั้นติดเชื้อ แต่กลุ่มนั้นก็ไม่ยอมฟังเหตุผลอะไร เลยปล่อยเจ้าลิงนั้นมา แต่หารู้ไม่ว่าลิงตัวนั้นเป็นตัวแพร่เชื้อโลกร้ายแรงสุดๆ………
28 วันต่อมา……….
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้มีผู้ป่วยหมดสติที่เพิ่งฟื้นมาชื่อ จิม (ซิลเลียน เมอร์ฟี่ย์) ที่ฟื้นจากห้องพยาบาลแต่เขารู้สึกแปลกๆเพราะในโรงพยาบาลนั้นว่างเปล่าราวกับมีแค่เขาคนเดียวบนโลก ซึ่งนั้นเองพอเขาออกไปเดินทั่วๆเมืองเท่านั้นแหละ กลายเป็นเมืองเงียบเชียบราวกับมีเขาคนเีดียวบนโลก
แต่พอเขาได้เจอกับคน เขาแทบดีใจ แต่พอมมาทักเขาเท่านั้นแหละ แทบอย่างเสียใจฉิบ เพราะคนนั้นดันเป็นพวกติดเชื้อที่กระัหายเนื้อมนุษย์ทุกวินาที แต่โชคดีที่เขานั้นได้พบกับ มาร์ค และ เซเลน่า (นาโอมิ แฮร์ริส) ซึ่งพวกเขาก็เิริ่มเดินทางกันไปโดยพยายามหาผู้ที่ยังมีชีวิตรอด แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคขนิดที่ว่าหายใจกันไม่หยุด
แล้วพวกเขาจะรอดไปได้ไหม จะเจอกับอะไรบ้าง
ติดตาม !!!!!
ก่อนจะเข้าสู่การวิจารณ์นั้น ขอพูดถึงฉากพ่อลูกกันก่อนครับ คือ ครั้งหนึ่งผมได้ดูเรื่อง The Darkest Hour มาแล้วมีฉากหนึ่ง ซึ่งฉากนั้นคือฉากที่พวกตัวเอกบุกตึกอพาร์ทเมนต์ที่โทรมๆ แต่เขาก็เห็นไฟกระพิบๆนั้น ทำให้พวกตัวเอกก็ไปตามทาง และก็เจอกัีบพ่อลูกที่อาศัยอยู่ ซึ่งผมเองดูแล้วรู้สึกว่าพอซึ้งดี แต่พอมาดูเรื่องนี้เท่านั้นแหละครับ ผมแทบทำหน้าเงิบใส่เลยครับ ทำให้เรื่อง DH กลายเป็นหนังตลกเลยครับ
นับว่านอกจากหนังซอมบี้ไตรภาคของ จอร์จ โรเมโร / หนังซอมบี้ตลกๆของ เอ็ดการ์ ไรท์ ยังจะมีหนังซอมบี้ที่ค่อนข้างจะแหวกแปลกแนวตามธรรมเนียมของ แดนนี่ บอยล์ ที่ทำหนังมาแต่ละเรื่อง อินดี้ผสมกับเสียดสีัแทรกใว้อยู่
ซึ่งพอเรื่อง The Beach มาเข้าฉายปุ๊บ กลายเป็นหนังเจ๊งและกลายเป็นผลงานที่ไม่น่าจดจำของแดนนี่ บอยล์ซะเท่าไร เลยขอแก้มือโดยการทำหนังซอมบี้สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือเรื่องนี้แหละที่ทำให้แดนนี่ บอยล์ยังพอแก้ฝีมือของเขาได้อยู่ในหนังซอมบี้อินดี้
นับว่าปกติแล้วจำพวกหนังซอมบี้นั้นมักจะมีการใช้สถานที่ปิดหรือพื้นที่จำกัดที่ต้องมาเจอกับซอมบี้ เพราะจำพวกสถานที่จำกัดนั้นมักไม่ได้อยู่ได้นาน และด้วยความปกติแล้วซอมบี้ของเรานั้นมีกเอื่อยเฉื่อย เดินช้าๆตามสไตล์โรเมโร ซึ่งก็หวานหมูพวกคนรอดชีวิตมา แต่พวกเอื่อยเฉื่อยนั้น เฉื่อยแต่โหด และยังมาเจอกับพวกไร้สติหน่อยๆเลยหวานหมูพี่ (ซอม)บี้อีกที
แต่พอมาเรื่องนี้นั้นได้เปลี่ยนอะไรๆซ้ำซากไป ตั้งแต่การเริ่มต้นของเรื่องที่พระเอกตื่นมาก็เจอกับเมืองที่ไม่มีใครเลย หนังเองก็พยายามเดินเรื่องให้นานขึ้น และเสียงก็เงียบไป จะเห็นแต่พระเอกกับเมืองเงียบเหงา ซึ่งฉากนั้นถึงแม้ว่าไม่มีซอมบี้เลยแต่มันทำให้ผมกลัวๆไปบ้าง เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรต่อไปจากฉากนี้
และแน่นอนว่าเรื่องนี้นั้นจะย้ายหลายสถานที่บ่อยมากๆครับ ไม่จำกัดพื้นที่ จะอยู่ไหนก็อยู่ไป และผมยังด้วยว่าทำไมเรื่องนี้ถึงย้ายที่พักหลายที่จัง ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ เพราะซอมบี้
แถมไม่ใช่ซอมบี้ธรรมดา เพราะ เจ้าซอมบี้ที่ปรากฎในเรื่องนั้นดันเป็นซอมบี้ที่วิ่งใวโครต เปรียบเทียบได้ปานแชมป์กีฬาโอลิมปิกนักวิ่งเหรียญทองมายังไงยังงั้น แหมถ้าเอามาแข่งในกีฬาวิ่ง 100 เมตรนะ มันชนะะแน่นอน (พิมพ์อะไรของตรูอีกละเนี่ย 555555)
เชื่อไม่เชื่อ คุณต้องไปพิสูจน์กันเอาเองในหนังเรื่องนี้นะครับ แล้วคุณจะไม่ได้หายใจทุกวินาที !!
ผมชอบไอเดียนี้นะครับ หนังซอมบี้ที่ใช้ความตื่นเต้นมาใส่เป็นระยะ แถมยังต้องมาเจออุปสรรคแย่ๆ ซึ่งคนเขียนบทเรื่องนี้เขาได้ไอเดียจากนิยายสยองขวัญเรื่อง The Day of the Triffids ที่ว่าด้วยเรื่องราวของคนที่ต้องมาเจอกับสัตวืพืซกลายพันธุ์ และ ได้รับแรงบันดาลใจจาก หนังสารพัดซอมบี้ของปู่ โรเมโร โดยเฉพาะ
(แน่นอนครับว่าหนังซอมบี้เกือบๆทุกเรื่องมุกได้รับแรงบัลดาลใจจากปู่จอร์จกันหมดครับ เรียกได้ว่าปู่จอร์จนั้นเป็นคนทำหนังซอมบี้ที่ทุกคนต่างนับถือมากที่สุดเลยก็ว่าได้)
แถมยังได้รับแรงบัลดาลใจจากหนังเก่าเรื่อง The Omega Man หนังติดเชื้อของ ชาร์ลตัน เฮสตัน ที่ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่ต้องเผชิญกับมนุษย์ที่ติดเชื้อในโลก
ซึ่งผู้เขียนบทนั้นก็นำมารวมๆกันจนกลายเป็นหนังซอมบี้ที่อินดี้มากๆครับ แหมแต่ฉากเริ่มต้นของเรื่องนั้นที่มีฉากพระเอกตื่นขึ้นมา เราก็จะได้เห็นพี่จ้อนของพระเอกโผล่ออกมา (ไม่สิ เห็นหมดเลย) แถมลักษณะการถ่ายอะไรๆก็อินดี้มากๆครับ ได้ยินมาเหมือนกันครับว่า ตอนแรกในฉากเมืองลอนดอนนั้น ทีมงานต้องยกกันไปถ่ายในตอนเช้ามืด ตอนที่ยังไม่มีผู้คน และยังใช้กล้องดิจิตอลเพราะพกพาสะดวกและยังไม่เกะกะเวลาถ่าย เวลาแบกก็หนักครับ
ดังนั้นในฉากช่วงเช้าแต่ไม่กี่นาทีก็แยบยลมากที่จะถ่ายโดยไม่เห็นประชากรออกมาโผล่กล้องซักคน เหนื่อยทีมงานมากๆครับ
พูดถึงข้อเสียของหนังกันครับ ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีดีเยอะแต่จริงๆแล้ว หนังเองก็ใส่เจ้าซอมบี้น้อยไปหน่อย เหมือนซอมบี้ของเรื่องจะไม่ใช่จุดเด่น แต่ก็ยังดีที่ใส่บรรยากาศให้น่าสะพรึงแทนซะมากกว่า
แต่หนังซอมบี้เรื่องนี้ ซอมบี้เราอาจไม่เด่นแต่น่ากลัว แต่หนังเองก็เผยเรื่อยๆในตอนเกือบๆท้ายของเรื่อง หนังเองก็เฉลยไปเรื่อยๆจนทำให้ผู้ชมหรือกลุ่มของจิมเองรู้ว่า ใครกันแน่ที่น่ากลัวที่สุด !!!
พวกทหารไง !!!
++++++++++++++เขตสปอยล์++++++++++++++
พวกทหารในหนังซอมบี้เองมักจะเป็นตัวละครที่เห็นแก่ตัว แต่มักโผล่ไม่มากนักในหนังจำพวกนี้ แต่พอมาเรื่องนี้ ความน่ากลัวของทหารนั้น ทำให้เรารู้ว่าทำไมซอมบี้ในเรื่องถึงน้อยนัก เพราะทหารมันน่ากลัวฉิบ น่ากลัวยังไงหรอ
ขนาดที่ยังจับผู้หญิงจับแต่งตัวสวยๆ และปล่อยให้พระเอกโดนฆ่าไป แถมพวกหทารเองก็คิดอะไรไม่ดีกับพวกผู้หญิงซะด้วย
น่ากลัวไหมหละั !!
+++++++++++++หมดเขตสปอยล์+++++++++++++
พูดถึงนักแสดงกันครับ
ก่อนที่จะพูดถึงนักแสดงกันนั้น ผมขอพูดกันก่อนนะครับว่า จริงๆแล้วหนังเรื่องเขาต้องการนักแสดงโนเนมกันทั้งนั้น ตั้งแต่ ซิลเลียน เมอร์ฟี่ย์ สมัยยังหนุ่ม / นาโอมิ แฮรริส สมัยยังไม่ฉายแววเลยครับทีนี้มาพูดกันเลยครับ
+ พระเอกกับนางเอกแสดงได้ดีนะครับ อีกคนหนึ่งไร้ความหวังเพราะพ่อแม่ของเขาตาย อีกคนหนึ่งไม่มีอะไรให้ฝัน ทั้งคู่เลยต้องฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆไป ซึ่งการแสดงเอง หมดห่วง หน้าใหม่(ในตอนนั้น) แต่การแสดงไม่ใหม่เลยครับ ใช้ได้ครับ
++++++++++++++++สรุป++++++++++++++++
ข้อดี
+ หนังซอมบี้ที่น่ากลัวในเรื่องบรรยากาศ และซอมบี้
+ สองนักแสดงก็ใช้ได้ครับ
+ หนังเสียดสีได้หลายอย่างๆ คน น่ากลัวกว่า ซอมบี้ !!!
ข้อเสีย
– หนังเองยังเน้นซอมบี้น้อยไปหน่อยครับ
สรุปคะแนนกันครับ
ผมให้ไปเลยสำหรับหนังซอมบี้มีแง่คิด 8.3/10 เลยครับ
Kanin The Movie
28 Days Later (2002) 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน – ★★★★
“เอาตัวรอด เปลี่ยนแปลงตัวตนได้”
หนังอัพเครดิตอีกชิ้นจาก Danny Boyle โดยได้ Alex Garland มือเขียนบทจาก Sunshine มาเขียนบทด้วยครับ
หนังนำเสนอเหตุเชื้อไวรัสถล่มลอนดอนจน 28 วันต่อมา ทั้งประเทศเหมือนจะถูกเกลือนกินหมดแล้ว เหลือเพียงกลุ่มคนเล็กน้อยที่ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้
▌เนื้อเรื่อง / บทภาพยนตร์ ▌
เนื้อเรื่องนำเสนอแบบดูเหมือนจะไร้จุดหมาย เหมือนกับตัวเอกในเรื่อง มีมิติตัวละครที่เจาะลึกไปพร้อมๆกับคนดู ซึ่งตามสไตล์ Danny Boyle ที่เหมือนสารคดีเจาะลึกสันดานคน ซึ่งเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จกับสถานการณ์สุดกดดันจากซอมบี้ และ คน เช่นเดียวกัน
บทสนทนาในหนังไม่ได้มีอะไรเด่นมากครับ สมจริงพอสมควร , หนังมีการดำเนินเนื้อเรื่องใช้ได้ตลอดเรื่อง มีจุดขึ้น มีจุดลง ควบคุมคนดูได้ดีอยู่ครับ
▌การแสดง ▌
Cillian Murphy สามารถนำเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบไปได้อย่างลื่นไหล จากตัวละครที่มีมิติตัวละครหลากหลายไปตามสถานการณ์จากธรรมดาไปเถื่อน ซึ่งถือว่าทำให้เรามีอารมณ์ร่วม เหมือนกับคนดูที่พอดูไปก็เริ่มรู้สึกเกรี้ยวกราดไปกับเนื้อเรื่องมากขึ้นครับ
▌มุมกล้องภาพยนตร์ ▌
ขึ้นชื่องานของพี่ Danny เรื่องมุมกล้องนี่สุดยอดครับ มีตั้งแต่ภาพแบบโฮมวิดิโอเกรนหยาบสุดเท่ , ภาพที่เน้นสีแปลกๆ , การตั้งกล้องทิ้งไว้แบบสารคดี , การแพนกล้องช้าๆ แบบงงๆ ล้วนสร้างอารมณ์ที่แตกต่างกันไปในหนังได้อย่างดีครับ
▌เสียงหรือซาวด์ต่างๆ และ สกอร์เพลง ▌
สกอร์เรื่องนี้ขึ้นหิ้งเลยก็ว่าได้ ได้ John Murphy (ร่วมมือกันใน Sunshine ด้วย) มาออกแบบสกอร์ให้ ซึ่งถือว่าอลังการและทำให้หนังมีความตื่นเต้นขึ้นหลายเท่าเลยครับ ส่วนซาวด์ต่างๆ ถือว่าใช้ได้ครับ
In the House, In a Heartbeat ถือว่าตลอดกาลครับ
▌องค์ประกอบอื่นๆ ▌
หนังสร้างลอนดอนให้เหมือนเมืองร้ายได้จริงๆครับสุดยอด , การแต่งหน้าเมคอัพซอมบี้ดูเชื่อถือได้ , การออกแบบสถานที่ และ แสงสี สุดโทนแสด
28 Days Later… นำเสนอมุมมองของการเอาตัวรอดในโลกมนุษย์ที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม เพราะท้ายที่สุดหนังก็นำเสนอว่า คนเรากันเองก็น่ากลัวที่สุดอยู่ดี
หนังโปรดของข้าพเจ้า
28 Days Later… (2002) / 28 Weeks Later (2007) เขียนรีวิวโดยน้องเติ้ล ชุมชนคนวิจารณ์หนังฝรั่ง ครับ
ชายหนุ่มคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลหลังจากอาการโคม่ามาเป็นเวลานับเดือน เขาพบว่าเมืองลอนดอนที่เขาอยู่นั้นกลับรกร้างว่างเปล่าไร้ผู้คน จนกระทั่งเขาได้พบกับ “ผู้ติดเชื้อ” ที่พยายามจะทำร้ายเขา เขาได้พบกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ได้บอกความจริงกับเขาว่าเมื่อเดือนก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อแปรสภาพเป็น “ซอมบี้” โดยพวกเขาทั้งหมดได้รับข้อมูลจากทางคลื่นวิทยุว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่ปลอดผู้ติดเชื้อ ทำให้พวกเขามุ่งหน้าไปยังที่นั่น แต่สิ่งที่เขาได้พบเจอกลับเลวร้ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดทั้งมวล! แต่ 28 สัปดาห์ให้หลัง ทางการได้ประกาศให้ลอนดอนกลายเป็นแหล่งปลอดเชื้อและอพยพผู้คนเข้ามาในพื้นที่ แต่หารู้ไม่ “มัน” ยังคงรอคอยที่จะแพร่ระบาดครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง!!
28 Days Later มาพร้อมกับการวิพากษ์ความรุนแรงของสังคมมนุษย์ได้อย่างแนบเนียนภายใต้พล็อตเรื่องที่สุดแสนจะธรรมดาของหนังจำพวกซอมบี้ระบาด โดยการกำหนดให้เชื้อโรคร้ายและมนุษย์มีความน่าสะพรึงกลัวมากเท่ากัน มนุษย์ทำลายธรรมชาติ, สร้างระบบการปกครองขึ้นมาเองโดยไม่เกรงใจเผ่าพันธุ์อื่น ขณะที่เชื้อโรคกลับมีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์และไม่มีวันหายไปจากโลกใบนี้ อัน “เชื้อโรคร้าย” นั้นแทบไม่ต่างจากเป็นตัวแทนของ “ความรุนแรง” หรือ “ความต่ำทราม” นั่นคือมันจะไม่มีวันหนีหายไปจากมนุษย์โดยเด็ดขาด
ส่วนใน 28 Weekks Later ซึ่งเป็นภาคต่อนั้นได้ลดคุณค่าทางด้านเนื้อหาที่ภาคแรกเคยทำไว้ ความเป็น road movies รวมไปถึงบรรยากาศเวิ้งว้างปนสะพรึงขวัญอย่างฉากลอนดอนร้างก็ไม่ค่อยมีให้เห็นเช่นกัน แต่ในภาคนี้กลับเน้นไปทางด้านความสัมพันธ์ของตัวละครสามตัวนั่นคือ พี่สาว-น้องชาย-พ่อ ซึ่งทำให้ภาคนี้กลายเป็นภาคที่ดูแล้วเพลินมากที่สุด เข้มข้นด้านความบันเทิงที่สุด แต่ขณะเดียวกันกลับทำให้เราแทบไม่ได้สาระอะไรใด ๆ ที่ภาคแรกเคยทำไว้เช่นเดียวกัน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Resident Evil The Final Chapter (2016) อวสานผีชีวะ
Kingdom Ashin of the North (2021) ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด อาชินแห่งเผ่าเหนือ
6.3