ดูหนังออนไลน์ใหม่2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนัง 2023 HDฟรี
8xbet212

The Believers (2024) สาธุ EP.1-9 (จบ)

3 คะแนน

ตัวอย่าง

The Believers (2024) สาธุ EP.1-9 (จบ)

The Believers (2024) สาธุ

เรื่องย่อ

บอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนซี้หัวใสทั้งหมด 3 คนอย่าง วิน,เดียร์ และเกม ที่พยายามสรรหาวิธีหาเงินจากทางโลกด้วยผลประโยชน์ที่มาจากทางธรรม โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้คนที่เขามุ่งมั่นศรัทธาและใช้ศาสนาเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจทั้งหลายมาเป็นเครื่องมือหลอกล่อในการหาเงินแบบใหม่ จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นวายเกินเลยที่ควบคุมไม่ได้เดือดร้อนไปถึงวงการพระพุทธศานาที่ต้องสั่นคลอนกลายเป็นที่มาของคำนิยามในซีรี่ย์ที่บอกว่า ศีล สมาธิ และเงินตาจนเกิดเป็นศรัทธามา เงินตราเกิด ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับมุมมองของคำว่าระหว่างศรัทธาและเงินตราในครั้งนี้

ผู้กำกับ

วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ

บริษัท ค่ายหนัง

  • Joy Luck Club Film House
  • Deluxe Production

นักแสดง

  • พัชชัย ภักดีสุข
  • ชาญณรงค์ ขันธีเตา
  • เผ่าเพชร เจริญสุข
  • สุรสีห์ ปัทธรรม
  • จินตรา สุขพัฒน์
  • ปราโมทย์ แสงศร
  • มนัสนันท์ พันธ์เลิศวงศ์สกุล

โปสเตอร์หนัง

The Believers (2024) สาธุ

The Believers (2024) สาธุ

The Believers (2024) สาธุ

รีวิวหนัง

ขอบสหนัง

รีวิวซีรีส์ สาธุ หลังดูจบทั้งหมด 9 EP.

หากจัดอันดับ Tier ซีรีส์ไทยใน NETFLIX สำหรับผมซีรีส์อยู่ในระดับ S ไปเลย

ดูหนัง ออนไลน์ เป็นซีรีส์ไทยไม่กี่เรื่อง ที่สามารถทำให้เราอยากดูตอนต่อไปได้เรื่อยๆ ตอนหนึ่งจบ ตอนสองต่อ และพอรู้ตัวอีกทีก็ลากยาวไปจนถึงตอนเก้า ซึ่งมันคือข้อยืนยันว่า ทีมงานสามารถเล่าเรื่องได้เก่งขนาดไหน

สาธุ เป็นซีรีส์ไทย ที่แม้หน้าฉากจะทำมาเพื่อสั่งสอน แต่เนื้อหาจริงๆ ไม่มีการสั่งสอนอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเล่าด้วยความเรียบง่าย และทุกๆบทสรุปมักจะเป็นอะไรที่ทุกอย่างดูจริง ผลที่ตามมา ทุกๆอย่างในซีรีส์เรื่องนี้ มันเกิดจากผลของการกระทำของตัวละครทั้งสิ้นไม่มีอะไรเกินขอบเขตไปกว่านั้น

เป็นซีรีส์ที่ทุกตัวละครมีความมนุษย์ ทุกๆคนต่างมีมิติเป็นของตัวเอง ไม่มีคนที่ดูดำจนเกินไป หรือขาวบริสุทธิ์จนรู้สึกจับต้องไม่ได้ ทุกๆคนที่เรียกว่า มนุษย์ต่างมีความเทาๆในตัวเอง ข้อนี้ต้องชื่นชมนักแสดงทุกๆคน ทั้งตัวหลักและตัวรอง ( โดยเฉพาะตัวรองดีเกินเบอร์ทุกคน ) สาธุเป็นซีรีส์ที่ออกมาฉากพูดไดอาล็อกดูฉลาดมากๆ ไม่เยอะจนดูล้นมันอยู่ในความพอดี ตอนดูผมไม่รู้สึกเหมือนดูตัวละครคุยกัน มันดูเหมือนคนชื่อนี้ๆคุยกันมากๆ ดูเป็นธรรมชาติมาก

ใครหลายคนอาจอยากที่จะเห็น ซีซั่น 2 ของสาธุ เพราะตอนจบพี่เล่นปลายเปิดแบบนั้น แต่สำหรับผม ผมคิดว่าตัวซีรีส์มันจบในตอนของมันเองอยู่แล้ว อาจไม่ได้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นจริง แต่มันก็อ้างอิงมาจากความเป็นจริงของสังคมไทยเราอยู่ ณ เวลานี้ และในตอนจบของสาธุ มันก็คือความจริงบนสังคมเรา ที่ยังคงเดินและหมุนเวียนต่อไป สิ่งที่วัยรุ่นทั้งสามคนทำได้ในซีซั่น 1 มันก็สุดๆแล้ว ถ้าให้ทำใหญ่ขึ้นในประเด็นที่เขาหยอดมาตอนจบ ผมก็คิดว่ามันดูเวอร์จนเกินไปหน่อย แถมที่เป็นแก่นหลักของเรื่องอย่าง ศาสนา ซีซั่นแรกก็เล่าครบหมดแล้ว ซีซั่น 2 ถ้าจะเปลี่ยนธีมมันก็ดูจะแปลกๆเกินไป

แต่ถ้าทำจริงๆ ผมก็ดูนะ เพราะตอนนี้ซีรีส์ไทยใน NETFLIX ยังไม่มีเรื่องไหนเลยที่ผ่านเพดานซีซั่น 2 ได้ แต่ด้วยประสิทธิ์ภาพทีมงานของเรื่องนี้ ก็มีประสิทธิภาพโหดเกินเบอร์ที่จะทำได้ แน่นอน

THE FLICKAHOLIC

สาธุ(2024)

เพื่อนสนิท 3 คนร่วมมือกันทำธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่แค่ชั่วข้ามคืน กำไรที่เคยได้ผ่านหน้าจอคอมฯกลับขาดทุน พวกเค้ามีเวลาไม่มากในการใช้หนี้เงินที่กู้นอกระบบมาลงทุนหลายสิบล้าน กับดอกเบี้ยสูงถึง 20% จู่ๆพวกเค้าก็เห็นช่องว่างจากความศรัทธาของผู้คน จึงเริ่มตามหาวัดร้างที่ไม่มีญาติโยมเข้า และทำการรีโนเวทแปลงโฉมให้กลายเป็นแหล่งทำเงินจากความเชื่อศรัทธา พวกเค้าจะหาเงินมาได้ยังไง การเข้าไปเล่นกับความรู้สึกของเหล่าผู้คนที่แสวงบุญจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง ไปฝ่าด่านผ้าเหลืองกัน..

ซีรีส์ Original Netflix ของไทย 9 ตอนจบ ที่พูดได้ไม่อายปากว่านี่คืออีกซีรีส์ไทยที่นำเสนอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม งดงาม เสียดสี คมคาย แค่ชื่อเรื่องก็ถือว่าดึงคนดูได้เลย สั้นๆแต่ใช่เลย เนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดให้เราดูล้วนเป็นประเด็นที่ค่อนข้างเสี่ยง และมีหลายประเด็น ซึ่งแต่ละประเด็นเราก็จะมองได้หลากมุมเช่นกัน ถือว่าครบ ไม่ว่าจะเป็น…(อ่ะๆอยากรู้ไปดูเอง) การเล่าเรื่องที่ทำให้เราสงสัยในตัวละคร แต่ยังไม่เฉลย มันยิ่งทำให้เราจับสังเกตไปตลอดเรื่อง

นักแสดงทุกคนในเรื่อง งานคือเนี้ยบกริ้บ เล่นดีจนขนาดยิ่งดู ยิ่งลืมไปเลยว่านักแสดงคนนี้คือใคร แต่เรากลับจำภาพเป็นตัวละครนั้นไปเลย อันนี้ถือว่าทำได้ดีมากกกกกก

ใครพอมีเวลา..ไม่อ่ะ!! ไม่มีเวลาก็เจียดเวลาดูเหอะ ดูไปแล้วเราจะได้คิดตามไปตลอดเรื่อง เพราะไม่ใช่แค่ความบันเทิงที่ได้ตามติดชีวิตในวัด แต่มันมีคำถามกลับมาตั้งกับตัวเองพอสมควรเลยแหละ อ่ะๆ กดเลย NETFLIX แปปเดียวจบ

***** #สปอยและระบาย (ระวัง!!!!!) *****

ถกกันประเด็นที่ชอบ

1. พระดล(ปั๊ปโปเตโต้) กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจ ชอบประเด็นนี้มาก เพราะในทางธรรมถือว่าไม่ได้ แต่พระเลือกที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องคือ ตั้งใจลาสิกขา เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร สิ่งที่ไม่เคยเห็นคือพระที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็สามารถมีความรู้สึกหลงใหลทางเพศได้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการจัดการความรู้สึกที่เกิดขึ้น และเมื่อรู้ว่าหลงทาง เราก็สามารถให้โอกาสตัวเองได้เช่นกัน เป็นการนำเสนอในมุมของพระสงฆ์รูปนึงได้อย่างดี

2. การที่ตัวเราพาตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนที่เป็นอันตราย สุดท้ายจะไม่มีใครช่วยเราได้เลย แค่สามคนมีความคิดที่จะทำพุทธพาณิชย์ จริงๆก็ไม่ได้ผิด เหมือนที่พระในเรื่องพูด แต่เงินนั้นมันมาจากความศรัทธาของผู้คนไง มันเอาเงินนั้นมาเข้ากระเป๋าส่วนตัวไม่ได้ แล้ววันนึงที่จะหยุด มันก็กลับลำไม่ได้ละ เพราะฉะนั้นคิดให้ถี่ถ้วนก่อนจะพาตัวเองไปสู่เหล่าภัยอันตรายสีเทา

3. มองกลับมาที่ความเป็นจริง บางวัดก็มีกิจกรรมที่เหมือนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น นิมนต์พระไปทำกิจและต้องมีกำหนดขั้นต่ำการใส่ซองถวายพระ ทำบุญกฐิน เช่าบูชาพระดัง กิจกรรมแสงสีเสียงเปิดเพลงบันเทิงทั้งที่ขัดแย้งกับศีลบางข้อที่พระต้องปฏิบัติ ความเชื่อในสิ่งที่คนกลุ่มนึงอุปโลกขึ้นมาว่า “ของวัดนี้ดี” ในมุมนึงก็น่าคิดว่า เราถูกสร้างความเชื่อจนเราหลงเข้าไป หรือจริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเชื่อและยึดเหนี่ยวจิตใจเราได้เป็นอย่างดียามไม่มีที่พึ่ง สุดแท้แต่คนจะคิดจริงๆ

4. สุดท้าย ช็อตที่ขึ้นตัวเลขเงินบริจาค มันทำให้เรากลับฉุกคิดถึงตอนไปวัด เวลาเค้านับเงินบริจาคสุทธิ หลักหลายล้าน เค้าบริจาคไปทำอะไรกันแน่ เพื่อชูเกียรติของคนบริจาค? เพื่อดึงคนมาร่วมบริจาคเพื่อให้ยอดมันสูงขึ้นไป? หรือเพื่อทำนุบำรุงศาสนาจริงๆ? คำตอบมันมีแหละ แต่ถ้าคนบริจาคทำบุญต่างทำด้วยใจบริสุทธิ์ แค่นั้นก็เพียงพอละ ที่เหลือคือบุญกรรมของคนนำไปใช้

มีอีกหลายประเด็นที่ชอบ เอาวะ ไปดูกันนะ..

Applejack Sam Artnaseaw

รีวิว “สาธุ” ใน Netflix

เนื้อเรื่องค่อนข้างลงลึก ตัวละครมีความเทาๆแบบฉบับความเป็นมนุษย์จริงๆ พุทธพาณิชย์ที่ดาร์กและค่อนข้างจริง และเบื้องบนแบบของจริงจริงๆ
การแสดง เล่นดีทุกคน เชื่อและเข้าใจว่าเป็นคนคนนั้น

ความไหลลื่น/ตื่นเต้น มีตลอดทั้งเรื่อง มีปมมากมายแต่คลายได้ดี และมีปมต่อที่น่าติดตาม มีมุมตลกที่แทรกมาแบบไม่ยัดเยียด (ดูจนจบ 9 ตอนรวดก็แสดงว่าค่อนข้าง flow)
เนื้อหา บอกไปแล้ว แต่งงพวกคำศัพท์ marketing เพราะไม่เคยศึกษา 😅

ภาพ แสง สี เสียง ดี ไม่ค่อยมีความรู้แต่ดูแล้วโทนสีค่อนข้างดี เหมือนดูหนัง

สรุป ดูแล้วก็เข้าใจที่ซีรี่ส์ต้องการจะสื่อ เป็นอะไรที่จริงๆเราก็พอจะรู้แหละ แต่ซีรี่ส์เห็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ทำให้การนับถือพุทธศาสนาลดลง เพราะเราเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า หลักธรรมคำสอน และอริยสงฆ์ และพุทธศาสนาจะไม่เสื่อมถอยถ้าพุทธบริษัท 4 ช่วยกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะปัญหาสามารถเกิดได้จากทุกๆฝ่าย เหมือนในเรื่องนี้แหละ🙏🙏

หมาเเกะหนัง

ความเห็นหลังดู: สาธุ The Believers

“เล่นเเรงเเละไปสุด”

(ไม่สปอยล์)

ความเห็นของผม: นี่เป็นซีรีส์ที่กล้าเล่า กล้านำเสนอมากๆ ครับ คือเอาตรงๆ ถ้าเรื่องนี้ฉายโรง กล้าพูดเลยว่าอาจจะถูกเเบนนะ เนื้อหาที่เล่าสำหรับเรื่องศาสนา มันค่อนข้างเก็บทุกรายละเอียดทั้งเรื่องราวอาชญากรรมที่ลึกไปทุกความชั่วของมนุษย์เเละสะท้อนมันออกมาให้เราเห็นด้านมืดของมนุษย์ได้เเบบเต็มๆ เเล้วซีรีส์นี้เเม้จะไม่ได้มีฉากที่โหดเเบบโหดจัดๆ เเต่เราก็รู้สึกลุ้นตามเเละมีอารมณ์ร่วมไปตั้งเเต่ต้นยันจบ เเต่เสียดายเเค่บางจุดอาจจะดูขัดๆนิดหน่อยครับ เเล้วถ้าใครจับผิดเยอะๆ ก็อาจจะไม่สนุกนะ

ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเรื่องนึงคือ มันรู้สึกว่ายาวไปนิดนะ ควรจะจบซัก 8 ตอนจะดีกว่า 9 ตอน เเล้วไม่ติว่าเเอลลี่เเสดงไม่ดีนะครับ เเต่รู้สึกว่าบางครั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครถูกเล่นประเด็นที่เเรง มันดูรู้สึกอึดอัดเเบบเเปลกๆ อึดอัดคือดีตามที่ผู้กำกับต้องการนะ เเต่ความเชื่อถือมันดูน้อยไปนิด ในมุมมองผมนะครับ ถ้าพูดจะสปอย เเล้วก็ติเเค่ไม่ก็ฉากว่า มีการใช้ซีจีที่ดูหลอกตาไปหน่อย เเละก็มีการดัพเสียงที่เเอบไม่เนียน

ข้อดีต้องชมทุกอย่างเลยนะ นักเเสดงทุกคนสามารถรับบทของตัวเองออกมาได้สุดทางครับ ทุกตัวละครมีจุดเด่นที่เราจะต้องจดจำพวกเขาออกจากเรื่องนี้ไป ทั้งตัวละครหลัก เเละศัตรูในเรื่อง เราก็ทำให้เราเกลียดพวกเขาเช่นกันครับ การเล่นประเด็นที่เเรงสำหรับผมเเล้วก็มองว่ามันค่อนข้างครอบคลุมทุกมุมของธุรกิจของวัดนะ ความระทึกที่หักไปหักมาก็ทำออกมาได้ดีด้วย รวมถึงงานโปรดักชั่น ดนตรี การตัดต่อมีลูกเล่นที่น่าสนใจเเละน่าจดจำมากครับ ด้วยการได้เนตฟลิกซ์มาทำก็ทำให้ทุกอย่างจัดเต็ม ไม่มีกั๊กครับ เเล้วสิ่งนึงที่สำคัญมากๆเลยคือ บทครับ บทของเรื่องนี้เป็นเส้นทางของตัวละครในธุรกิจที่มีราคาที่ต้องจ่ายเเละเราได้เห็นถึงผลของการกระทำได้หนักเเน่นจริงๆ

สรุปเเล้ว นี่คือซีรีส์ไทยคุณภาพที่เเนะนำจริงๆนะ กล้าเล่นประเด็นที่เเรงมาก คือถ้าเอาตรงๆ ถ้าไปฉายโรง มั่นใจว่าอาจจะโดนเเบนครับ ด้วยประเด็นที่เเรงก็ทำให้ประเด็นในเรื่องราวดูเข้มข้น หนักเเน่นเเละมีความรุนเเรงเเฝงอยู่ในนั้นครับ เเม้จะมีบางจุดติดขัด เเต่ก็ดีมากๆสำหรับผู้กำกับบที่กำกับหนังครั้งเเรกครับ

beartai BUZZ

รีวิว ‘สาธุ’ ซีรีส์ที่พร้อมทัวร์ลง รับแรงกระแทก แหกแผลศาสนาแบบไทย ๆ อาจแสบใจชาวพุทธบางคน

ซีรีส์ ‘สาธุ’ หยิบเอาเรื่องราวของธุรกิจ และพุทธพาณิชย์ในศาสนาพุทธมาเล่า และได้ วรรธนพงศ์ วงศ์วรรณ มาทำหน้าที่กำกับครั้งแรก เรื่องราวของ ‘สา ธุ’ เล่าเรื่องของ 3 เพื่อนสนิท วิน (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เด็กหนุ่มที่เรียนไม่จบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เกม (พชร จิราธิวัฒน์) วัยรุ่นบ้านรวยผู้เป็นนายทุนคนสำคัญ และ เดียร์ (อชิรญา นิติพน) ดีไซเนอร์สาวมากฝีมือผู้เชี่ยวชาญการทำกราฟิกและออแกไนซ์ ที่ได้จับมือร่วมกันทำธุรกิจสตาร์ตอัปเกม DeFi แต่ธุรกิจของพวกเขากลับล้มละลายจนกลายเป็นหนี้มหาศาล

พวกเขาจึงจับช่องว่างทางธุรกิจ ด้วยการเข้าไปรีโนเวตและรีแบรนด์วัดภุมราม วัดบ้านที่เคยรกร้าง ให้กลายเป็นแหล่งทำเงินจากความศรัทธา โดยมีน้าแต๋ง (ชาญณรงค์ ขันทีท้าว) มรรคนายกเก่าแก่ของวัดเป็นที่ปรึกษา, พระดล (พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) พระสงฆ์สายวัดป่าที่ต้องรับหน้าที่เป็น KOL ของวัด รวมทั้งพระเอกชัย (เผ่าเพชร เจริญสุข) พระเลขาคนสนิทของเจ้าอาวาส วิน เกม และเดียร์ต้องดำเนินธุรกิจเพื่อหาทางปลดหนี้จำนวนมหาศาล ก่อนจะถูกเพ่งเล็งว่ากำลังหากินกับศาสนา

สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้อย่างเฉียบคมจากการชม 4 ตอนแรก (จากทั้งหมด 9 ตอน) ก็คือ การเอากลไกของพุทธพาณิชย์ที่จริง ๆ แล้วมีความซับซ้อนอยู่ระดับหนึ่ง มีคน (และพระ) เข้าไปโยงใยอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมากได้ออกมาค่อนข้างดูง่าย ถ้าถามว่าสิ่งที่ วิน เกม และเดียร์ ทำใน ‘สา ธุ’ หรือสิ่งที่ผู้กำกับทำการบ้านมานานกว่า 5 ปีเป็นของใหม่ไหม ก็ต้องใช้คำว่าไม่เชิงล่ะครับ แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำได้อย่างน่าสนใจก็คือ การจับเอาของที่ไม่ใหม่มานำเสนอด้วยวิธีการที่สดใหม่ โดยเฉพาะการจับเอากลิ่นอายความเป็นหนังธุรกิจมาเสนอ ตัวหนังจึงค่อนข้างจะนำเสนอเรื่องราวนี้ผ่านเลนส์ของความเป็นธุรกิจ (ผสมหนังอาชญากรรมนิดหน่อย) โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ตอัป

สำหรับผู้เขียน สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าการชำแหละระบบพุทธพาณิชย์ผ่าน Business Model ที่ย่อยให้ดูง่ายและน่าติดตาม ก็คงหนีไม่พ้นการชำแหละความเป็น ‘ศาสนาพุทธแบบไทย ๆ‘ ที่ล้วนแล้วแต่มีความเทา ๆ เต็มไปหมด ซึ่ง ณ จุดนี้ผู้เขียนก็แอบกลัวทัวร์จะลงมาก ๆ เพราะซีรีส์เลือกนำเสนอพุทธศาสนาที่เรียกได้ว่าช็อตฟีลจากความเป็นวัดและพระในอุดมคติ (ของทางการ + คนศรัทธา) มากพอสมควร

อีกสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบในการนำเสนอก็คือ การนำเสนอเรื่องราวอันแสนจะเปราะบางและย้อนแย้งของศาสนาในบางมุมที่ถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจครับ ตั้งแต่การเล่นกับมุมมองของความย้อนแย้งเกี่ยวกับพุทธพาณิชย์ เพราะปกติการจับต้องหรือใช้จ่ายเงินถือเป็นเรื่องที่ผิดวินัยสงฆ์ พระจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้เท่าไหร่ แม้ว่าจะมีพระเลขาเจ้าระเบียบคอยสอดส่องอยู่ แต่ก็ทำได้แค่ฝากฝังให้ฆราวาส (คณะกรรมการวัด) ไปจัดการแทน หรือมุมมองของศาสนาที่ตัดสินว่าอะไรบาป อะไรไม่บาปด้วยการมองไปที่เจตนา ซึ่งในความเป็นจริง เจตนาเป็นอะไรที่พิสูจน์ได้ยากมาก สิ่งเหล่านี้แหละจึงเป็นช่องว่างทำมาหากินด้วยการเอาเจตนาดีเป็นเกราะกำบัง ซึ่งในหนังไม่ได้เสนอออกมาตรง ๆ แต่ก็แฝงเอาไว้ให้เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน

ความน่าสนใจอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือวิธีการเล่าเรื่องที่มีความเป็นหนังจารกรรมเจือปนอยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะการเซ็ตแบ็กกราวน์และคาแรกเตอร์ของตัวละครให้มีความเทา ๆ และจวนเจียนหมิ่นเหม่จะออกนอกลู่นอกทางอยู่ตลอดเวลา จนไม่รู้จะไปจบเรื่องตรงไหน

แม้สิ่งที่เกิดขึ้นใน ‘สาธุ’ จะไม่ได้ถึงขั้นสดใหม่เป็นนวัตกรรม แต่อย่างน้อย ๆ นี่คือหนังที่วาดภาพพุทธศาสนาแบบไทย ๆ ออกมาได้สนุก ตื่นเต้นตามสไตล์หนังธุรกิจ/จารกรรม และสะท้อนความเป็นพุทธแบบไทย ๆ ได้แสบใจใครบางคนมากที่สุดครั้งหนึ่งแล้วล่ะ คือถ้าในที่สุดทัวร์จะไม่ลงก็ถือว่าดีที่สุดแล้วล่ะนะครับ ถ้าคุณเปิดใจกว้าง ๆ และดูซีรีส์เรื่องนี้ก็จะพบเลยว่า นี่คือการรื้อความเป็นพุทธแบบไทย ๆ ตั้งแต่ความเป็น ‘วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง’ และความอาบัติของพระสงฆ์ออกมาให้ได้เห็นกันแบบชัด ๆ กันไปเลย ซึ่งผู้เขียนมองว่าซีรีส์เรื่องนี้คงไม่ได้บ่อนทำลายอะไรหรอก แต่มุมมองที่มีต่อศาสนาไทย ๆ จะเปลี่ยนไปสิ้นเชิงแน่ ๆ และแน่นอนว่า ครั้งต่อไปที่คุณหยอดตู้บริจาค ความคิดในหัวของคุณ (และผู้เขียน) ตอนหย่อนเงินใส่ตู้อาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็ได้นะ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Pattaya Heat (2024) ปิดเมืองล่า

The Undertaker (2023) สัปเหร่อ

Not Friends (2023) เพื่อน(ไม่)สนิท

Deep (2021) โปรเจกต์ลับ หลับ เป็น ตาย

Bad Genius (2017) ฉลาดเกมส์โกง

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูหนังออนไลน์ 2023

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่