You & Me & Me (2023) เธอกับฉันกับฉัน
เรื่องย่อ
ปี 1999 ขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ยู กับ มี ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิทและรักกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน จนต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ หมาก ได้เข้ามาในชีวิต พวกเธอจึงได้สัมผัสกับ “รักครั้งแรก..ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” ทั้งคู่จะจัดการกับความสัมพันธ์นี้ และก้าวผ่านช่วงเวลาที่สับสนบนโลกที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังไทย เรื่อง You & Me & Me (2023) เธอกับฉันกับฉัน หนังประเภท Romance โรแมนติก เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
- วรรณแวว หงษ์วิวัฒน์
- แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์
บริษัท ค่ายหนัง
จอกว้าง ฟิล์ม
นักแสดง
- ธิติยา จิระพรศิลป์
- อันโทนี่ บุยเซอเรท์
- ศุภักษร ไชยมงคล
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
รีวิวกระทู้ pantip สมาชิกหมายเลข 4367224
YOU & ME & ME เธอกับฉันกับฉัน
เรื่องย่อ เธอกับฉันกับฉัน You and Me and Me
ปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ‘ยู-มี’ รับบทโดย (ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์) ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิทและรักกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน จนต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน
แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ ‘หมาก’ รับบทโดย (โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์) ได้เข้ามาในชีวิต พวกเธอจึงได้สัมผัสกับ “รักครั้งแรก..ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” ทั้งคู่จะจัดการกับความสัมพันธ์นี้ และก้าวผ่านช่วงเวลาที่สับสนบนโลกที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร
บอกเลยว่า ทีแรกกะว่าจะห่างๆหนังGDHแล้ว เพราะหลังๆมา ทำเอาผิดหวังเยอะ อย่างที่เคยบ่นๆในหลายๆกระทู้ ของหนังเรื่องก่อนๆในค่ายนี้ แต่แล้ว ค่ายนี้ ก็มักจะมีอะไรดึงดูด ให้เข้าไปดู ไม่ใช่เพราะประเด็นแฝด หรือรักแรกนะ แต่Y2Kนี่แหละ อยากรู้ว่าเขาจะเอาอะไรในยุคนั้น ที่เราคุ้นเคยมาใส่บ้าง ให้เราได้ดู และแล้วก็ตัดสินใจไปดูเรื่องนี้
ความรู้สึกหลังดูจบ ส่วนตัวคิดว่า หนังก็สนุกใช้ได้นะ ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แต่ก็ไม่ได้ดีมาก ว้าว หรือขึ้นหิ้งอะไร เหมือนยุครุ่งเรืองของค่ายนี้ หนังจะออกแนวสูตรสำเร็จทั่วไป ดูง่าย แต่ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ หรือทำให้ว้าว หรือประทับใจ
การดำเนินเรื่อง การเล่าเรื่อง คือเล่าแบบธรรมดาเลย ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ดีที่ยังดูเพลินได้อยู่ ไม่รู้สึกง่วง หรือน่าเบื่อในระหว่างดูหนัง
เรื่องพล็อต หรือบท ก็เหมือนเรื่องอื่นๆทั่วๆไป กับหนังแนวนี้ และสไตล์นี้ คือเรียกได้ว่า เป็นหนังสูตรสำเร็จ ตามท้องตลาดเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรหวือหวา
นักแสดงทุกคน โดยเฉพาะนักแสดงนำ คือเล่นดีมาก มีเสน่ห์ และเอาอยู่ทั้งเรื่อง อาจจะมีบางฉาก ที่รู้สึกว่า ยังดูติดๆขัดๆอยู่บ้าง แต่ก็ดูแล้วธรรมชาติอยู่ ไม่ได้มีผลกับหนังอะไรขนาดนั้น
ประเด็นเรื่องY2K ที่หนังเรื่องนี้ เอามาเป็นจุดขาย ส่วนตัวคิดว่า ที่หนังใส่มา หลายๆอย่าง มันทำให้เรานึกถึงยุคสมัยนั้น ช่วงเวลานั้นๆจริงๆ อย่างนิตยสาร ทามาก็อต เทป เพลง หนังสือการ์ตูน เสื้อผ้า กระเป๋า ฉากปิดไฟ แล้วเดินเตะพัดลม เป็นต้น แต่สถานที่ถ่ายทำ หรือบรรยากาศในหนัง มันถูกเซ็ทขึ้นมายังไม่เนียน ยังไม่นึกถึงยุคนั้นเท่าไหร่ ไม่ค่อยเหมือน ก็บรรยากาศเหมือนต่างจังหวัดทั่วไปสมัยนี้ แทบไม่แตกต่างอะไรมากนัก และรายละเอียดในบ้านหรือในห้อง ก็ตกแต่งออกมาได้เหมือนอยู่ แต่ประเด็นY2K ที่หนังเอามาขาย ส่วนตัวว่า หลังจากที่ได้ดู มันไม่ได้มีอะไรมากขนาดนั้น ที่ทำให้รู้สึกว่า หนังเรื่องนี้ มันคือช่วงเวลาของยุคนั้นจริงๆ หนังพยายามจะเล่าประเด็นนี้ ในหนังเยอะมาก และโดยรวมแล้ว บรรยากาศ สถานที่ คือส่วนตัวว่ามันยังไม่ได้ ไม่อิน มีเพียงเพลง และอุปกรณ์ประกอบฉากเท่านั้น ที่สื่อให้ถึงยุคนั้น แต่เรื่องฉาก สถานที่ ส่วนตัวว่าเฉยๆ มันก็คือเหมือนยุคปัจจุบันเลย ไม่รู้สึกว่าสถานที่ไหน ที่ทำให้รู้สึกถึงยุคนั้นเท่าไหร่
ส่วนที่ไม่ชอบและข้อด้อยของหนัง อย่างที่พูดไปก่อนหน้าเลย คือประเด็นเรื่องY2K ที่หนังเรื่องนี้ พยายามที่จะเอามาเป็นจุดขาย แต่หนังทำได้ไม่ได้ไม่มีพอ ใส่มาแค่อะไรบางอย่าง น้อยมาก แต่ให้รู้ว่ามี และอยู่ในยุคนั้น แต่เรื่องสถานที่ถ่ายทำ คือยังไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะสวยดี บรรยากาศริมน้ำ ชนบท แต่มันก็ยังไม่รู้สึกถึงฟีลลิ่งในยุคนั้นเท่าไหร่
เรื่องบท ยังดูธรรมดา และสูตรสำเร็จเดิมๆไปหน่อย ไม่มีอะไรแปลกใหม่ และดีมากนัก และส่วนที่ไม่ชอบเลย คือทุกอย่างในหนังมันดูลงตัว และง่ายไปหมด พล็อตคือแบบเขียนไว้โคตรธรรมดา คือแบบ ดูไปคือรู้เลย ว่าฉากนี้ มันต้องเป็นแบบนี้ ใส่มาแบบนี้ และมันจะเป็นอย่างนี้ มันเหมาะเจาะแบบดูแล้วรู้เลย ว่ามันคือความตั้งใจจริงๆ จนคนดู ดูแล้วจับทางได้ ว่าแต่จะฉากมันต้องเล่าง่ายๆ เล่นง่ายๆแบบนี้ โดยที่ไม่ผ่านการคิดเยอะใดๆ ตั้งแต่ฉาก..
– พระนางพบกันที่โรงเรียน แล้วก็มีเหตุให้พระเอก ต้องไปอยู่ต่างจังหวัด พ่อแม่นางเอกทะเลาะกัน แล้วก็ต้องไปต่างจังหวัด ซึ่งเป็นที่เดียวกัน
– ฉากรถทัวร์ คือคิดไว้แล้ว ว่าต้องรอด เพราะเดาจากฉากหลายๆฉากในหนัง เพราะเรื่องนี้จะเล่นง่ายพอสมควร เดาไม่ยาก แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
กินวาลาเปา สำลัก ป้าให้น้ำกิน สรุปโดนวางยา อะไรจะเป็นใจ และบังเอิญขนาดนั้น ซึ่งไม่ชอบในส่วนนี้มากๆ หนังดูจงใจเกินไป จนคนดูดูออก แล้วมันไม่เนียนเลย
ทุกอย่างคือดูเป็นใจ และบังเอิญ และจงใจไปซะหมด คือเรียกว่าได้ว่า มันง่ายเกินไปอะแหละ ซึ่งมันดูแล้วไม่เรียล มันปลอมเกินไป
โทนภาพ และสีในหนัง จริงอยู่ ที่หนังมีความเป็น Coming of Age รักแรก รอมความ ฟีลกู๊ด แต่โทนภาพ และสี คือรู้ว่าหนังต้องการใช้โทนนี้ ให้มันดูเหมือนยุคเก่าๆ แต่เราดูแล้ว มันออกแนวโทนสีหนังผี ดูแล้วเย็นๆ หลอนๆ ถ้าเปลี่ยนดนตรีประกอบหลอนๆ คือใช่เลย มันมีความดาร์คไปนะเราว่า
ดูแล้ว แอบคิดในใจ ฉากป่าข้าวโพด ที่นางเอกเดินกลับมาคนเดียว จะถูกฉุดไปข่มขืนเหมือนเรื่อง เฟรนชิปเธอกับฉัน มั้ยนะ หรือว่าจะจบแบบหักมุมหลอนๆ น่ากลัวๆ แบบจบไม่สวย อะไรแบบนี้ โทนสีของหนังมันให้อารมณ์หลอนมากกว่า จะให้อารมณ์ยุคเก่าๆจริงๆ
ฉากดราม่า หรือรอมคอม หนังก็ทำได้ดีระดับนึงนะ แต่เท่าที่เดูแล้ว ส่วนตัวคิดว่า มันยังไปไม่สุดสักทาง ทั้งโรแมนติก และดราม่า
สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ 7/10 คะแนน
หนังไม่ได้ดูอะไรให้ดูมากนัก แต่ถ้าดูคั่นเวลาเพลินๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่า น่าเบื่ออะไร แต่ก็ไม่มีอะไรน่าจดจำ หรือต้องพูดถึงมาก หลังดูจบ แต่เราว่าเรื่องนี้ สนุกกว่าOMGเยอะ
โกดังหนัง
#โกดังหนังใหม่ #โกดังหนังรีวิว เธอกับฉันกับฉัน (You and Me and Me)
หนังไทยเรื่องใหม่จาก GDH ที่รอบนี้สร้างหนังได้เหมาะกับยุคสมัย การหยิบประเด็นรักแรกของเด็กหญิงฝาแฝด ผสมผสานกับความรักสามเศร้า ที่มีกลิ่นอายต่างจังหวัด เติมอิทธิพลกับยุค 90 ลงไปตลอด 2 ชั่วโมงหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้น่ารักน่าดูมันละมุนละไม ช่วยทำให้ผู้ชมดูจบโหยหาอดีตทันที และบทขยี้อารมณ์เล่นกับความรู้สึกกับทุกๆตัวละคร กลายเป็นงานที่น่าดูน่าชมมากๆ
“เขาบอกไว้ว่า ถ้าเราจ้องตาใครเกิน 8 วิ คนนั้นจะตกหลุมรักเรา”
ปี 1999 ขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ยู กับ มี ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิทและรักกันมากจนไม่กล้าแยกจากกันไปไหน เพราะทั้ง 2 คน แชร์ทุกอย่างร่วมกัน จนต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ หมาก ได้เข้ามาในชีวิต พวกเธอจึงได้สัมผัสกับ รักครั้งแรกที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้ ทั้งคู่จะจัดการกับความสัมพันธ์นี้ และก้าวผ่านช่วงเวลาที่สับสนบนโลกที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร
กำลังคิดว่าหนังเรื่องนี้จะเล่าในมุมมองไหนกันแน่ เพราะตัวอย่างที่ปล่อยออกมาก็น่าสนใจ แถมจังหวะหนังก็ดันมาสอดคล้องกับกระแส Y2K ที่ผู้คนมากมายยุคนี้พูดกันลั่นในโลกโซเชียลพอดีทุกอย่างมันช่างเป็นใจเหลือเกิน สิ่งที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้จริงๆ คือการมีตัวละครฝาแฝด You และ Me 2 เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันไปแล้ว เสน่ห์ของหนังก็คือบททำมาค่อนข้างดีมากๆ การเล่าเรื่องออกมาสนุกสนาน สัมผัสถึงความใสๆความไร้เดียงสาของตัวละครที่ออกมาจากใจจริงๆ ไม่ต้องฝืนพยายามเลย หนังเลยเปิดโอกาสแคสติ้งนักแสดงหน้าใหม่ ทำให้เราได้เห็น”น้องใบปอ” ธิติยา จิระพรศิลป์ สาวน้อยหน้าเก๋ที่แสดงหนังเต็มตัวเรื่องแรกน่ารักสดใส
ผ่านตัวละครที่น่าค้นหา การแสดงของเธอตาตรึงใจผู้ชมทันที การเล่นเป็นฝาแฝดกับ 2 คาแรกเตอร์ ลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันสุดขั้วเป็นอะไรที่ยาก แต่เธอเล่นออกมาได้เนียนตาเป็นธรรมชาติ ทำให้คนดูอย่างเราอินทันที สิ่งหนึ่งที่หนังใส่ลงไปคือห้วงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครคนที่เป็นแฝดจากมุมมองคนกำกับที่เป็นแฝดทำให้คนดูได้สัมผัสได้เข้าใจเลย ว่าการเป็นฝาแฝดก็ใช้ชีวิตไม่ได้ง่ายเหมือนกัน หน้าตาเหมือนกัน แต่พวกเขามักโดนเข้าใจผิดเรียกชื่อผิดโดนทักผิดจนบางทีก็รู้สึกเบื่อน้อยใจ หรือการจะใช้ชีวิตภายนอกทีบางครั้งก็แอบเหนื่อย เพราะหน้าเหมือนกันก็ต้องสลับตัวไปทำโน่นทำนี่เป็นประจำจนไม่มีใครสงสัย แต่ในอีกมุมหนึ่งถ้าหากชีวิตพวกเธอ เกิดคนใดคนหนึ่งไปมีแฟนก็ทำใจลำบากซะอีก ไม่แปลกใจที่หนังเลือกจะใช้โทนสามเศร้าและการวางตัวละครหมากของโทนี่ ถือว่าเป็นการตีโจทย์ได้เหมาะสมการเล่นและขยี้กับอารมณ์ความรักความเจ็บปวดมันคงไปจี้ใจใครหลายๆคนที่ได้ย้อนรำลึกถึงความทรงจำรักแรกแน่ๆ
ด้วยความที่หนังมาในกลิ่นอายุ Y2K รอยต่อยุค 90 และ 2000 ทำให้การจัดวางเรื่องราวน่าสนใจมากๆ ไม่คิดว่า การเลือกไปถ่ายทำที่นครพนม จังหวัดทางภาคอีสานติดริมฝั่งแม่น้ำโขงเปรียบเสมือนการไปทัวร์จังหวัดที่มีโลเคชั่นสวยงามน่าไปเที่ยวมากๆ บรรยากาศมันดูร่วมสมัยมีความเป็นอดีตผสมผสานกับปัจจุบัน บ้านเมืองน่าไปเที่ยวมากๆ การวางเฟรมภาพมุมกล้องถ่ายทอดออกมาได้ดีงาม ธรรมชาติของนครพนมช่วยเติมเต็มทำให้หนังออกมาน่าดูน่าชม ไม่คิดเลยว่าเมืองไทยจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามแบบนี้อยู่ ที่สำคัญตัวหนังเองก็โยงใยเข้ากับผู้ชมอายุเกิน 30 ได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหลัก 2 คน You และ Me ที่มาจากครอบครัวที่มีปัญหาเรื่องการเงินที่ได้รับกระทบจากวิกฤตต้มยำกุ้ง เราจะได้เห็นว่าทำไม 2 ฝาแฝดถึงรักกันในวันที่ครอบครัวมีความไม่มั่นคง มีหนี้สิน พ่อแม่ก็มีปัญหามากมาย
ทำให่ฝาแฝดต้องมีใครคนหนึ่งเสียสละเวลาต้องไปทำกิจกรรมพิเศษที่ต้องมีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติม ทั้งเรียนพิเศษให้ไปเข้าค่าย ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปจะรับรู้เลยว่า การมีลูกมีครอบครัว พ่อแม่ต้องเสียสละมีค่าใช้จ่ายที่เยอะแยะ ไม่แปลกใจว่าทำไมระหว่างทางตัวละคร 2 ฝาแฝดจึงแบ่งปันโน่นนี่ให้แก่กันอยู่เสมอ เพราะที่สุดแล้ว ไม่มีใครเข้าใจฝาแฝดได้มากเท่าพวกเขาอีกแล้ว หลายๆฉากในหนังที่ใส่ลงมาทำให้เราชอบเช่น การที่ตัวละครจะแอบโทรศัพท์หาหนุ่มที่ชอบแล้วเกิดความวุ่นวายในใจสับสนไม่กล้าคุยด้วย บ่งบอกถึงความเขินความไม่กล้า หรือความกุ๊กกิ๊กตามประสาเด็กสาว หรือพวกไอเทมทามาก็อตจิที่เด็กปลายยุค 90 ต้องพกติดตัววางเมื่อไหร่เล่นประจำ หรือโทรศัพท์ Nokia ที่ใครๆก็ต้องมีใครไม่มีดูเชย นิตยสารเธอกับฉันที่เป็นหนังสือเล่มดังที่จะต้องมีดารานักแสดงหล่อสาวมาขึ้นหน้าจอ ยุคสมัยก่อนสื่อบันเทิงที่เข้าถึงได้ง่ายสุดคือทีวี หรือไม่ก็นิตยสารเทปคลาสเซ็ตซึ่งตลอดทางหนังมันให้คนดูโหยหาความทรงจำยุค 90 ไปเต็มๆ
หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้กลมกล่อม องค์ประกอบมันค่อนข้างดีกว่างาน GDH เรื่องอื่น แม้ว่าบทรายละเอียดจะไม่ได้แปลกใหม่ แต่เมื่อฉีกกรอบหยิบกลิ่นอาย 90 แล้ว นำเสนอออกมามันดูจริงใจให้ความรู้สึกสนุกเศร้าเหงาดาร์คไปในเวลาเดียวกัน การจัดวางเรื่องราวไม่มีอะไรที่น่าเบื่อชวนหงุดหงิด ตัวละครหลักตัวละครสมทบช่วยกันขับเคลื่อนอารมณ์จังหวะหนังไปได้ตลอดรอดฝั่ง อย่างเช่นคุณกระแต ที่มาซัพพอร์ทน้องใบปอได้ดีมากๆ การแสดงเป็นคุณแม่ดูกลมกลืนกันไปด้วย นอกจากนี้หนังก็มี Message ที่คมคายชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแบกรับการเติบโต เรียนรู้และเข้าใจชีวิต ความรักครั้งแรก หรือการค้นหาตัวเองว่าต้องการอะไรก้าวเดินไปแบบไหน ก็ถูกนำมาใช้ได้อย่างคุ้มค่า เป็นหนังใหม่ของนักทำหนังหน้าใหม่ วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่สอบผ่านตั้งแต่บท การเล่าเรื่อง การแคสติ้งตัวละคร การตัดต่อ การวางซาวด์ประกอบที่มาได้ถูกจังหวะ ดูจบประทับใจมากๆและคิดว่าจะกลับไปดูซ้ำอีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง
สรุป : กลายเป็นหนังไทยที่น่าดูน่าชม นี่คืองานที่น่าหลงใหลในทุกๆองค์ประกอบ ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ ทำให้คนดูได้โหยหากลิ่นอายความเป็นหนังวัยรุ่นแบบ 90 แต่ที่ยอดเยี่ยมคือการแสดงของ น้องใบปอ ที่ The Best ของจริง
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
One for the Road (2022) วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ
One Day (2016) แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
8.1