ดูหนังออนไลน์ Turning Red (2022) เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
เรื่องย่อ
เหมยลี่ (พากย์เสียงโดย โรซาลี่ เชียง) เด็กหญิงวัย 13 ปีที่แสนมั่นใจและขี้เล่น ซึ่งอยู่ในช่วงที่ต้องกลัดกลุ้มใจกับการต้องปฏิบัติตัวเป็นลูกสาวที่ดีของแม่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวสุดป่วนในการเป็นวัยรุ่น หมิง (พากย์เสียงโดย ซานดร้า อู๋) คุณแม่ที่หวง เข้มงวด และไม่เคยแม้แต่จะปล่อยให้ลูกสาวไกลตา ซึ่งดูเป็นเรื่องโชคร้ายสักหน่อยสำหรับวัยรุ่นอย่างเหมยลี่ ที่มากไปกว่านั้น นอกจากเหมยลี่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทั้งความชอบเรื่องต่าง ๆ ความสัมพันธ์หนุ่มสาว และร่างกายของเธอเองแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เธอรู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายใจจนเกินไป (ซึ่งก็เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา) เธอก็จะ “ตู้ม!” กลายร่างเป็นแพนด้าแดงทันที
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง Turning Red (2022) เขินแรงแดงเป็นแพนด้า เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ดูหนัง ออนไลน์ ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
โดมี ฉี
บริษัท ค่ายหนัง
- วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์
- พิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์
นักแสดง
- โรซาลี เจียง
- แซนดรา โอ
- เอวา มอร์ส
- ฮเยอิน ปาร์ค
- ไมตรียี รามกฤษณะ
- โอไรออน ลี
- ไว ชิง โฮ
- ทริสตัน อัลเลอริก เฉิน
- เจมส์ หง
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
หนังโปรดของข้าพเจ้า
Turning Red (2022)
มันคือ Bao ของผู้กำกับโดมี ฉี เวอร์ชั่นอัพเกรดเป็นแอนิเมชั่นขนาดยาวน่ะแหละ พูดประเด็นเดียวกันเลยคือครอบครัวเอเชียตะวันออกที่ปกป้องลูกเกินเหตุ, คอยกำกับควบคุมไม่ให้เด็กเป็นอิสระ, เห็นลูกเป็นเด็กตลอดเวลา และคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตของลูก พอขยายเป็นแอนิเมชั่นขนาวยาวก็สามารถพูดประเด็นเดิมสมัยทำแอนิเมชั่นขนาดสั้นให้ชัดเจนมากขึ้น เพียงแต่ความเป็น Pixar เลยรู้สึกว่างานมันค่อนข้างถนอมน้ำใจคนดู ออกแนวซอฟต์และเป็นมิตรไปนิดนึงเมื่อเทียบกับความเป็นจริง (ซึ่งก็เข้าใจได้) แล้วก็ช่วงเล่าแฟนซีแพนด้าแดงแอบเวิ่นไปหน่อย โดยรวมยังเป็นแอนิเมชั่นที่เราชื่นชอบในไอเดียและการสื่อสารนะ
‘เมยเมย’ เด็กสาวครอบครัวจีนที่เติบโตในแคนาดาวัย 13 ปี เป็นเด็กดีของพ่อแม่ทุกอย่าง ตั้งใจเรียน, ขยันทำกิจกรรม, กลับบ้านช่วยงานครอบครัวอีกต่างหาก แต่แล้วหลังจากแม่ทำให้เธออับอายด้วยการไปด่าเด็กผู้ชายที่เธอแอบชอบจนเอามาวาดรูปเล่นลงสมุด คืนนั้นเองที่มีประจำเดือนครั้งแรก เธอก็ตกอยู่ภายใต้คำสาปกลายร่างเป็นแพนด้าแดงเมื่อรู้สึกหวาดวิตก
แอนิเมชั่นชัดเจนดีว่าพูดถึงครอบครัวเอเชีย ประสบการณ์ตรงวัยเด็กของผู้กำกับวัย 35 ปี เล่าตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกว่าล้าสมัย เราเห็นว่าเธอสื่อสารประเด็นครอบครัวเอเชียตั้งแต่ตอนทำแอนิเมชั่นขนาดสั้นเรื่อง Bao แล้วล่ะ การพูดถึงลักษณะร่วมของพ่อแม่เอเชียที่ชอบบงการลูก อย่างยายของเมยเมยก็บงการลูกตัวเอง เช่นเรื่องการเลือกแฟน ซึ่งแม่ของเมยเมยก็ไม่ยอมยายตัวเอง แต่พอตัวเองเป็นแม่คน แทนที่จะเข้าใจความรู้สึกเรื่องนี้ กลับเอานิสัยของแม่ตัวเองมาใช้กับลูกอีกต่อเฉยเลย
มันมีลักษณะร่วมหลายอย่าง เช่นคอยกดดันเรื่องการเลือกอาชีพ พ่อแม่คาดหวังให้ลูกเลือกเรียนเลือกอาชีพในฝันของพ่อแม่ ถึงบางครั้งจะบอกว่าไม่ได้บังคับ แต่การพูดเปรยพูดถึงกรอกหูบ่อย ๆ หรือถึงขั้นเอาอำนาจจากการส่งเสียค่าเล่าเรียนมากดดัน มันก็ทำให้เด็กหลายคนไม่กล้าเลือกสิ่งที่ใจต้องการ ต้องเอาใจพ่อแม่เสียอย่างนั้น ถ้าดู Bao กับ Turning Red จะเห็นประเด็นร่วมกันคือแม่ที่เห็นลูกตัวเองเป็นเด็กในสายตาเสมอ ลูกอยากเตะบอลก็ดึงกลับ/ลูกอยากไปดูคอนเสิร์ตไม่ให้ไป มันจะมีความปกป้องเกินเหตุ กังวลไปเสียทุกอย่าง แล้วมีลักษณะของการคิดว่าเป็นเจ้าของชีวิตลูก จึงคอยบงการให้ได้ดั่งใจตัวเอง
จนหลายครั้งทำให้เด็กคิดว่าตัวเองทำผิด ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย เป็นเรื่องปกติที่จะสนุกกับเพื่อน ปกติที่จะแอบชอบผู้ชาย ปกติที่จะปลื้มวงดนตรีหล่อ ๆ หรือแค่อยากไปงานวันเกิดเพื่อน แต่พ่อแม่แบบเอเชียที่ปกป้องเกินเหตุจะไปก้าวก่ายทุกอย่าง ทั้งเลือกคบเพื่อน, ผู้ชายที่ชอบ, กิจกรรมที่อยากทำ ใช้คำว่า ‘รักลูก หวังดีกับลูก’ เป็นข้ออ้างในการปฏิบัติกับเด็ก ราวกับเป็นสิ่งของของตัวเอง ทั้งที่ความจริงลูก ๆ ก็มีชีวิตของตัวเอง และมีสิทธิ์ที่จะเติบโตเป็นตัวของตัวเอง
Director: Domee Shi
screenplay: Domee Shi, Julia Cho, Sarah Streicher
Genre: animation, comedy
7/10
จดอ. JUST ดู IT.
#รีบรีวิว TURNING RED เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
ภาพสะท้อนวัฒนธรรมและครอบครัวเอเชีย
เมื่อการเลี้ยงดูทำให้เธออยู่ในกรอบที่ครอบครัววาดฝันไว้ กำลังบีบให้เธอปลดปล่อยสัตว์ร้ายในตัวออกมา TURNING RED แอนิเมชันเรื่องใหม่จาก Disney และ Pixar พร้อมพาคนดูออกจผจญภัยไปกับเรื่องราวสุดว้าวุ่นของสาวน้อยวัย 13 ปี เมยหลิน ที่ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนตามใจอยากกับแก๊งเพื่อน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรอบเป็นเด็กสาวที่เพอร์เฟกต์อย่างที่แม่ของเธอหวัง แต่แล้วชีวิตสองโลกของเธอก็ต้องพบกับ วิกฤตเมื่อเช้าวันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาในร่างของแพนด้าแดง! และมันเกี่ยวพันกับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของครอบครัวเธอ
TRUNING RED พาคนดูไปคลุกคลีกับวัฒนธรรม ความเชื่อ วิถีชีวิต และความคิดแบบคนเอเชีย (ที่ดูจะให้กลิ่นอายแบบชางจีนซะส่วนใหญ่) ผ่านกลุ่มเด็กวัยว้าวุ่นย่างเข้าวันทีนที่ล้วนแล้วแต่เชื่อว่าเขาและเธอ เติบโตมากพอที่จะเผชิญโลกกว้าง และหาเป้าหมายบางอย่างเพื่อพิสูจน์ความเติบโตของตัวเอง
แต่ด้วยช่วงวัยที่คาบเกี่ยวระหว่างวัยเด็กกับวัยรุ่น แน่นอนว่าในสายตาของผู้ใหญ่นี่ไม่ใช่การเติบโต เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องจึงเป็นภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ของเด็กที่กำลังเข้าสู่วัยต่อต้านที่แสดงออกต่อพ่อแม่ผู้ตีกรอบชีวิตลูกมากเกินพอดีและหลงผิดคิดเข้าข้างลูกจนเป็นผลร้ายต่อตัวลูกสาวเธอเอง
แม้ว่าตัวเมยหลินเองจะพยายามบาลานซ์โลกทั้งสองใบเอาไว้ได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ความเป็นเด็กก็มีข้อจำกัดมากมายที่ทำให้เธอไม่สามารถรักษาสมดุลของโลกทั้งสองใบเอาไว้ได้ เมื่อภารกิจก้าวสู่วัยสาวของเธอคือการมุ่งหน้าสู่คอนเสิร์ตศิลปินในฝัน แต่ติดตรงที่แม่ของเธอเกลียดเพลงเข้าไส้ แม้เมยหลินจะพยายามขอเท่าไหร่ ก็ไม่ทีทางยินยอมตอบรับความต้องการของลูกสาว ท้ายที่สุดมันก็ค่อย ๆ กลายเป็นรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกสาว
ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นกรอบความคิดของผู้เป็นแม่ที่กำลังบีบรัด เมยหลินอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอติดอยู่ในความคิดของการเป็นผู้หญิงเพอร์เฟกต์อย่างที่แม่ของเธอหวัง และกลายเป็นความกลัวจนขึ้นสมองว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แม่ภูมิใจ ในขณะเดียวกันสิ่งที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างคำสาปแพนด้าแดงที่ดูจะสร้างความวุ่นวายให้ดับชีวิตของเมยหลิน กลับมอบประตูบานใหม่ให้เธอกล้าฉีกกรอบชีวิตประจำวันแบบเดิม ๆ สู่ชีวิตที่มอบความสุขและสนุกได้มากกว่า
ถึงสิ่งที่แม่ของเมยหลินแสดงออกมาตลอดทั้งเรื่องดูจะเป็นการกระทำที่เกินพอดี (ออกไปคุณแม่รังแกฉัน) แต่ใช่ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลซะทีเดียว ภายใต้ความเข้มงวดของเธอแอบแฝงไปด้วยความห่วงใยของคนเป็นแม่ และแผลใจที่ไม่อาจลบจากอดีตที่เธอเคยผ่านมา
TURNING RED มีการตีความการมาของแพนด้าแดงได้น่าสนใจ แม้ในตอนแรกจะดูเปรยไปสู่ “วันนั้นของเดือน” แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ๆ การมีอยู่ของแพนด้าแดงไม่ต่างเหรียญอีกด้านที่ลูก ๆ พยายามซุกซ่อนไม่ให้พ่อแม่ของพวกเธอเห็น ทั้งความกดดัน ความเสียใจ และความสนุกในแบบที่พ่อและไม่มอบให้ไม่ได้ ในทางกลับกันมันก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่ในตัวเช่นกัน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่
แม้ตลอดทั้งเรื่องจะไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นเร้าใจคนดู หรือเรื่องราวที่น่าค้นหาเหมือนผลงานเรื่องก่อน ๆ ของ Disney และ Pixar แต่ TURNING RED ก็มีองก์สามที่เพี้ยนขั้นสุด เปลี่ยนโหมดสู่แอนิเมชันฮีโร่แบบเต็มตัวพร้อมเสิร์ฟทั้งฉากพาดโพนโจนทะยาน ไปจนถึงฉากแปลงร่างที่ชวนให้คิดถึงการ์ตูน/หนังขบวนการ แถมท้ายด้วยกลิ่นอายแบบแอนิเมชันไคจูให้พอหอมปากหอมคอ
น่าเสียดายที่เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกของ TURNING RED เป็นประเด็นที่น่าสนใจและน่าจะทัชใจใครหลาย ๆ คน แต่บอกเล่าในมุมมองของเด็กเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากแอนิเมชันสูตรสำเร็จเรื่องอื่น ๆ ยิ่งทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางไม่น่าจดจำและเป็นได้แค่แอนิเมชันที่ดูเอาเพลินแล้วจบไป
TURNING RED คือแอนิเมชันที่พาไปสัมผัสความกดดันของเด็กที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ ความคิด วิถีชีวิต และอิทธิพลต่าง ๆ ที่มีผลต่อเอเชีย แม้จะทำได้แค่ดูเพลิน ๆ แต่ก็มีหมัดเด็ดซ่อนอยู่ในช่วงท้ายของเรื่อง
Indie the Pooh
Turning Red เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นกำลังจะโตเป็นสาว (8/10) l แอนิเมชั่นที่แฝงไปด้วยแง่คิดดีๆ ที่ไม่ควรพลาด! (สปอยล์)
Turning Red เขินแรงแดงเป็นแพนด้า
เรื่องย่อ : เรื่องราวของเหมยลี่สาวน้อยวัย 13 ปี ที่กำลังกลุ้มกับการต้องปฏิบัติตัวเป็นลูกสาวที่ดีของคุณแม่ และเรื่องราวสุดป่วนในการเป็นวัยรุ่น เพราะมีบางอย่างผิดแปลกเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ ทุกครั้งที่เธอรู้สึกเขิน (ซึ่งเราทุกคนต้องเจอเรื่องที่ทำให้เขินตลอดเวลา) ร่างกายของเธอจะ ตู้ม! กลายเป็นแพนด้าแดง!
หลังจากได้เห็นตัวอย่างที่ปล่อยออกมา บอกเลยว่าเรื่องนี้ ค่อนข้างจะต่างไปจากเรื่องก่อนๆของPixar พอสมควร ทั้งภาพ และสไตล์ของหนัง ดูไม่ค่อยสะดุดตา เนื้อเรื่อง พล็อตของหนัง มันดูไม่น่าจะสนุก เลยไม่ค่อนคาดหวังกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ดูเบา และดูเป็นหนังเด็กมากๆ แต่ด้วยความที่เป็นติ่งDisney และPixar ยังไงคือก็ตั้งตารอ ที่จะชมอยู่ดี มันต้องมีอะไรมากกว่าการ์ตูนแอนิเมชั่นเหมือนทุกเรื่องแน่ๆ
ตวามรู้สึกหลังดูจบ
บอกเลยว่า มันเกินคาดมากๆ สนุก และดี กว่าที่คิดไว้ ถึงจะไม่ได้ว้าว หรือดีเยี่ยม แต่ก็ถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ดีเลย Disney และPixar ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ
ชอบประเด็นของครอบครัว มิตรภาพของเพื่อน ความรัก การเติบโตของวัยรุ่น ช่วงชีวิตช่วงหนึ่งในยุคนั้น และวัฒนธรรมของคนจีน ในเมืองทอรอนโต้ แคนาดา ที่หยิบออกมาเล่า และถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละครMeilin สาวน้อยวัย13 เพื่อนๆ และครอบครัว ได้อย่างกลมกล่อม
ในด้านของงานภาพ ถึงจะเฉยๆกับที่ได้เห็นในตัวอย่าง แต่พอได้ดูจริงๆ เอาดีๆ สวยนะ สวยมาก แค่ลายเส้นต่างๆ อาจจะไม่คุ้นชินกับหนังเรื่องก่อนๆตามสไตล์ของพิกซาร์แค่นั้นเอง ความใส่ใจรายละเอียดของภาพในแต่ละฉาก ความสวยงาม แสง สี เงา ความละเอียด คือทำออกมาได้ดีมากจริงๆ
เรื่องงานภาพนี่ต้องยกให้เขาเลยค่ายนี้ มีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ มาให้ว้าว และตื่นเต้นได้ตลอด ไม่เคยหยุดอยุ่กับที่จริงๆ โทนสีมีความสดใส สวยงาม น่ารัก
พล็อต เนื้อเรื่อง มีความแปลกใหม่ จากเรื่องที่ผ่านๆมา เรียกได้ว่าจินตนาการ ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ สำหรับDisney และPixar คือขึ้นชื่อว่าค่ายนี้ หนังทุกเรื่องต้องมีอะไรใหม่ๆ มาเสิร์ฟให้กับคนดูตลอด
การเล่าเรื่อง และการดำเนินเรื่อง อาจจะไม่ใช่เหมือนที่เคยดูหนังพิกซาร์ทุกๆเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ดูสนุก เพลิน และไม่น่าเบื่อเลย ดำเนินเรื่องได้กระชับ เข้าใจ และสนุก
ชอบเรื่องการแฝงแง่คิดดีๆ ไว้กับหนัง และตัวละคร ทุกคนล้วนมีด้านดี และไม่ดี และเราต้องอยู่กับมันให้เป็น และสุดท้ายแล้ว ความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัว และเพื่อนๆ ก็ที่พร้อมจะซัพพอร์ตในสิ่งที่เราเป็นได้เสมอ
เพลงประกอบเพราะมาก ดนตรี และเสียงประกอบภาพยนตร์คือทำออกมาได้ดี มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว
ตัวละครต่างๆ ออกแบบได้น่ารัก และมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ทั้งตัวละครหลัก และตัวละครอื่นๆ แต่ที่ชอบมากที่สุด แก๊งหนุ่มๆ วง4*TOWN
คือออกแบบออกมาได้น่ารักมาก เหมือนหลุดออกมาจากเกมเลย สมแล้วที่เป็นบอยแบนด์ ที่ใครๆก็กรี๊ด
ข้อด้อยของหนัง
ส่วนตัวคิดว่า บท เนื้อเรื่อง ดูเบาไปหน่อย ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่
สำหรับคะแนนความชอบส่วนตัว ให้ไปเลย 8/10 คะแนน
สตรีมได้แล้ววันนี้ ที่ Disney+ hotstar นะ
สำหรับใครที่ดูแล้ว คิดเห็น หรือรู้สึกยังไงกันบ้างมาแชร์กัน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกันอ
Soul (2020) อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
The Good Dinosaur (2015) ผจญภัยไดโนเสาร์เพื่อนรัก
6.3