ดูหนัง Pee Nak (2019) พี่นาค
เรื่องย่อ
หลังจากผ่านพ้นศึกล้างคําสาปแห่งปฐมบทพี่นาค โทมินจุน (มีน พีรวิชญ์) เซเลบลูกครึ่งไทย-เกาหลี ได้มีโอกาส กลับมาบ้านเกิดในวัยเยาว์ เพื่อช่วยบูรณะโบสถ์เก่าแก่ของวัดประจําชุมชน โดยไม่ลืมควงแขน บอลลูน (เอม วิทวัส) กับ เฟิร์ส (เจมส์ ภูริพรรธน์) ที่ได้รับการอวยยศเป็นผู้จัดการส่วนตัวคุณโทก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน แค่ก้าวแรกที่เดินเข้ามา สัญญาณแห่งความอาฆาตจากผีพี่นาคภายใต้หน้ากากสยอง ก็พุ่งเป้ามาที่คุณโทอย่างจัง คําสัญญาและความเกลียดชังกําลังก่อตัวขึ้นจากความทรงจําในอดีตที่ถูกลืมเลือน
ขณะที่คุณโทโดนตามจองล้างจองผลาญอยู่นั้น ก็ได้เจอ น็อต (ต้า อธิวัตน์) อดีตเณรเทพแกดเจ็ต แพรรี่ (นนท์ อินทนนท์) แม่ครัวปากแจ๋ว และ โบนัส (มินตัน ทาสกระดาน)เครื่องด่าแห่งหมู่บ้าน จะมาร่วมรับแรงกระแทกแห่งชะตากรรมที่หนีให้พ้นยังไงก่อน
ภายใต้หน้ากากสยอง… ผีพี่ นาคตนนี้คือใคร? บาปและกรรมหนักแค่ไหนถึงอยากให้ตายตกไปตามกัน? นี่คือจุดเริ่มต้นของตํานาน พี่ นาคอีกบท พร้อมจะมาบดขยี้มิตรภาพ อาละวาดมันทุกภพชาติ กระหน่ำความฮาให้ป่าช้ากระเจิง!
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังไทย เรื่อง Pee Nak (2019) พี่นาค หนังประเภท Horror สยองขวัญ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนัง ออนไลน์ ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
ไมค์ ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ
บริษัท ค่ายหนัง
ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด
นักแสดง
- ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์
- ชิน ชินวุฒ
- เจมส์ ภูวดล เวชวงศา
- พลอยชมพู ญานนีน
- เอ้ ชุติมา นัยนา
- เอม วิทวัส รัตนบุญบารมี
- ปอนด์ คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ
- ต้า อธิวัตน์ แสงเทียน
- ก้อง วิทยา ทิพย์เทพ
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
จิบชา รับลม กับมิสเตอร์ อเมริกัน
พี่นาค (Pee-Nak) (2019) (ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ) (B)
บอลลูน เฟริส และ โหน่ง สามเพื่อนซี้ที่ปีนี้ดวงซวยเหลือหลายเนื่องจากบอลลูนดันไปบนบนกับศาลพี่ นาคสุดเฮี้ยนให้ถูกหวยด้วยการต้องมาบวชพร้อมกันสามคน ทว่า วัดที่พวกเขามานี้ดันมีตำนานว่า คนบวชไม่เคยได้เป็นพระ เนื่องจากมีวิญญาณพี่ นาคค่อยมาทำไม่ให้คนได้บวช
“ถ้ากูไม่ได้บวช พวกมึงตาย”
ครับ ผลงานทำเงินระดับร้อยล้านของค่ายตราลูกโลกอย่าง ไฟว์สตาร์ที่หลัง ๆ หันไปจับทำหนังผีสามมิติแนวตลกมานาน แต่หลัง ๆ เหมือนไม่ได้รับความนิยมนักพอมากับเรื่องนี้ที่เอาคอนเซ็ปผีนาคมาใช้ก็ดูน่าสนใจทันที โดยเฉพาะการสร้างตำนานผีขึ้นมาว่า ถ้าไม่ได้บวช ตายหมดมาใช้ เป็นกฏหลักของหนังที่ทำให้เราสนใจว่า ตัวละครในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่คือ หนังสยองขวัญระดับตลาดล่างที่หยิบจับเอาสิ่งที่เป็นชายขอบของสังคมไทยอย่าง กระเทย ผี พระ มาเจอกันภายใต้ Theme Propaganda หรือโฆษณาชวนเชื่อของศาสนาพุทธและวัฒนธรรมที่ว่า ผู้ชายต้องบวชทดแทนคุณมาใช้ได้อย่างน่าสนใจ เนื่องจากหนังให้เห็นภาพการปะทะกันของชายขอบทั้งหมดได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวละครอย่างกระเทยสองคนอย่าง บอลลูน เฟริ์ส ที่เป็นตัวแทนของสิ่งที่ไม่ใช่คนปกติในเชิงศาสนา (แต่ปกติในทางเพศสภาพ) จะต้องมาบวชด้วยเหตุผลว่า อยากให้พ่อแม่ภูมิใจ (และรวมทั้งเจอบังคบจากการแก้บน) ด้วย แน่ละว่า ในเรื่องนี้มันให้เราเห็นภาพว่า การบวชนั้นสูงค่าเพียงใดและมากพอจะทำให้เราเข้าใจความอัตตาของผีนาคในเรื่องว่า ทำไมไม่ได้บวชได้ชัดเจน
คือหนังมันมีอัตตาตรงนี้ว่า คนจะบวชได้ต้องเป็นมนุษยฺ์เท่านั้น ซึ่งผีหรือนาค มีความเลื่อมใสก็ไม่มีอาจจะบวชได้ ซึ่งเหมือนว่า ตัวหนังเน้นย้ำตรงนี้จนกลายเป๋นบทสรุปว่า การบวชคือเรื่องสูงสง การบวชคือหน้าที่ที่ลูกพระชายต้องทำ
ถึงเป็นกระเทยมีเพศสภาพแบบไหน ถ้าเกิดมาเป็นชายต้องบวช ไม่งั้นจะไม่ถือว่าเป็นการทดแทนคุณพ่อแม่
นี่คือ สิ่งที่หนังพยายามบอกเล่าเสมอจนบางทีรู้สึกว่ามันยัดเยียดไปไหม เพราะ เอาจริง ๆ แล้วหนังที่เล่าเรื่องการบวชแล้วไม่ยัดเยียดเลยในที่เคยชมมาคือ หลวงพี่กับผีขนุนที่ตัวหนังดูธรรมชาติและสมูธกว่านี้มาก แต่นั้นแหละว่า หนังมันก็ทำหน้าที่ในการเป็นโฆษณาชวนเชื่อของศาสนาพุทธไปแบบชัดแจ้งไม่ต่างกับการนั่งชมหนังผีของคาทอริคอย่าง The Conjuring ที่ตั้งคำถามเรื่องศรัทธาพระเจ้าเท่านั้นถึงจะชนะวิญญาณร้ายได้อยู่ดี
สุดท้ายแล้วความยึดมั่นถือมั่นก็ไม่ต่างกับสายพิณที่ตึงเกินไปจนขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ได้ค้นพบก่อนจะตรัสรู้ได้ในที่สุด
เช่นเดียวกับผีนาคในเรื่องที่รับรู้ว่า การยึดติดของตัวเองทำร้ายใครไปมาก และ ไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย
นั้นคือ บทสรุปของหนังที่มันพาเรามาจนท้ายเรื่องด้วยการให้เห็นภาพของการบวชของทั้งสามคนที่นำพาทุกอย่างมาสู่เรื่องราวต่อไปที่จะถูกบอกเล่าครับ
แน่ละว่า ผีนาคไม่ใช่หนังผีที่มีบทดีอะไรนัก มันมีช่องโหว่เยอะและมีหลายอย่างไม่สมเหตุสมผลอยู่ เพียงแต่หนังชดเชยด้วยการถ่ายภาพของวัดที่น่ากลัวและลึกลับ บรรยากาศของเรื่องชวนหลอนและขนลุกตลอดเวลา จังหวะหลอกผีมานาน้อยแต่ดี ที่สำคัญคือ นักแสดงในเรื่องเข้าขาและมีคาแรคเตอร์ที่สนุกมากทำให้หนังเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อไปจนจบเรื่องเลยทีเดียว
รวมแล้วเป็นหนังผีคอมเมดี้สุดหลอนที่ทำได้ดีและไม่แปลกที่จะทำเงินครับ
ป.ล. หนังมีให้ชมใน Netflix นะครับ แล้วก็หวังว่าภาคสองจะมาไว ๆ นะ ใน Netflix
ป.ล. ฉากหลอกผีในดงรูปปั้นพระนี่เป็นหนึ่งในฉากหลอกที่น่ากลัวที่สุดครั้งหนึ่งของวงการหนังไทยเลย
ผมเป็นคนชอบหนังผี
[ผีรีวิว] พี่นาค (Pee Nak) : มันครบรสมาก สายผี สายฮา ไม่ควรพลาด
หลังจากไปดูรอบสื่อมาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ต้องใช้เวลาอีก 2 วันเพื่อนั่งคิดว่า จะเขียนรีวิวหนังเรื่องนี้ไปแนวไหนดี เพราะมันทั้งฮาและหลอนจริงๆ
เป็นเรื่องราวของ โหน่ง หนุ่มโชคร้ายในวัยเบญจเพส ที่ต้องเจอแต่เรื่องโชคร้ายนับไม่ถ้วน จนพ่อต้องออกปากให้ไปบวช พร้อมกับเพื่อนชายใจสาวอีก 2 คนที่ดันไปบนศาลพี่นาคไว้ว่าจะบวช ถ้าถูกหวย แต่ก็ดันต้องมาเจอโชคร้ายซ้ำซ้อน เพราะวัดที่ไปบวชดันที่อาถรรพ์ที่จะไม่เคยมีใครได้บวช งานนี้พวกเขาจึงต้องหาทางแก้อาถรรพ์นี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป!!!!
ตั้งแต่ได้ดูตัวอย่างของหนัง แทบจะไม่คาดหวังกับหนังเลยในตอนแรก เพราะส่วนตัวผมจะชอบหนังที่มีแนวทางชัดเจน ถ้าจะเป็นหนังผีก็เป็นหนังผีให้สุดไปเลย แต่หนังเรื่องนี้กลับเลือกที่จะทั้งหลอนและตลก
แต่หลังจากได้ดู ต้องบอกเลย เกินความคาดหมายมากกกก หนังทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด โดยหนังมีการเล่นกับเวลากลางวัน กลางคืนได้ค่อนข้างดี ทำให้ต้องอุทานขึ้นมาทุกครั้ง ที่เริ่มเข้าช่วงกลางคืน โดยที่ตอนกลางวันหนังจะเป็นโทนตลก เรียกเสียงฮา ซึ่งทำได้ค่อนข้างดี ยอมรับว่า ขำลั่นโรงไปหลายรอบ ส่วนตอนกลางคืน หนังจะเปลี่ยนตัวเองเป็นหนังสยองขวัญแบบเต็มรูปแบบ บางฉากนี่หลอนจริงๆ ต้องยอมรับเลย!!! แม้ว่าจะมีจุดติที่ในช่วงต้นเรื่อง มีการปูตัวละครเร็วไปหน่อย จนทำให้ช่วงท้ายๆของหนัง ไม่รู้สึกอินกับตัวละครหลักของเรื่องเท่าไหร่ (อินกับเรื่องราวของผีนาค มากกว่าด้วยซ้ำ) แต่โดยรวมก็ถือว่า ทำออกมาได้ดี ดูแล้วรู้สึกได้ถึงความตั้งใจอยากจะทำหนังเรื่องนี้ของทีมงานจริงๆ
โดยรวมสำหรับ หนังเรื่องนี้เหมาะกับทั้งสายหลอน และ สายตลก เพราะเพื่อนๆ จะได้รับทั้งสองรสชาติตลอดทั้งเรื่อง และทั้งสองรสชาติก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว เรียกว่าค่อนข้างกลมกล่อมเลยก็ว่าได้ แนะนำให้ไปดูจริงๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อ ต้องลองครับ!!
ระดับความหลอน + ฮา : 8 หลุม
ปล. แอบกระซิบว่า เดี่ยวเร็วๆนี้ จะมีหนังสั้นชวนหลอนเรื่องใหม่ รอติดตามกันด้วยนะครับ 🙂
เนิร์ดติดหนัง
รีวิว พี่นาค (2019)
เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่เสียงรีวิวค่อนข้างแตก บ้างก็บอกว่าบันเทิงกับมันได้ บ้างก็บอกว่าห่วยโครตๆ
เรื่องก็เกี๋ยวกับ 2 ตุ๊ด 1 ชาย ได้เข้ามาบวชในวัดแห่งหนึ่งเพราะเหตุผลบางอย่าง แค่วัดที่พวกเขาจะไปบวชนั้นดันมาอาถรรพ์เกี่ยวกับผีนาค หากใครมาบวชวัดนีั้ จะตายตั้งแต่ตอนที่เป็นนาค….
ถือว่าเป็นไอเดียที่โอเคเลยนะ การใช้เรื่องเกี่ยวกับวัด และการบวชนาคมาทำเป็นพล็อตของหนังผี ยิ่งบรรยายกาศของวัดมันชวนให้หลอนอยู่ด้วย แต่การเล่าเรื่องเหมือนจะเน้นไปที่พาร์ทตลกมากกว่าพาร์ทน่ากลัว ซึ่งพาร์ทคลกผมคิดว่าออกจะ 50/50 ที่มีทั้งขำก๊าก (ซึ่งมีแค่มุกสองมุกที่ขำจริงๆ) ขำแบบพอกลาง กับขำแบบหึๆ อันนี้ก็แล้วแต่คนดู ว่าเส้นจะลึกจะตึ้นมากน้อยแค่ไหน ส่วนในพาร์ทของความน่ากลัว ผมรู็สึกว่าบรรยายกาศหนังเรื่องนี้ทมำออกมาหลอนใช้ได้เลย ไม่ว่าฉากจะกว่าหรือแคบ กลับกัน หนังกลับใช่เสียงดนตรีบิ้วแบบหนังผีทั่วไป ที่พร้อมจะตุ้งแช่ได้ตลอดเวลา มันจึงทำให้ดูธรรมดาไปหน่อย
ด้านนักแสดง ที่เด่นสุดก็คงเป็นตัวละครตุ๊ด 2 คน เหมือนจะเป็นตัวโจ๊กของเรื่อง แต่บางทีก็โวยวายกันมากเกินไปนะ(โวยกันจนเกือบจะเป็นหนังของคนนั้นเลย 555+) แต่่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้เลยคือ นักแสดงสองคนนี้เคมีเข้ากันได้ดี จึงทำให้เรายังรู้สึกโอเคอยู่บ้าง ตัวละครพนะเอกก็ออกมาเด่นไม่ต่างกัน แต่จะเน้นไปทางพาร์ทดราม่ากับความน่ากลัว แต่ตัวละครจุ๋ยที่เล่นโดยพลอยชมพู กลับเป็นตัวละครที่เหมือนจะไม่ได้รับความสำคัญอะไรเลย ออกมาน้อยมาก (ทั้งๆที่ดูจะเป็นตัวหลักได้) อันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่หนังเรื่องนี้น้องพลอยชมพูโครน่ารักเลย ทุกครั้งที่น่าออกมา ไม่ว่าอารมณ์ไหน ก็อดอมยิ้มไม่ได้ (ก็น้องเค้าน่ารัก อ่าาา) และหนังก็มีนักแสดงสมทบ(หรือรับเขิญนี่แหละ) มาปรากฎในหนังอยู่บ้าง ส่วนเป็นใครนั้น แนะนำให้ดูเองครับ
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็น Horror Comedy แต่หนังเรื่องนี้ก็มี CG มาประกอบหนังอยู่บ้าง ซึ่งบ้างจุดก็ทำออกมาดีเลย แต่ขัดใจตรง CG ตุ๊กแกนิดนึง ตรงนี้แอบลอยไปหน่อย
และถึงหนังจะเน้นตลก(มากกว่า)สยอง แต่หนังก็ได้สอดแทรกสาระเกี่ยวกับพุทธศาสนาอยู่บ้าง
ด้านบท ก็มีทั้งที่โอเคและขาดเกินๆ และยังมีความเป็นเบสิคของหนังผีตลกอยู่ โดยช่วงแรกของหนังถือว่าใช้ได้ มีการเล่าเหตุผล ที่มาที่ไปอยู่บ้าง แต่ในช่วงหลังกลับเริ่มรู้สึกดรอป(เพราะความที่เล่นอะไรเดิมด้วยแหละ) จึงทำให้อรรถรสเริ่มลดลง และบทสรุปในบางจุด เหมือนนึกจะใส่ก็ใส่มา ไมไ่ด้อธิบายไว้ชัดเจน(อย่างกาวอ่ะ)
สรุป…ถึงจะไม่ได้ดีที่สุด ไม่ได้ดีเลิศเลอ แต่ถ้าไปดูเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ หนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ แค่ถ้าใครดูนักแสดงก็ถือว่าโอเค แต่พลอยชมพูออกน้อยมาก ใครที่ไปดูพลอยชมพูอาจจะผิดหวังหน่อย(แต่น้องเค้าน่ารักให้อภัยได้) แต่ถ้าใครอยากดูความเป็นหนังดี ความเป็นหนังเด่น ตวามเป็นภาพยนตร์ แนะนำให้กาเรื่องอื่นครับ เพราะถ้าคนดูดัยไปดูหนังที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็หัวร้อนเปล่าๆ
และสุดท้าย นี่คือการรีวิวในมุมของตัวผมเองนะครับ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สองตาเห็นไม่เท่ากับ ซื้อตั๋วไปดูเอง ไม่ใช่ด่าตามกระแส หรืออคติเพราะนักแสดง ตามนั้นค่ะ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Geji The Spirit Hunter (2024) เกจิ คนฆ่าผี
The Undertaker (2023) สัปเหร่อ
6.3