ดูหนังออนไลน์ใหม่2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนัง 2023 HDฟรี
8xbet212

Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง

1 คะแนน

ตัวอย่าง

Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง

ดูหนัง Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง

เรื่องย่อ

เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจและตื่นตาตื่นใจ ผลิตโดย Pixar Animation Studios และออกฉายโดย Walt Disney Pictures ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยมีฉากหลังเป็นวันหยุดอันมีชีวิตชีวาของชาวเม็กซิกัน Dia de los Muertos (Day of the Dead) และบอกเล่าเรื่องราวอันเจ็บปวดของครอบครัว ประเพณี และพลังแห่งความทรงจำ แอนิเมชั่นที่มีเสน่ห์ของภาพยนตร์ เพลงที่ติดหู และการเล่าเรื่องจากใจของพิกซาร์ ทำให้ “วันอลวน วิญญาณอลเวง” เป็นภาพยนตร์คลาสสิกที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยและทั่วโลก “Coco” ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้แก่ผู้ชมเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานของเม็กซิโก และความสำคัญสากลของการเอาใจใส่ครอบครัวและความทรงจำของคนที่เรารัก

Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง แม้ครอบครัวของเขาจะมีการห้ามเล่นดนตรีจากคนรุ่นเก่า แต่มิเกลก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างเออร์เนสโตเดอลาครูซ มิเกลสิ้นหวังที่จะพิสูจน์ความสามารถของเขามิเกลพบว่าตัวเองอยู่ในดินแดนแห่งความตายที่สวยงามและเต็มไปด้วยสีสันหลังจากเหตุการณ์ลึกลับ ระหว่างทางเขาได้พบกับเฮคเตอร์นักเล่นกลที่มีเสน่ห์และพวกเขาออกเดินทางร่วมกันเพื่อไขเรื่องราวที่แท้จริงเบื้องหลังประวัติครอบครัวของมิเกล

ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง Coco (2017) วันอลวน วิญญาณอลเวง หนังประเภท Fantasy จินตนาการ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ดูหนัง ออนไลน์ ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS

ผู้กำกับ

ลี อุนคริช

บริษัท ค่ายหนัง

  • วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์
  • พิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์

นักแสดง

  • Anthony Gonzalez
  • Gael García Bernal
  • เบนจามิน แบร็ต
  • Alanna Ubach
  • Renée Victor
  • Ana Ofelia Murguía
  • Edward James Olmos

โปสเตอร์หนัง

1657181528 1947580807@2x unnamed 6 วันอลวนวิญญาณอลเวง

รีวิวหนัง

Hollywood GossipGun

#Coco

เมื่อมนต์เสน่ห์ของค่าย Pixar กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง

(ให้ 9 คะแนนเต็ม 10)

ถ้าพูดถึงค่ายหนังอนิเมชันที่มีคุณภาพสุดของฮอลลีวู้ดในยุคนี้ Pixar ถือว่ากินขาด ด้วยหนัง Original Idea คุณภาพสูงอย่าง Toy Story, Finding Nemo, The Incredibles, Up, Wall-E, Ratatouille จนมาถึง Wall-E แต่ก็เพลี่ยงพล้ำกันไปบ้าง กับหนังภาคต่อที่คุณภาพไม่ถึงอย่าง Cars 2 และ 3 ทำให้แฟนๆ ของค่ายนี้ ต่างโหยหาหนังที่ไม่ใช่ภาคต่อ ที่มาพร้อมกับไอเดียใหม่ๆ แบบที่ค่ายนี้เคยร่ายมนต์วิเศษมาแล้ว หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่ง Coco ได้มาถึง

Coco ได้ชื่อเป็นหนังที่ใช้เวลาสร้างยาวนานมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ Pixar เริ่มพัฒนางานสร้างมาตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งเข้าฉายในปี 2017 ภายใต้การดูแลของ Lee Unkrich ที่เคยกำกับ Toy Story 3 หนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของค่าย โดยหนังหยิบเอาวันแห่งความตายของเม็กซิโก ที่ชื่อว่า Día de Muertos มาเป็นไอเดียแรกเริ่มในการผลิตหนัง

โดยหนังเริ่มต้นจากการพาเราไปทำความรู้จักกับ มิเกล เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในครอบครัวผลิตรองเท้า ในเม็กซิโก ครอบครัวที่ต่อต้านการเล่นและการฟังดนตรีทุกประเภท ทำให้เค้าต้องหลบๆซ่อนๆที่การเล่นกีตาร์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก เออเนสโต้ เดอ ลา ครูส ศิลปินระดับตำนาน แต่แล้วเมื่อวันแห่งความตาย เทศกาลไหว้บรรพบุรุษเดินทางมาถึง เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นกับ มิเกล เมื่อเค้านั้นหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งความตาย

โดยรวม Coco คือหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ Pixar แบบที่แฟนๆต้องการ แบบที่จะทำให้คนดูตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ เริ่มต้นจากพล็อตหนัง ซึ่งเป็นไอเดียที่เวิร์คมาก การเล่าเรื่องที่สนุกแบบที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะชื่นชอบ และที่สำคัญ หัวใจของหนัง ที่ทำออกมาได้ทั้งอบอุ่นและอิ่มเอม จนบางฉากทำเอาเราน้ำตารื้นออกมาอย่างไม่รู้ตัว

หนังพาเราไปสู่โลกแห่งความตาย ที่ออกแบบมาอย่างน่าตื่นตา และมีรายละเอียดในงานภาพ จนอยากจะกราบทีมงาน ตื่นตาแบบที่เราเคยตื่นเต้นขณะดู Zootopia หรือ Inside Out หนังพาเราไปสู่อีกโลกหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ ซึ่งในอนาคต ไม่น่าว่าอาจจะกลายเป็น Theme Park ใหม่ใน Disneyland ก็เป็นอันได้

แม้เหตุการณ์ในหนังจะเกิดขึ้นในเม็กซิโก และเลือกเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเป็นภาพห่อ แต่อันที่จริงแล้ว Coco เลือกที่จะใช้ธีมหลักเป็นเรื่องของครอบครัวและการตามไล่่ตามความฝัน ซึ่งเป็นเรื่องสากลมากๆ ดังนั้น ไม่ยากเลยที่ผู้ชมจะอินกับหนังเรื่องนี้ ไม่ประเด็นใดก็ประเด็นหนึ่ง

หลังจากเมื่อกลางปีที่ผ่านมา Pixar ปล่อย Cars 3 เข้าฉายเพื่อหวังจะหารายได้จากการขายของเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับเอาผู้บริหารมาตีมากๆ ทางค่ายก็คืนฟอร์มอีกครั้งกับ Coco ซึ่งสำหรับเรานั้น เป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่จะยกให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังอนิเมชันที่ดีที่สุดในปีนี้แล้ว หนังมีศักยภาพในการทำเงิน และสมควรอย่างยิ่งในการเข้าชิงรางวัลต่างๆประจำปีนี้

(เปิดรอบพิเศษแล้ววันนี้ ถึง 29 พฤศจิกายน รอบหลัง 2 ทุ่มเป็นต้นไป เข้าฉายจริง 30 พฤศจิกายนนี้)

เด็กน้อยวิจารณ์หนัง

COCO ( 2017 )

( 8.5/10 )

“ อบอุ่น งดงาม ประทับใจ “

( เรื่องย่อ )

– แม้ดนตรีจะเป็นสิ่งต้องห้ามของครอบครัวมาหลายชั่วอายุคน “ มิเกล “ เด็กชายอายุ 12 ก็ยังฝันเป็นนักดนตรีชื่อดังให้ได้อย่าง “ เออเนสโต เดอ ลาครูซ “ ไอดอลของเขา ผู้เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงของเม็กซิโก จนกระทั่งเขาพยายามพิสูจน์พรสวรรค์ตัวเองจนใกล้จะสิ้นหวัง เรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น โดยที่ตัวมิเกลได้เข้าไปยังดินแดนของคนตายซึ่งเต็มไปด้วยเหตุการณ์แปลกประหลาดระหว่างทาง จนได้พบกับ “ เฮคเตอร์ “ หนุ่มหล่อเจ้าเล่ห์ ทั้งคู่จึงได้เริ่มเดินทางเหนือจินตนาการเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ในครอบครัวของมิเกลไปพร้อมๆกันกับตามหานักดนตรีในดวงใจ พร้อมทั้งต้องหาวิธีกลับสู่โลกคนเป็นให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไปด้วย….

( รีวิว )

– “ อบอุ่น งดงาม ประทับใจ “ คือคำนิยามที่ผมขอมอบให้กับแอนิเมชั่นน้ำดีเรื่องนี้ครับ

– นอกเหนือจากความโดดเด่นเรื่องงานภาพแล้ว “ บท “ คือส่วนที่ดีเช่นกัน และที่นอกเหนือไปจากนั้น แอนิเมชั่นเรื่องนี้ตอบโจทย์และตีความหมายของคำว่า “ ครอบครัว “ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่สามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้มากอยู่พอสมควร

– แต่นอกเหนือจากบทที่ดีแล้ว และตัวเรื่องก็ตีความหมายของคำว่าครอบครัวได้ดีอีก แต่ผมชอบมากที่สุดนอกเหนือจากสองสิ่งดีที่ผมเกริ่นมา ก็คือ ตัวแอนิเมชั่นใส่ใจทุกรายละเอียด และเล่าถึงประเพณี วัฒนธรรม ของชาวเม็กซิโก ได้ลึกและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นโดยผ่านเป็นบทเพลงเพราะๆ และถ่ายทอดเรื่องราวได้ลงตัวและเข้ากันกับจังหวะการเล่าเรื่องนี้นั่นเองครับ

– และข้อดีอีกอย่าง คือการเล่าเรื่องโลกแห่งความตาย วันแห่งความตาย ตามความเชื่อของชาวเม็กซิโก โดยที่ถ่ายทอดออกมาได้ตามจินตนาการ แล้วผ่านเรื่องราวแบบน่ารัก ทั้งตัวละครอย่าง มิเกล และ เออเนสโต โดยที่มีปมดราม่าในเนื้อหาของครอบครัวมาใส่เต็มที่แต่ดันถูกจังหวะ โดยที่สามารถเรียกน้ำตาและชวนคิดถึงความหมายของคำว่า “ ครอบครัว “ อย่างแท้จริง

– ส่วนสุดท้ายตัวแอนิเมชั่น เลือกจบทิ้งท้ายได้แบบชาญฉลาด และเข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย โดยที่ถ่ายทอดออกมาให้รับรู้ถึง ความรัก และการสูญเสีย โดยที่บางทีเหตุผลต่างๆที่ผู้ใหญ่และเด็กมองต่างกัน แต่ลึกๆแล้วอาจจะมีอะไรหรือความหมายที่แอบแฝงไปมากกว่านั้น โดยที่มุมมองของเด็กอาจจะยังไม่รับรู้ถึงความรักที่แท้จริงจากคนในครอบครัวของตนเอง และตัวแอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ตอบคำถามคาใจในมุมมองของเด็กอย่างมิเกล ได้แบบตรงประเด็น และเฉลยถึงความหมาย ความรักที่แท้จริงของบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายที่มีให้ต่อลูกๆหลานๆนั้นเองครับ

– และขอเสริมส่วนท้ายอีกนิด ตัวแอนิเมชั่นนอกจากใส่พาร์ทดราม่าเรื่องครอบครัวมาไว้เยอะแล้ว ตัวบทยังเล่นถึงการถูกลืม การจากลา การกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาด และการสะท้อนถึงมุมมองความห่างเหิน การยอมรับ การก้าวพ้นช่วงวัย และมุมมองอีกด้านของแต่ละวัย ซึ่งตรงนี้ตัวแอนิเมชั่นใส่มาเล่าแบบเต็มที่ สามารถเรียกน้ำตาและสร้างรอยยิ้มได้พร้อมกันจนน่าประทับใจแต่แฝงข้อคิดไว้ได้เยอะเกินคาด

– และถ้าหากตัดข้อเสียตรงจุดที่ บางช่วงที่มีตัวละครเยอะมามากพอควร วัฒนธรรมบางอย่างของชาวเม็กซิโกก็ดูยังไม่เข้าใจกับวิถีคนในบ้านเราเท่าไหร่ และบางช่วงบางอารมณ์ก็ชวนให้แอบคล้ายแอนิเมชั่นอีกเรื่องอย่าง Inside Out แต่นั้นก็เป็นเพียงข้อเสียเล็กๆน้อยๆที่ไม่ทำให้ลดความสนุกมากมายเท่าไหร่นัก โดยที่หากมองข้ามข้อเสียตรงส่วนนี้ถือว่า แอนิเมชั่นเรื่องนี้ถ่ายทอดความเป็นเรื่องราวภายในครอบครัว เติมเต็มจินตนาการ และการตามล่าหาความฝันของเด็กน้อย โดยที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้แบบ “ อบอุ่น งดงาม ประทับใจ “ อย่างน่าชื่นชมมากพอสมควรครับ

( สรุป )

– ผมยอมรับว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้ อธิบายถึงความหมายของคำว่าครอบครัวออกมาได้อย่างเต็มที่ และรับรู้ถึงความรักของคนที่เป็นญาติผู้ใหญ่ ทั้งพ่อแม่ลุงป้าน้าอาหรือแม้กระทั่งปู่ย่าตายาย และให้รับรู้ถึงการสูญเสีย การจากลา การแสวงหาความฝันและเติมเต็มจินตนาการของตัวเองไปด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ตัวแอนิเมชั่นตอบโจทย์ของคนดูได้ดีอย่างมาก
และถ้าตัดของเสียตรงตัวละครที่มีมาเยอะไปนิด และวัฒนธรรมบางอย่างของเม็กซิโกที่ผมเองก็ไม่เข้าใจบ้างในบางส่วน ถือว่าตัวแอนิเมชั่นทำได้ดีจนน่าชื่นชม และสอดแทรกพาร์ทดราม่าเอาไว้ได้ค่อนข้างเยอะ โดยที่เนื้อหาดันลงตัวไปกับตัวบท เนื้อหา และภาพสวยๆ บทเพลงเพราะๆ และยังพาคนดูไปสู่โลกจินตนาการและโลกของความตาย ได้แบบน่าชื่นชมกับความฝันของเด็กน้อยอย่างมิเกล ที่สามารถพาคนดูได้รับรู้และถวิลหาความฝันในวัยเยาว์ของตนเองได้ดีเลยทีเดียวครับ

– ทิ้งท้ายอีกนิด แอนิเมชั่นเรื่องนี้ทิ้งท้ายจบแบบชาญฉลาด เรียกน้ำตาซึมได้มากพอควร และที่สำคัญ ความหมายของคำว่า COCO นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คิดไว้อีกครับ…..

โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12

Coco (2017) . . . ความงดงามของการได้เกิดมา

(เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน)

ยอมเลยครับ เจอประเด็นอะไรแบบนี้ไป ตายอย่างเดียวเท่านั้น โคตรพ่ายแพ้และอ่อนแอเหลือเกินกับเรื่องของความทรงจำ… การดำรงอยู่ของตัวตน… และการถูกลืมเลือน..

Coco เป็น Animation เรื่องล่าสุดของทาง Pixar ซึ่งถือเป็นงาน Original เรื่องแรกในรอบสองปีเลยทีเดียวหลังจากที่จบ Inside Out กับ The Good Dinosaur ไปก็มีงานภาคต่ออย่าง Finding Dory กับ Cars 3 มาคั่นซึ่งมีคุณภาพออกมาในระดับกลางๆจนหลายๆคนอาจเป็นกังวลกันไปแล้วว่า Pixar จะเริ่มตันแล้วหรือเปล่าถึงพยายามจะเข็นหนังภาคต่อออกมารัวๆแบบนี้… ทว่าการมาของ Coco นี่เองที่มันทำให้แฟนๆได้ชื่นใจอีกครั้งว่า “ไฟ” และ “พลังในการสร้างสรรค์” ของค่ายนี้มันยังไม่หมดสิ้นแต่อย่างใด

ตัวหนังเป็นการเล่าถึง “มิเกล” เด็กหนุ่มที่เติบโตมาในครอบครัวซึ่งเกลียดชังดนตรีและสั่งห้ามเค้าไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับมันเด็ดขาดแม้ว่าในใจลึกๆแล้วเค้าจะชอบดนตรีมากมายขนาดไหน เนื่องจากเค้ามีไอดอลในดวงใจคือ “เดอ ลา ครูซ” ศิลปินชาวเม็กซิกันในตำนานที่ มิเกล มองไว้เป็นเป้าหมายว่าอยากจะเก่งให้ได้แบบนั้น

ด้วยเหตุจำเป็นบางประการ ณ วันแห่งความตาย (Día de Muertos หรือ Day of the Dead เทศกาลเฉลิมฉลองและระลึกถึงสมาชิกในครอบครัวที่ล่วงลับ) มิเกล ดันได้เผลอไปขโมยกีต้าร์จากหลุมศพของ เดอ ลา ครูซ เข้า และนับจากนั้นเอง ด้วยคำสาปจากการ “ขโมย” สิ่งของจากคนตาย ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของ Day of the Dead ที่คนเป็นควรจะเป็นฝ่าย “ให้” มิใช่ “แย่งชิง” มิเกลจึงได้ก้าวเข้าสู่ “โลกหลังความตาย” และต้องหาทางกลับมายังดินแดนคนเป็นให้ได้ก่อนรุ่งสาง มิฉะนั้นเขาก็จะตายไปเลยจริงๆ

แต่จากการเดินทางในโลกแห่งความตายเพื่อหาวิธีกลับบ้านนี้เอง เขากลับได้พบคุณค่าที่จริงแท้ของคำว่า “บ้าน” “ครอบครัว” และ “ความทรงจำ” ในที่สุด

หลังจากที่ใช้ชีวิตมา 30 กว่าปี ข้อสรุปหนึ่งที่ผมได้มาคือการมองว่า “ความทรงจำ” คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการ Define ตัวตนของ “คน”… มนุษย์แต่ละคนคือ “เปลือก” ที่กักเก็บความทรงจำที่แตกต่างอันเกิดจากการผสมผสานเรื่องราวนับพันนับแสนในชีวิตเข้าด้วยกัน และมันออกมาเป็น “มวลแห่งความทรงจำ” ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในห้วงจักรวาล หากใครก็ตามไม่มีความทรงจำ มันคงเป็นได้แค่เปลือกเปล่าๆที่มิอาจ Define ตัวตนได้อีกต่อไป… (ผมจึงเกลียดโรคอัลไซเมอร์มากๆ เวลาดูหนังเกี่ยวกับอะไรพวกนี้มันจะเจ็บปวดกว่าปรกติทุกที)

ด้วยเหตุนี้ ประเด็นนึงที่ผมรู้สึกรีเลทมากคือประเด็นของการจดจำ การลืมเลือน และ “ตัวตนที่เราอยากหลงเหลือไว้บนโลกนี้” ที่ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นมันถูกเล่าผ่านการเอาวันแห่งความตาย หรือ Day of the Dead ของเม็กซิกันมาแตกหน่อและต่อเติมเป็นเรื่องราวใน coco ได้อย่างเข้าที่เข้าทาง เมคเซ้นต์ และเต็มไปด้วยชีวิตแม้หนังมันจะพูดถึงคนที่ไม่มีชีวิต

Day of the Dead เป็นเทศกาลหรือประเพณีที่คนชอบดูหนังน่าจะเคยผ่านตากันมาบ่อยๆทีเดียวครับ ซึ่งมันมักจะถูกนำเสนอในแง่ของความ Exotic แต่กลับไม่เคยมีเรื่องไหนเลยที่พาเราเข้าไปเรียนรู้อย่างจริงจังว่าชาวเม็กซิกันทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร

กลายเป็นว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังวัฒนธรรมนี้มันกลับเต็มไปด้วยความพร้อมมูลมากๆที่จะเอามาเล่าเป็นหนังแบบ Coco เนื้อแท้ของประเพณีมันไม่มีอะไรเลยที่ดูน่าตื่นตระหนกและหวาดหวั่น แต่มันคือเรื่องของ “ความรัก” “ความอบอุ่น” และ “การให้คุณค่าต่อกันและกันแม้เขาจะจากไปแล้ว” ล้วนๆ ผิดกับภาพลักษณ์ที่ดูน่ากลัวอย่างสิ้นเชิง และเนื้อหาของตัวประเพณีและเรื่องราวของหนังเองมันก็แทบจะซ้อนทับกันได้พอดิบพอดีและพากันหนุนนำไปสู่การคลี่คลายปมของหนังได้อย่างงดงาม โอเคว่าแม้บางส่วนจะเป็นอะไรที่เราสามารถคาดเดาได้บ้าง แต่มันไม่ได้ไปทำลายความยอดเยี่ยมของผลลัพธ์สุดท้ายที่หนังบอกกับเราเลยแม้แต่น้อยครับ และ Coco ก็กลายเป็นหนังที่ผมรักที่สุดไปแล้วของ Pixar

สิ่งหนึ่งที่มันงดงามและทำให้ผมอิ่มเอมมากๆ คือ Coco มันเป็นหนังที่มาปลอบประโลมจิตใจผมได้ค่อนข้างจะมาก สิ่งที่หนังฝากเอาไว้ได้ทำให้ความกังวลที่ผมเคยมอง “การสูญสลายของตัวตนและความทรงจำ” ของเรานั้นมันเบาบางลง

ผมเคยคิดเสมอว่าตัวตนของมนุษย์แบบเราๆแล้ว มันไม่เคยมีความสำคัญอะไรเลยต่อห้วงจักรวาลนี้ เราได้รับมาเพียงแค่ช่วงอายุขัยสั้นๆหนึ่งในหลายร้อยล้านๆๆๆๆๆของเอกภพ ดังนั้นการที่เราเกิดมาหรือตายไปมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรทั้งสิ้น…

แต่ เหตุผลที่หนังมอบให้… เหตุผลที่ซ้อนอยู่หลังประเพณี… ถูกเล่าอย่างมีเหตุมีผลมากพอจะทำให้ผมซื้อและหยิบเอามายึดเหนี่ยวจิตใจไว้ต่อไป

“เราเกิดมาเพื่ออะไร?”

“ก็เพื่อหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของใครสักคนต่อไป ต่อไป และต่อไป”

ได้แค่เท่านั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผมรู้สึกแล้วว่าการได้เกิดมามันช่างเป็นความโชคดีที่แสนงดงามจริงๆ…

แน่นอนว่ามันคงไม่มีใครอยากสูญเสียความทรงจำไม่ว่าจะโดยตนเองหรือหายไปจากความทรงจำของใคร แต่อย่างน้อยๆด้วยความรักและความผูกพันธ์ที่เราเคยสร้างไว้กับใครสักคน มันจะยังคงยึดโยงและเหนี่ยวนำให้สองหัวใจได้ใกล้ชิดกันแม้จะอยู่คนละมิติ นี่คือสิ่งที่เราอาจได้ยินบ่อยแล้ว แต่ไม่เคยเห็นภาพได้ชัดอย่างที่ Coco ทำได้

ไม่เพียงแค่นั้น แม้หนังมันจะมีบริบทที่พูดถึง “ครอบครัว” เป็นสำคัญ แต่กับผมเองที่ไม่ได้ใช้ชีวิตมาในครอบครัวใหญ่แบบนั้นก็ยังเข้าถึงได้โดยง่าย เพราะตัวหนังมันยังสามารถสื่อสารถึงหน่วยความสัมพันธ์ที่ย่อยลงกว่านั้นได้ทุกระดับ… เพราะเมื่อคนเรารักและมีความหวังดีต่อกันแล้ว มันไม่มีใครที่สมควรจะถูกลืมทั้งนั้น…

Remember me… น่าจะเป็นเพลงที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดเพลงหนึ่งในหนังหนึ่งเรื่อง แต่ทุกครั้งที่มันบรรเลงกลับมอบความรู้สึกที่แตกต่างกันไป

อย่าลืมฉันนะ… แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ในทุกลมหายใจของเธอไปตลอดกาล…

————————————————————–

IMDb: 8.9

Rottentomatoes: 97% (Avg. 8.2)

Metascores: 80

แอดหมี Scores: 5 หมี ดู

Movies Delight Club

Coco (Lee Unkrich, Adrian Molina, 2017)

คะแนน A

“บรรเลงดนตรีในโลกหลังความตาย สายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว” ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ดีงามที่สุดในปีนี้เลย และเป็นแอนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาดในการรับชมแต่อย่างใด หนังเต็มไปด้วยความละเอียดทั้งงานโปรดักชั่นและงานดีไซน์ตัวละครแต่ละตัวได้อย่างดีเยี่ยม วิธีเล่าเรื่องค่อยๆพาเราไต่ระดับไปเรื่อยๆ ผ่านการเดินทางตามหารากเหง้าบรรพบุรุษ ตามหาความฝันในสิ่งที่อยากเป็น พร้อมทั้งสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ท่ามกลางเสียงดนตรีและประเพณีวัฒนธรรมของชาวลาตินอเมริกาในเทศกาล ‘Day of the Dead’ ซึ่งตัวหนังพาเราไปเข้าใจวัฒนธรรมรูปแบบนี้ได้อย่างลึกซึ้งกินใจ(เปรียบเทียบประเพณีบ้านเราคงเป็น งานเช็งเม้ง)

ผนวกกับเนื้อเพลงและท่วงทำนองที่สอดประสานร้อยเรียงกันได้อย่างไพเราะตลอดทั้งเรื่อง เพลงประกอบไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าตัวภาพยนตร์ได้กลายเป็นแอนิเมชั่นแนวเพลงที่นึกจะร้องเพลงก็ร้องเลย เพราะดนตรี+คำร้องในเรื่องมีจุดมุ่งหมาย+แสดงออกมาได้ถูกจังหวะตามสถานการณ์ แม้ว่าภาพรวมของเรื่องราวต่างๆใน ‘Coco’ จะอยู่ในรูปแบบงานสำเร็จรูป ที่ตัวละครออกตามหาความฝัน ตัวละครมีทะเลาะกันระหว่างทาง หรือบทสรุปช่วงท้ายที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรในพล็อตเรื่อง เพียงแต่งานนี้มีความหนักแน่นของเรื่องราวที่เจนจัดและมีพลังงานมหาศาลในช่วงเร่งเร้าอารมณ์ร่วมได้อย่างดีเยี่ยม จนต้องเสียน้ำตาให้กับฉากสำคัญของเรื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

‘ดิสนีย์และพิกซ่าร์’ ไม่เคยสร้างความทรงจำไม่ดีเลยสักครั้ง หนังเกือบทุกเรื่องมีการจัดวางบทภาพยนตร์ที่ดีเยี่ยม มีเมสเสจที่จะสื่อสารได้ตรงประเด็นและแน่นอนว่ามันเข้าถึงทุกเพศทุกวัยได้อย่างง่ายดาย ด้วยเนื้อเรื่องที่ย่อยง่าย+จับประเด็นได้ถูกจุดในการจับตัวละครรังสรรค์ออกมาสู่หัวใจของคนดูครั้งแล้วครั้งเล่า สำหรับ ‘Coco’ ถือเป็นความสำเร็จอีกหนึ่งครั้งอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่มีข้อตำหนิใดๆเลย

พร้อมทั้งยังกล้าหาญในการใช้เรื่องราวผ่านวัฒนธรรมและสำเนียงเม็กซิกันได้อย่างน่ารักลงตัวอีกด้วย เรื่องราวจึงถูกสอดประสานผ่านช่วงเวลาที่ดีและความทรงจำที่ดี ทำให้ ‘โลกความตาย’ ในเรื่องดูมีพลังและให้ความปิติยินดีจนนึกถึง ปู่ ย่า ตา ยาย หรือทวดของเราไปพร้อมกัน หนังพาให้เรานึกถึงบรรพบุรุษทั้งคนเป็นและคนตาย ทำให้เราไม่หลงลืมคนเหล่านั้นที่ถ้าไม่มีพวกเขาก็ไม่มีเราในวันนี้ ประเด็นเรื่องการหลงลืมใครสักคนเมื่อเวลาผ่านไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเป็นข้อความที่สวยงามและเข้าใกล้ความรู้สึกของการกลัวใครสักคนลืมว่าครั้งหนึ่งเคยมีเราอยู่ในความทรงจำเหล่านั้น มุมหนึ่งตัวหนังเองยังสะท้อนให้เราตระหนักถึงอดีตของตัวเราเอง อดีตที่เคยเกิดขึ้น ยอมรับเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีตได้อย่างลงลึกถึงแก่นความเป็นคนในครอบครัวได้อย่างสร้างสรรค์

ท้ายสุด ‘Coco’ เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มุกตลกสอดแทรกลงตัว ข้อความน่าประทับใจ ผจญภัยไปในโลกหลังความตาย เสียงเพลงขับขานประกอบฉากที่ละเมียดละไม+ละเอียดจับใจมาก เข้าถึงง่ายทั้งเด็กน้อยทีรักการผจญภัย+เรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ เข้าถึงผู้ใหญ่ที่ทำให้สะกิดความคิดว่าเราได้หลงลืมใครไปหรือเปล่า ทั้งหมดจึงเป็นสิ่งการรันตีได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมบทเวทีออสการ์อย่างแน่นอน และแทบที่จะไร้คู่แข่งใดๆเลย เพราะเนื้องานทั้งหมดนั้นมีคุณภาพยอดเยี่ยมและครบองค์ประกอบอย่างมาก นอกจากนี้สาขาดนตรีประกอบหรือเพลงประกอบยอดเยี่ยมก็น่าจะได้เข้าชิงเหมือนกัน โดยเฉพาะเพลง ‘Remember Me’ ที่ทำให้เราร้องไห้และยิ้มไปได้พร้อมกัน ฉะนั้นแล้ว งานนี้จึงต้องเน้นย้ำกันอีกครั้งว่า ไม่ควรพลาดเพราะเนื้องานจะทำให้เรารักคนในครอบครัวของเรามากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน…และไม่เกินไปที่จะบอกว่า ‘ควรดูก่อนตาย’ ไปดูเถอะ….

ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ 🙂

ดูหนังยังไงไม่ให้โสด

•COCO• (2017)

วันอลวน วิญญาณอลเวง : Animation, Adventure, Comedy

หนังชั่วโมงครึ่ง : ทั่วไป
—————————————

[100/10] สั้นง่ายๆ ได้ใจความ “Coco is the best animation of the year 2017” เรียกน้ำตา รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน แฝงข้อคิดเรื่องชีวิต ครอบครัว ความฝัน และดนตรี ได้อย่างดีและเข้าใจง่าย หลายคนอาจจะบ่นพึมพัม “ขนาดนั้นเลยอ่อวะ” #เออขนาดนั้นแหล่ะ เรื่องนี้มีในระบบ 3D ด้วยนะ แต่ IMAX เป็น 2D ธรรมดา #เสียดาย แต่ถ้ามีให้ดูก็ดูไปเหอะ IMAX คือสิ่งที่ดีต่อชีวิตท่าน = ออกแผ่นเมื่อไหร่จัด Blu-ray แบบไม่คิดชีวิตเลย

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Soul (2020) อัศจรรย์วิญญาณอลเวง

Elemental (2023) เมืองอลวนธาตุอลเวง

Kung Fu Panda 4 (2024) กังฟูแพนด้า 4

Baymax (2022)

PAW Patrol The Movie (2021)

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

The Jester (2023)
หนังฝรั่ง ซาวแทร็ค
หนัง

4

ดูหนังออนไลน์ 2023

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่