ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Uglies (2024) อั๊กลี่

3 คะแนน

ตัวอย่าง

Uglies (2024) อั๊กลี่

Uglies (2024) อั๊กลี่

เรื่องย่อ

ในโลกอนาคตอันเสื่อมทรามที่ยึดความงามเป็นมาตรฐาน วัยรุ่นสาวที่รอเข้ารับการทำศัลยกรรมความงามภาคบังคับต้องออกเดินทางเพื่อตามหาเพื่อนที่หายตัวไป

ผู้กำกับ

  • McG

บริษัท ค่ายหนัง

  • Davis Entertainment
  • Anonymous Content
  • Industry Entertainment
  • Wonderland Sound and Vision

นักแสดง

  • Joey King
  • Keith Powers
  • Chase Stokes
  • Brianne Tju
  • Jan Luis Castellanos
  • Charmie Lee
  • Laverne Cox

โปสเตอร์หนัง Uglies (2024) อั๊กลี่

Uglies (2024) - IMDb

Uglies 2024 Official Trailer | Joey King, Keith Powers | Netflix

Uglies (2024) Netflix SciFi Trailer with Joey King

รีวิวหนัง

Super Review Channel

รีวิว Uglies (2024 Netflix) (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางประการ)

Uglies (2024) เป็นภาพยนตร์แนวหลังโลกล่มสลาย ดัดแปลงจากนวนิยายของ Scott Westerfeld เล่าเหตุการณ์ในโลกอนาคตที่ผู้คนทุกคนต้องเข้ารับการศัลยกรรมพลาสติกเมื่ออายุครบ 16 ปี เพื่อให้มีความงามตามมาตรฐานและค่านิยมสังคม

แต่การศัลยกรรมนี้มีไว้เพื่อสังคมไม่ให้เกิดการแบ่งชั้นทางสังคมจากรูปลักษณ์ภายนอก ทุกคนจะมีความเท่าเทียมกันในภาพลักษณ์ หน้าตา และเลือกรูปลักษณ์หน้าตาในแบบที่อยากได้ได้

ตัวเอกของเรื่องคือ ทอลลี่ ยังบลัด หญิงสาวที่ ไปฝันว่าอยากจะมีหน้าตาที่สวยงาม แล้วไปอยู่ในเมืองของผู้คนที่ได้รับการศัลยกรรมแล้ว เธอกำลังจะรับการผ่าตัดตามเดวิดเพื่อนชายที่เธอสนิท แต่ในไม่ช้าก็พบว่าสิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการควบคุมความคิดและความสามารถในการตัดสินใจของมนุษย์

เธอได้รู้จักกลุ่มต่อต้านที่เรียกว่า “The Smoke” ที่ต้องการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับระบบนี้ และพบว่าการทำศัลยกรรมนี้ทำให้คนถูกควบคุมง่ายขึ้น โดยผู้มีอำนาจจะควบคุมทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ทอลลี่ ต้องตัดสินใจระหว่างการใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบในสังคมที่ถูกจัดการหรือเข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านเพื่อเปิดโปงความจริงนี้

เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปก็ขอให้ทุกท่านไปรับชมใน Netflix เอาเองก็แล้วกันนะครับ แล้วหนังเขาก็มีพากย์ไทยให้ด้วยนะ

#ปรัชญาหรือความหมายสำคัญ
Uglies สะท้อนถึงประเด็นของมาตรฐานความงามในสังคมและการกดขี่ทางความคิด ตัวภาพยนตร์สำรวจการที่สังคมบังคับให้ทุกคนต้องมีรูปลักษณ์ที่ “สมบูรณ์แบบ” ผ่านการผ่าตัดและการแปลงโฉม ซึ่งแฝงความหมายถึงการควบคุมจิตใจและความเป็นมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงภายนอกจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นการยอมให้สังคมครอบงำวิธีคิดและการตัดสินใจของเราด้วย

ทั้งยังสะท้อนว่า การที่โลกล่มสลายนั้นแท้จริงก็เกิดจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ หนังปูพื้นให้เห็นว่า ในอดีต โลกของเราคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ มนุษย์ในยุคแรกยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบสุข มีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ทรัพยากรทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทะเล แม่น้ำ ป่าเขา และทุ่งหญ้าต่างก็เต็มไปด้วยชีวิตที่รุ่งเรือง แต่มนุษย์ไม่หยุดอยู่เพียงแค่การอยู่รอด เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า สังคมเจริญขึ้น การใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสร้างอำนาจและความมั่งคั่งก็เพิ่มมากขึ้น

เข้ายุคอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง มนุษย์เริ่มต้นการทำลายล้างธรรมชาติอย่างไม่มีวันย้อนคืน การใช้พลังงานฟอสซิลอย่างไร้ขอบเขต การตัดไม้ทำลายป่า และการก่อสร้างเมืองใหญ่อย่างบ้าคลั่ง ทำให้โลกที่เคยงดงามค่อยๆ กลายเป็นสถานที่ที่ถูกปกคลุมด้วยมลพิษ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และภัยธรรมชาติทวีความรุนแรง โลกในอดีตที่เคยเขียวขจีและสงบสุข กลับถูกแทนที่ด้วยการล่มสลายจากน้ำมือของมนุษย์เอง

ดังนั้นเมื่อมนุษยชาติมีโอกาสครั้งที่ 2 จึงเรียนรู้จากอดีตและทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้กลับไปสู่วังวนเดิมซ้ำ ๆ จึงจำเป็นจะต้องควบคุมมนุษย์ไม่ให้ไปทำสิ่งนั้นอีก และแนวคิดประชาธิปไตยหรือเสรีนิยมนี่แหละที่ทำให้โลกจึงเข้าสู่ภาวะล่มสลาย ดังนั้น ตัวละครผู้นำคนสำคัญที่ปลูกฝังแนวคิดล้างสมองเยาวชนโดยการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และสมองไปพร้อม ๆ กัน ได้กล่าวว่า

“…เสรีภาพทางความคิดถึงโรคร้าย..ถ้าเราปล่อยให้ผู้คนเลือกทางของตัวเอง พวกเขาจะเลือกทำลายโลก การทำให้พวกเขาไร้ทางเลือกจะช่วยพวกเขาไว้ มนุษยชาติต้องการการชี้นำ…

เราอาจจะมองว่าแนวคิดในหนังที่สุดโต่ง และแน่นอนว่ากลุ่มต่อต้านก็มองว่าความหลากหลายและอิสระนั่นแหละ ที่ทำให้โลกใบนี้หมุนต่อไปได้ ที่ทำให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและอารยธรรม แต่ก็ลองพิจารณาดูทั้งสองแนวคิด จะได้มุมมองที่แตกต่างออกไป นั่นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนดูเอง

#บทวิจารณ์
Uglies มีการนำเสนอแนวคิดที่ท้าทายเรื่องมาตรฐานความงามและการจัดการสังคมผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ special effect ถือว่าดีและคุ้มมากสำหรับหนังจาก netflix มีฉากแอ็กชันและการดำเนินเรื่องที่น่าติดตาม ความสัมพันธ์ของตัวละครหลักดี ทอลลี่ และ เดวิด ที่เพิ่มความลึกให้กับเนื้อเรื่อง และนำไปสู่จุดเปลี่ยนของเรื่องได้ ดีแม้ว่าตัวหนังอาจรู้สึกซ้ำซากในบางจุด แต่ก็เชื่อว่าสามารถดึงความสนใจจากผู้ชมกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบเรื่องราวดิสโทเปียได้ดี

ถึงแม้แนวคิดของภาพยนตร์จะน่าสนใจ แต่การดำเนินเรื่องยังคงอิงกับสูตรสำเร็จของภาพยนตร์วัยรุ่น (Young Adult) ที่คล้ายคลึงกับหนังดิสโทเปียอื่นๆ เช่น The Hunger Games, Divergent หรือ ซีรีส์ 300 ที่กลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันเพื่อจะก่อการใหญ่บางอย่างหรือทำการเปลี่ยนแปลงระบบ ที่พวกเขาคิดว่าไม่ถูกต้อง

และด้วยความซ้ำซากจำเจนี้เองก็เลยส่งผลให้ Uglies ดูเหมือนไม่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ตัวละครที่แสดงวัยรุ่นกลับถูกแสดงโดยนักแสดงที่มีอายุเกินวัย ทำให้ความสมจริงของบทบาทตัวละครลดลง

แล้วประเด็นการเข้าเครื่องผ่าตัดเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตาให้ดูสวยงามนั้นโดยส่วนตัวแล้วก็รู้สึกว่ามันแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก สิ่งที่เปลี่ยนก็คือใส่เสื้อผ้าให้ดูดีแต่งหน้าให้ดูดีดีผมให้ดูดี ใส่คอนแทคเลนส์เปลี่ยนสีตานิดหน่อยเท่านั้นเอง

หลายคนที่ไม่ได้เข้ารับการผ่าตัด ก็หน้าตาดีมากๆดีกว่าที่ไอ้พวกผ่าตัดแล้วหลายคนด้วย ก็แค่ไม่ได้หวีผมดีไม่ได้แต่งตาดีหรือไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ดีแค่นั้นเอง จึงรู้สึกว่าแยกไม่ออกอะไรคือความขี้แหล่ อะไรคือความรูปงามหรืออะไรคือความสมบูรณ์แบบที่หนังต้องการเสนอ

ส่วนตัวผู้นำของกลุ่ม The Smoke ดูแลตัวมันจะมีความเก่งกาจอะไรเลย หนังไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขานั้นมีดีด้านไหนด้วย ต่อสู้ก็ไม่เก่ง แนวคิดและอุดมการณ์ก็งั้น ๆ แล้วก็ไม่รู้เลยว่าเขาควบคุมประชาชนของเขาได้ยังไง

นอกจากนี้หนังดำเนินเรื่องไวมาก ไว้จนรู้สึกว่าเขาคิดจะสร้างเป็นซีรีส์หรือเปล่าแต่ก็ถูกตัดให้อยู่ในรูปแบบของภาพยนตร์ เหมาะสมกับงบประมาณอะไรประมาณนั้น โดยเฉพาะนางเอกของเรื่อง หลังจากที่เดินทางเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ต่อต้านแล้ว เธอก็เรียนรู้เร็วมาก และกลุ่มสอดแนม ก็เข้ามาโจมตีเร็วมาก ทุกอย่างมันเร็วจนไม่รู้สึกว่าตัวละครได้ซึมซับ และเรียนรู้อะไรที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย

อย่างไรก็ตามก็คงรอดูภาค 2 ต่อไป เพราะเขาทิ้งให้เราคาใจไว้ในภาค 1 หลายอย่างเหลือเกิน หลายสิ่งที่วิจารณ์ด้านลบมันอาจจะดีขึ้นในภาค 2 ก็เป็นได้

#บทส่งท้าย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวดิสโทเปีย Uglies ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความงาม การควบคุมสังคม และการต่อต้าน แต่หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ลึกซึ้งและสดใหม่ อาจไม่สมหวังเพราะภาพยนตร์นี้ยังมีจุดอ่อนในด้านการเล่าเรื่องที่ซ้ำซากและจำเจ

6/10

colourtastic

6/10
อี๋ ฉันเศร้าจัง
อย่างที่หลายๆ คนบอกไว้ว่าไม่มีเวลาฉายมากพอที่จะสร้างเรื่องราวและตัวละคร ตัวละครเดียวที่พวกเขาทำได้ค่อนข้างดีคือเชย์ ไบรแอนน์แสดงได้ดีมาก

ใครก็ตามที่ออกแบบฉาก/สถาปัตยกรรม ทำได้ดีมาก แทบจะเหมือนกับที่ฉันจินตนาการไว้ในหัวมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเลย แม้กระทั่งดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

1. “พวกขี้เหร่ยังไม่ขี้เหร่พอ” น่าแปลกใจที่ฉันไม่เห็นด้วย ฉันแค่คิดว่าพวกเขาไม่ได้แสดงความสวยงามออกมาได้สุดโต่งพอ มันขาดความน่าเหลือเชื่อและความซับซ้อนของรูปลักษณ์จริงและการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ พวกขี้เหร่ควรจะดูปกติ เช่น โมเดลตามตัวอักษรในนิตยสารเก่าๆ ไม่สามารถเทียบได้กับความสวยงามในหนังสือ แม้ว่าฉันจะเห็นด้วยว่า Joey King ไม่ค่อยเหมาะกับการรับรู้ของหนังสือเกี่ยวกับ Squint แต่ฉันก็เห็นกระบวนการคิดของพวกเขา (ฉันกำลังมองพวกคุณที่เรียกเธอว่าน่าเกลียดอยู่)

2. “เราไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับส่วนอื่น ๆ ของโลก” ใช่แล้ว ผู้อ่านก็ไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นมาสักพักแล้ว และตัวละครก็เช่นกัน จริงๆ แล้ว นี่เป็นโครงเรื่องหลักในหนังสือเล่มหนึ่งในอนาคต ดังนั้นอดทนไว้

3. “พวกเขาลอยตัวบนน้ำได้อย่างไร” นี่คือจุดที่ความรวดเร็วของเรื่องราวและงบประมาณทำลายเทคโนโลยีและแง่มุมของโลกดิสโทเปีย ฉันตั้งตารอส่วนนี้มากที่สุด แต่ทุกอย่างก็ขาดความชัดเจนและมีแอ็กชั่นมากเกินไป

4. ฉันเห็นความคิดเห็นและโพสต์บนโซเชียลมีเดียค่อนข้างมากที่ระบุว่า Tally และ Shay มีเคมีที่เข้ากันได้ดีกว่าคนอื่น ๆ นี่เป็นเรื่องเดียวกันในหนังสือและเป็นแง่มุมที่สำคัญมากในขณะที่พวกเขาพัฒนามิตรภาพและความรักแบบเพลโต ฉันชอบที่พวกเขาปรับแง่มุมนี้ของตัวละคร แต่สุดท้ายกลับขาดในแง่มุมอื่น ๆ
โดยรวมแล้วฉันไม่แปลกใจเลยที่หนังเรื่องนี้จะดูเชยๆ หน่อย มันเป็นหนังแนวดิสโทเปียที่มีเนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นในช่วงกลางยุค 2000 ฉันคิดว่าถ้ามีหนังยาวกว่านี้หรือซีรีส์ที่ยาวกว่านี้ พวกเขาน่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ เพราะจะทำให้เอฟเฟกต์พิเศษดูไม่มากเกินไป และเนื้อเรื่องก็เข้มข้นและต่อเนื่องมากขึ้น โดยไม่ทำให้สับสนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหรือความหมายเบื้องหลังหนัง ด้วยโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ฉันคิดว่าการดัดแปลงหนังเรื่องนี้มีความสำคัญมากกว่าที่เคย พวกเขาแค่ขาดสาระของหนังไปเท่านั้น

ดูหนัง ออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Here After (2024)

ATLAS (2024) ล่าข้ามจักรวาล

Running on Empty (2024)

Rebel Ridge (2024) เรเบลริดจ์ ผ่าเมืองอยุติธรรม

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

My Old Ass (2024)
หนังฝรั่ง ซับไทย
หนัง

7.3

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่