The Little Mermaid (2023) เงือกน้อยผจญภัย นางเงือกสาวทำข้อตกลงกับแม่มดแห่งท้องทะเล
The Little Mermaid (2023) เงือกน้อยผจญภัย เพื่อแลกเสียงอันไพเราะของเธอกับขามนุษย์ เพื่อที่เธอจะได้ค้นพบโลกเหนือผืนน้ำและสร้างความประทับใจให้กับเจ้าชายเงือกน้อยผจญภัย เป็นภาพยนตร์แนวจินตนิมิตดนตรีของอเมริกาในปี พ.ศ. 2566 กำกับและร่วมอำนวยการสร้างโดยร็อบ มาร์แชลล์ เขียนบทภาพยนตร์โดยเดวิด มาจี ร่วมอำนวยการสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์, ลูคามาร์โพรดักชันส์ และมาร์กแพลตโพรดักชันส์ เป็นภาพยนตร์คนแสดง/ซีจีไอที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อเดียวกันของดิสนีย์ในปี พ.ศ. 2532
ซึ่งมีเนื้อเรื่องอิงมาจากเทพนิยายเรื่องเงือกน้อยโดยฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ภาพยนตร์นำแสดงโดยแฮลลี เบลีย์ในบทแอเรียล ร่วมด้วยโจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, ดาวีด ดิกส์, อควาฟินา, จาค็อบ เทร็มเบลย์, โนมา ดูเมซเวนี, ฆาบิเอร์ บาร์เดม และ เมลิสซา แม็กคาร์ธี ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงแอเรียลที่ทำข้อตกลงกับแม่มดเออร์ซูลา เพื่อแลกเสียงของเธอกับขามนุษย์เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าชายอีริคผู้ซึ่งถูกเธอช่วยไว้จากเหตุเรืออับปางแผนการนำภาพยนตร์แอนิเมชันในปี พ.ศ. 2535
เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย กลับมาสร้างใหม่รูปแบบภาพยนตร์คนแสดง ได้รับการยืนยันในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 มาร์แชลล์ได้รับการติดต่อจากดิสนีย์ให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 และนักแสดงหลักส่วนใหญ่เซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เดิมคาดว่าจะเริ่มการผลิตในลอนดอนระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในที่สุดการถ่ายทำจึงเกิดขึ้นที่ไพน์วูดสตูดิโอส์ในอังกฤษตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ลิน-มานูเอล มิรันดาร่วมเขียนเพลงใหม่สำหรับการภาพยนตร์สร้างใหม่ในฐานะผู้แต่งเนื้อร้อง อลัน เม็นเค็นกลับมาทำหน้าที่ผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์
เงือกน้อยผจญภัย ออกฉายในสหรัฐในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดย วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ และออกฉายในประเทศไทยในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 หนึ่งวันก่อนการฉายในสหรัฐ ภาพยนตร์ได้รับความชื่นชมในด้านของนักแสดงอย่าง เบลีย์, ฮาวเออร์-คิง, แม็กคาร์ธี และ อเล็กซานเดอร์ รวมถึงฉากและการเรียบเรียงเพลงประกอบ แต่วิจารณ์ถึงงานสร้างและการออกแบบตัวละคร ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จ ทำรายได้ทั่วโลก 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ช่วงวันรำลึกของสหรัฐอเมริกา และเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 7 ของปี 2023แอเรียลเป็นเจ้าหญิงเงือกและเป็นลูกสาวคนสุดท้องของกษัตริย์ไทรทัน ผู้ปกครองชาวเงือกแห่งแอตแลนติกา เธอรู้สึกทึ่งกับโลกมนุษย์แม้จะไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากไทรทันห้ามมิให้เงือกทั้งหมดขึ้นสู่ผิวน้ำหลังจากที่แม่ของเอเรียลถูกฆ่าโดยมนุษย์ แอเรียลรวบรวมวัตถุมนุษย์โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนรักของเธอ ฟลาวเดอร์ ผู้รับใช้คนสนิท และสคัทเทิล นกกาน้ำทางเหนือ
เอเรียลพลาดการประชุม พระจันทร์ปะการัง ที่เธอควรจะเข้าร่วมกับพี่สาวทั้ง 7 ของเธอ เนิ่องจากเธอไปสำรวจซากเรืออัปปาง จึงถูกไตรตันต่อว่า แอเรียลนั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นมนุษย์เพื่อได้เรียนรู้และใช้ชีวิตเหนือผิวน้ำ จนเธอได้เห็นดอกไม้ไฟเหนือมหาสมุทรและผิวน้ำ จึงว่ายโผล่พ้นน้ำเพื่อดูมันอย่างใกล้ชิด ดอกไม้ไฟนั้นมาจากเรือของอีริค เจ้าชายแห่งอาณาจักรเกาะแคริบเบียนที่อยู่บรเวณใกล้เคียง เอเรียลเข้าไปได้ยินเอริคบอกกับ นายกรัฐมนตรีกริมสบี้ คนรับใช้คนสนิทเกี่ยวกับความปรารถนาของเขาที่จะสำรวจน่านน้ำที่ไร้แผนที่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในอาณาจักรของเขาพายุโหมใส่เรือขณะเลี้ยงฉลอง แม้อีริคพยายามจะคุมเรือต้านพายุ
เรือได้กระแทกกับหิน ทำให้ทุกคนต้องสละเรือ เอริคพลาดท่าจมน้ำขณะช่วย แม็กซ์ สุนัขของเขา เอเรียลได้เข้าช่วยอีริคและพาเขาขึ้นฝั่ง ซึ่งเธอร้องเพลงด้วยเสียงไซเรนของเธอเพื่อฟื้นสติเขา เธอรีบหนีไปเมื่อคนของเจ้าชายเอริครีบเข้ามาช่วยเหลือ นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงมนุษย์ ด้วยความใฝ่ฝันได้บรรจบกับหัวใจที่โหยหาในอีริค หลังจากเอริคฟื้น ราชินีเซลีน่า แม่บุญธรรมของเขา ภรรยาของ กษัตริย์แม็กซิมิริอุส ก็สั่งห้ามไม่ให้เขาออกเรืออีก เซบาสเตียนพยายามโน้มน้าวใจให้แอเรียลเลิกคิดเรื่องเป็นมนุษย์
แต่เธอไม่สนใจเหล่าพี่สาวของเธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมเหม่อลอยของแอเรียล เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ไตรตันจึงตั้งคำถามกับเซบาสเตียน ปูที่ปรึกษาคนสนิทของเขา จนได้รู้ว่าเธอช่วยชีวิตมนุษย์คนหนึ่งไว้ ไทรทันเดินทางไปยังถ้ำของเอเรียลเพื่อเผชิญหน้ากับเธอ เมื่อเธอปฏิเสธที่จะสาบานว่าจะไม่ขึ้นไปบนผิวน้ำอีก ไตรตันจึงทำลายคอลเลคชันวัตถุมนุษย์ของเธอ หวังทำให้เธออยู่ในคำสั่ง
แต่หลังไตรตันจากไป ก็มีปลาไหลมอเรย์คู่หนึ่งเข้ามาหาแอเรียบ ซึ่งแสดงภาพแม่มดแห่งท้องทะเล เออร์ซูล่า น้องสาวที่เหินห่างของไตรตัน และน้าของเอเรียล The Little Mermaid (2023) เงือกน้อยผจญภัย ที่ถูกเนรเทศจากแอตแลนติกา เมื่อ 15 ปีก่อนเวลาเดียวที่แม่แอเรียลเสียชีวิต และเธอยื่นข้อเสนอที่จะช่วยแอเรียล โดยที่แอเรียลไม่รู้ว่า เธอถูกจับตามองมาตลอด จากเออร์ซูล่าผู้แค้นใจในตัวพี่ชายที่ได้สิทธิ์ครอบครองทุกอย่างโดยที่เธอไม่ได้อะไร ทั้งที่เธอเป็นคนยุยงให้มนุษย์และเงือกขัดแย้งกัน
แอเรียลตามปลาไหลคู่ไปที่ถ้ำของเออร์ซูล่า ซึ่งเธอเสนอข้อตกลงว่าเธอจะแปลงร่างแอเรียลให้เป็นมนุษย์เป็นเวลาสามวัน ในระหว่างนั้นเอเรียลจะต้องได้รับ “จุมพิตจากรักแท้” จากเอริคเพื่อคงความเป็นมนุษย์ไว้อย่างถาวร หากเธอล้มเหลว เธอจะเปลี่ยนกลับเป็นนางเงือกและเออร์ซูลาจะครอบครองเธอ เพื่อให้กลายเป็นมนุษย์ แอเรียลต้องยอมสละหาง ความสามารถในการหายใจใต้น้ำ และเสียงไซเรนของเธอ ซึ่งเออร์ซูลาจะเก็บไว้ในเปลือกหอยโข่ง เอเรียลยอมรับข้อตกลงและได้รับขามนุษย์
เธอถูกพาตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยมีฟลาวเดอร์และเซบาสเตียนตามมาดูแล
โดยได้รับการช่วยเหลือจากชาวประมง ผู้ซึ่งพาเธอไปยังอาณาจักรบนเกาะและปราสาทของเอริค อีริคซึ่งตามหาผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาอย่างแข็งขันโดยความไม่พอใจของราชินีเซลิน่า รีบไปพบเอเรียลเมื่อเขาได้ยินการมาถึงของเธอ เอเรียลรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบ แต่การไม่มีเสียงของเธอทำให้เอริคเบือนหน้าหนีทันที แต่ต่อมาในเย็นวันนั้น แอเรียล สำรวจปราสาทและได้พบของสะสมของเจ้าชายเอริคที่เขาสะสมจากการเดินทางล่องเรือ เอริคเข้ามาพบและทั้งคู่สามารถเข้าใจในความต้องการของตัวเอง จึงได้ใช้เวลาร่วมกันในการดูของสะสมและเดินทางสำรวจดินแดน โดยมีกริมสบี้
มองดูทั้งคู่ด้วยความสุขวันต่อมา อีริคพาเอเรียลไปทั่วอาณาจักรพาชมชีวิตผู้คนในพื้นที่ เซบาสเตียนที่ติดตามแอเรียลบนบก ได้ตระหนักว่าเออร์ซูล่าใช้คาถาหลอกลวง ทำให้แอเรียลลืมไปว่าเธอต้องจูบเอริค เซบาสเตียน, สคัทเทิล และ ฟลาวเดอร์รับหน้าที่เพื่อทำให้ทั้งคู่จูบกัน ซึ่งเกือบจะประสบความสำเร็จ แต่ถูกขัดขวางโดยปลาไหลของเออซูล่าที่ตามจับตามอง อีริคที่มั่นใจว่าตัวเองตกหลุมรักแอเรียลด้วยคำแนะนำของกริมสบี้ และตั้งใจจะสารภาพรักกับเธอ แต่ เออร์ซูลาโกรธมากที่ได้ยิน และเปลี่ยนตัวเองเป็นหญิงสาวสวยชื่อวาเนสซา
และใช้เสียงไซเรนของเอเรียลเข้าสะกดจิตเอริค เช้าวันรุ่งขึ้น แอเรียลและเพื่อน ๆ ของเธอพบว่า อีริคจะประกาศหมั้นกับ วาเนสซ่า ในตอนเย็น แอเรียลเสียใจจนหนีไปอย่างสิ้นหวัง สคัทเทิล เซบาสเตียน และฟลาวเดอร์ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของวาเนสซาและรีบไปบอกให้แอเรียลรู้
เธอรีบรีบไปงานหมั้นและเผชิญหน้ากับเออร์ซูล่า ทำลายเปลือกหอยโข่งที่คอของเธอ เสียงของแอเรียบกลับมาหาเธอและความลุ่มหลงในตัวอีริคก็พังทลายลง ท่ามกลางช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยที่จะได้จุมพิตกัน พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไป และเอเรียลก็กลายร่างเป็นนางเงือกอีกครั้ง ทุกคนตื่นตกใจ แต่อีริคกลับกอดเธอไว้แน่นและเผชิญหน้ากับเออร์ซูลาที่กลับคืนสู่ร่างเดิม ก่อนจะเล่นงานเขาและจับแอเรียลดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร
เออร์ซูลาเผชิญหน้ากับไทรทันที่รู้เรื่องและตามมาช่วยแอเรียลโดยโจมตีเธอ โดยเธอได้เผยให้เห็นว่าข้อตกลงที่เธอทำกับเอเรียลนั้นไม่มีทางแตกหักได้ ไตรตันยอมแลกตรีศูบตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตแอเรียล ปลาไหลคู่ทำลายเขาจนกลายเป็นฝุ่นผง แอเรียลแค้นใจโจมตีเออร์ซูล่า แต่พลาดท่าโดยเล่นงาน เออร์ซูล่าอ้างสิทธิ์ในตรีศูลของไทรทันและจะสังหารแอเรียล แต่อีริคนั้นได้ดำน้ำตามลงมาช่วย ในระยะประชิดเออร์ซูล่าถูกแอเรียลใช้ตรีศูลฆ่าปลาไหลของเธอที่แท้จริงเป็นคนสำคัญ เออร์ซูลาโกรธจัดใช้ตรีศูลขยายขนาดให้ใหญ่มหึมาและเรียกพายุมาคุกคามแอเรียลและอีริค แอเรียลดึงตัวเองขึ้นไปบนเรือที่โผล่ขึ้นมา
และหันหางเสือในเวลาที่เหมาะสมจนแทงเออร์ซูล่าจนจมลงใต้สมุทรเมื่อเออร์ซูล่าถูกสังหาร ไตรทันได้ฟื้นคืนชีพ เขาและแอเรียลรับรู้ถึงการเสียสละของอีกฝ่ายเพื่อกันและกัน แต่ไตรตันยืนกรานที่จะให้แอเรียลกลับไปพร้อมกับเขา อีริคสามารถกลับขึ้นมาบนฝั่ง และพยายามจะตามลงไปหาแอเรียล ซึ่งเซลิน่ายอมรับว่าความรักของเอริคและเอเรียลเป็นเรื่องจริง แต่บอกเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ อีริคยอมรับด้วยความใจสลาย
แต่ในที่สุดไตรตันสามารถยอมรับความจริงแม้ว่าแ แอเรียลจะได้กลับมาที่บ้านตามที่เขาต้องการ แต่เธอก็ไม่มีความสุขหากไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับอีริค ชายที่เธอรัก ตามคำแนะนำของเซบาสเตียน ไตรทันใช้ตรีศูลเปลี่ยนแอเรียลให้เป็นมนุษย์อย่างถาวร แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับลูกสาว แต่เขาจะคอยอยู่ดูแลเธอเสมอ แอเรียลได้พบกับเอริคอีกครั้ง ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางล่องสมุทรที่ไม่เคยไปด้วยกัน
โดยได้รับพรจากไตรตันและราชินีเซลิน่า และการสนับสนุนจากผู้คนจากโลกของพวกเขาทั้งสอง เป็นจุดเริ่มต้นของความสงบสุขและความสัมพันธ์อันเป็นตำนานความรักระหว่างมนุษย์หนุ่มและเงือกสาว“ คือเรื่องราวของแอเรียล เงือกสาวแสนสวยผู้มีชีวิตชีวาและชื่นชอบในการผจญภัย ลูกสาวคนเล็กของราชาไตรตันที่หัวรั้นไม่เป็นรองใครเพราะความหลงใหลของเธอต่อโลกเหนือมหาสมุทร
เธอจึงมักว่ายขึ้นไปเหนือผืนน้ำเพื่อสำรวจพื้นที่แถบนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้พบและตกหลุมรักกับมนุษย์นามเจ้าชายเอริค และถึงแม้ว่าจะมีกฎห้ามนางเงือกยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ แต่แอเรียลก็เลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเอง เธอทำสัญญากับแม่มดทะเลอย่างเออร์ซูล่า ทำให้เธอมีโอกาสได้ขึ้นไปใช้ชีวิตบนพื้นดินตามที่เธอต้องการมาตลอด โดยต้องแลกกับการนำชีวิตและบัลลังก์ของพ่อเธอไปเสี่ยง
นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ผ่านกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และดราม่ามาอย่างโชกโชน นับตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างออกมา สำหรับ ‘ ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น จากต้นฉบับการ์ตูนอนิเมชั่น ซึ่งโด่งดังตลอดกาลของดิสนีย์ ที่มีฐานแฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลก จนกระทั่งวันนี้ ภาพยนตร์รีเมคเรื่องนี้ก็ได้ฤกษ์เข้าฉาย สู่สายตาผู้ชมแล้ว
การเล่าเรื่องราวสำหรับเนื้อเรื่องที่ถูกเล่าเรียง ตัวหนังในเวอร์ชั่นนี้ ยังคงไว้ซึ่งเรื่องราวของความรักระหว่าง “แอเรียล” เจ้าหญิงเงือกน้อยผู้ไร้เดียงสา ซึ่งรับบทโดย ‘ฮัลลี เบลีย์ (Halle Bailey)’ และมนุษย์อย่าง “เจ้าชายอีริก” ที่รับบทโดย ‘โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง (Jonah Hauer-King)’ จนเงือกน้อยหลงไปแลกเสียงของเธอ และเปลี่ยนหางนางเงือกให้เป็นขา เพื่อตามหารักบนแผ่นดินใหญ่เหนือมหาสมุทรโดย “เออร์ซูลา”
ที่เป็นหนึ่งในวายร้ายตัวแม่ของจักรวาลดิสนีย์ในเวอร์ชั่นนี้ รับบทโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี (Melissa McCarthy) ผู้มีความแค้นต่อพ่อของแอเรียล คิงไทรทัน รับบทโดย ฮาเวียร์ บาเด็ม (Javier Bardem) โดยแม่มดหนวดปลาหมึกตั้งเงื่อนไข ให้เงือกน้อยต้องได้รับจุมพิตรักแท้ภายใน 3 วันจากเจ้าชายอีริก คือหนทางเดียวที่แอเรียล จะเป็นมนุษย์ และสมหวังในความรักดั่งที่เธอตั้งใจ
โดยรวมตัวภาพยนตร์เวอร์ชั่นรีเมคนี้ มีการเพิ่มเติมตัวละครใหม่ๆ ซึ่งอาจมองดูไม่จำเป็นนัก ในความคิดเห็นของผู้ชมบางส่วน ทั้งนี้ยังมีการตัดตัวละคร และบางประเด็นออกไปด้วยเช่นกัน แต่เราจะยังคงได้ฟังทั้งเพลงดังที่นับว่าเป็นไอคอนนิคของอาทิ เพลง “Under the sea” และ “Kiss the girl”
จากสองตัวละครสายฮาอย่าง “เซบาสเตียน” อำมาตย์ปูแดง และ “สกัทเทิล” นกนางนวล ที่มีการเรียบเรียงทำนองใหม่ ควบคุมการบรรเลงโดย อลัน เมนเคน (Alan Menken) ผู้ที่เคยทำดนตรีให้กับอนิเมชันต้นฉบับ และได้ ลิน มานูเอล มิแรนดา (Lin Manuel Miranda) มาแต่งเนื้อร้องให้โดยยังคงไว้ ซึ่งกลิ่นอายเดิมแบบฟังแล้วไม่ช็อตฟีล
เมื่อพูดถึงนักแสดง ที่เป็นอีกหนึ่งดราม่ามีกระแสตีกลับ เรื่องสีผิวของนักแสดงที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับตั้งแต่เปิดตัว อย่าง ฮัลลี เบลีย์ นักร้องสาวเจ้าของเสียงไพเราะอันทรงพลังชาวอเมริกัน ผู้มารับบทเป็นตัวละครเอกอย่าง เงือกน้อยแอเรียล ซึ่งถือเป็นสุดยอดตัวละครไอคอนนิคของดิสนีย์ เข้าถึงบทด้วยทักษะการแสดง และการร้องเพลงแบบมิวสิคัลที่ยอดเยี่ยม หากลืมเรื่องดราม่าก่อนหน้านี้ไป ในส่วนของการถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร และการนำเสนอเรื่องราวผ่านน้ำเสียงอันไพเราะในบทเพลงประจำชาติของเหล่าสาวกแอเรียล
อย่างเพลง “Part of Your World” ก็ทำได้ดีอย่างมาก ไม่แพ้ต้นฉบับเลย รวมถึงนักแสดงทุกคนที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ดี และสามารถร้องเพลงได้ไร้ที่ติส่วนของภาพในหนังฉบับนี้ ถูกทำออกมาให้มีความสมจริงมากขึ้น ด้วยการใช้โทนสีใต้ทะเลแบบกึ่งเสมือนจริง ที่มีความหม่นกว่า เมื่อเทียบกับอนิเมชั่นต้นฉบับที่มีสีสันสดใส ฉูดฉาดกว่า แต่ทว่ายังคงสร้างบรรยากาศให้กับเรื่องราวได้อย่างไม่ขัดหูขัดตา เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่มีความน่าสนใจ ดูเพลินแบบไม่ต้องคิดมาก และมีจุดเด่นของตัวเอง
โดยเฉพาะเรื่องเพลงที่ถูกเรียบเรียงใหม่ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างไม่จำเจ แม้มีบางจุดที่แตกต่างจากต้นฉบับเดิม ด้วยเงื่อนไขของการเป็นหนังที่ใช้คนจริงแสดงเป็นหลัก ทั้งนี้นักแสดงหลักอย่าง ฮัลลี่ ที่ค้านสายตาใครหลายคนด้วยรูปลักษณ์ของเธอซึ่งแตกต่างจากความคาดหวังและแอเรียลในภาพจำของหลายๆ คน ทว่าเธอก็สามารถเป็นแอเรียลในเวอร์ชั่นของตัวเอง ที่แตกต่างจากต้นฉบับเดิมได้ครบเครื่อง ทั้งเรื่องการแสดง
และเสียงร้องทรงพลัง อย่างไรก็ดี เวอร์ชั่นนี้ จะดีงามแค่ไหน ทุกคนสามารถไปพิสูจน์ได้แล้ว ตั้งแต่ 25 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ณ โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเป็นเรื่องราวความรักสุดคลาสสิคของ “แอเรียล” นางเงือกสาวผู้งดงามและเปี่ยมไปด้วยสปิริตการผจญภัย ลูกสาวคนเล็กตัวแสบของ King Triton
การค้นหาความจริงเกี่ยวกับโลกเหนือสมุทรของแอเรียล และเมื่อไปเยือนยังโลกมนุษย์ก็ได้ตกหลุมรักกับเจ้าชายอีริคผู้ห้าวหาญ อย่างไรก็ตามกฎของโลกใต้สมุทรได้ห้ามนางเงือกมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ แอเรียลที่ต้องการทำตามเสียงหัวใจของเธอ จึงได้ร่วมมือกับเออร์ซูล่า มารร้ายแห่งท้องทะเล ที่จะทำให้เธอได้สัมผัสชีวิตบนบก แต่ท้ายที่สุดก็ทำให้ชีวิตของเธอและมงกุฎของพ่อตกอยู่ในอันตราย
เป็นเรื่องราวของ แอเรียล ธิดาของราชาไทรตันแห่งโลกใต้สมุทร ชีวิตของเธอต้องอยู่ใต้คำบัญชาจากพ่อ แม้ว่าเธอฝันใฝ่อยากจะเป็นมนุษย์เดินดินและตกหลุมรักเจ้าชายอีริค กระทั่งยอมแลกเสียงของเธอเพื่อรับมนตร์ให้กลายร่างเป็นมนุษย์ 3 วัน และทำภารกิจเพื่อให้เจ้าชายจุมพิตรักแท้กับเธอให้ได้ แต่มันก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดที่สะเทือนใจยิ่งกว่าจะการหลั่งน้ำตา
โดยในหนังฉบับนี้ก็ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์และตัวพ่อหนังมิวสิคัล อย่าง “ร็อบ มาร์แชล” มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้าง ที่ถือว่าเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับความเป็นแฟนตาซีและมิวสิคัลได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่ายังมีอีกหลายองค์ประกอบที่หนังเรื่องนี้ยังทำได้ขาด ๆ เกิน ๆ และมอบรสชาติออกมาที่ยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควรนัก แต่มันก็ไม่ใช่หนังที่ย่ำแย่อะไรเลยเช่นกันตามที่เกริ่นไปข้างต้นนั้นว่า
ที่กลายมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นนั้น ความท้าทายอยู่ที่งานโปรดักชั่นโดยแท้
เพราะการออกแบบโลกใต้ท้องสมุทรที่ถือว่าเป็นฉากไฮไลต์หลัก ๆ แทบจะมากกว่า 60% ของเรื่องนี้เป็นงานที่ยากไม่น้อย ไมว่าจะเป็นรายละเอียดการเคลือนไหวของตัวละคร ไปจนถึงการเข้าฉากใต้น้ำกับตัวละครแอนิเมชั่น ทุก ๆ ซีนมีความยากในระดับที่แตกต่างกันออกไป แต่หนังก็ถือว่าพยายามเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เอาไว้ได้ดีที่สุด ถึงมันจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบและคมกริบอะไรขนาดนั้น
ต้องยอมรับว่าโลกใต้สมุทรในหนัง เวอร์ชั่นนี้ The Little Mermaid (2023) เงือกน้อยผจญภัย ปนเปไปด้วยความสมจริงและความประหลาดควบคู่กันไปอย่างน่าพิศวง หลาย ๆ ฉากสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดี แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ฉากที่รู้สึกว่าซ้ำซากจำเจ และเข้าสู่สูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่เราเคยเห็นองค์ประกอบอะไรแบบนี้ในหนังดิสนีย์เรื่องก่อน ๆ มาแล้ว อีกทั้งรายละเอียดที่ใส่เข้ามาประกอบตัวละครต่าง ๆ ก็ยังดูไม่ค่อยสมจริงที่สุด
เป็นการใส่ซีจีที่เหมือนทำให้รู้ว่าเป็นซีจี ยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ขัดใจแต่ก็แบบตะหงิดใจได้อยู่เล็กน้อยขณะที่งานดีไซน์ฉากต่าง ๆ บนโลกเหนือท้องน้ำนั้น ก็เต็มไปด้วยองค์ประกอบซ้ำเดิมจากที่เราพบเจอในหนังไลฟ์แอคชั่นของดิสนีย์มาก่อนเช่นกัน แทบจะไม่มีอะไรใหม่ แต่แอบยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า เวอร์ชั่นนี้กลับกลายเป็นว่าเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ บนบกนั้น กลับดูได้สนุกสนานมากกว่าสตอรี่ใต้ท้องสมุทรเสียอีก
แม้ว่า จะรักษาและเคารพต้นฉบับในส่วนของโครงเรื่องมาแทบจะเป๊ะ ๆ เลย แต่เมื่อนำมาเล่าเรื่องในรูปแบบคนแสดงแล้วนั้น มันกลับดูเป็นเทพนิยายที่ฟุ้งเฟ้อเกินตัวไปสักนิด อาจจะเพราะจริตความเป็นเจ้าหญิง ความเพ้อฝันในการหลงรักเจ้าชาย สูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่ทั้งเชยและทั้งล้าสมัยไปแล้ว ยังถูกใส่เข้ามาในเรื่องนี้เพียงแค่ต้องการรักษาอรรถรสของต้นฉบับ ที่น่าเสียดายไปหน่อย เพราะบางครั้งมันก็ไม่ได้เวิร์กกับหนังเท่าไหร่มาถึงด้านทีมนักแสดงกันบ้าง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ฮัลลี เบลีย์” ถ่ายทอดบทบาทของเธอออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ เก็บรายละเอียดและโปรยอินเนอร์ความเป็นแอเรียลออกมาใช้ได้
ท่ามกลางแรงกดดันไม่น้อย เพราะเธอก็เป็นคนที่ถูกกระแสสังคมต่อต้านและสบประมาทมาตั้งแต่เริ่มต้น แต่ก็ยังแอบเสียดายไม่น้อย เพราะในท้ายที่สุดก็เป็นเพียงบทเจ้าหญิงเชย ๆ ที่ใสซื่อล้าสมัยเกินไป ทำให้การเติมเสน่ห์ให้กับตัวละครนี้ยังดูขาดหายไปอย่างที่ควรจะเป็นทางด้านนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ถือว่าหนังแทบไม่ได้ทำให้โดดเด่นอะไร ทุกบทบาทดูจะเท่าเทียมตามคอนเซ็ปตที่หนังอยากจะสื่อออกมา ไม่ว่าจะเป็น
“โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, “ฆาบิเอร์ บาร์เดม” หรือ “โนมา ดูเมซเวนี” บทของพวกเขาช่างดูไร้มิติและแห้งแล้งไปสักหน่อย เผลอ ๆ บางทีกลายเป็นตลกเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องยกนิ้วให้กับ “เมลิสซา แม็กคาร์ธี” อินเนอร์ดีใช้ได้ แม้บทที่ส่งมาให้จะค่อนข้างผิวเผินไปนิดและกลับกลายเป็นว่าตัวละครแอนิเมชั่นประกอบในหนัง
กลายเป็น MVP ของหนังเรื่องนี้ ถึงจะมีเสียงวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับความประหลาด ๆ ของน้องที่ดูสมจริงเกินไป แต่ต้องยอมรับว่า เซบาสเตีนน, ฟลอนเดอร์ และ สกูทเทล เป็นคาแรกเตอร์ที่มาทำหน้าที่นางแบกให้กับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เป็นตัวสร้างสีสันและอรรถรสได้ดีที่สุด คงต้องขอบคุณทีมพากย์ดารา “เดวีด ดิกส์”, “เจคอบ เทรมเบลย์” และ “อควาฟิน่า” เป็นดรีมทีมที่ดี
แน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้เลยคือองค์ประกอบความเป็นมิวสิคัล เวอร์ชั่นนี้ก็หยิบเอาเพลงดัง ๆ จากต้นฉบับคัฟเวอร์ใหม่กับมิติใหม่ ๆ ที่ไพเราะและอลังการขึ้น แต่ยังแอบเสียดายอยู่เล็กน้อย เพราะกลายเป็นว่าบทเพลงต่าง ๆ ยังไม่ค่อยทรงพลังมากนัก นอกจากเพลง “Part of Your World” ที่ยังกังวานเสนาะหูคนดูอย่างไม่เสื่อมคลาย และอีกเพลงที่ถือว่าเซอร์ไพรส์เบา ๆ ก็คือ “Kiss the Girl”
ที่น่าจะเป็นซีนที่โดดเด่นที่สุดทั้งหมดของเรื่องนี้แล้วเอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วฉบับคนแสดงของดิสนีย์ในปี 2023 อาจจะยังมีผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหวังสักเท่าไหร่ แต่หนังก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด หลายองค์ประกอบยังไมได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่น่าพอใจและสร้างความบันเทิงอิ่มเอมใจให้คนแฟน ๆ ได้ดี
แม้ว่าการเคารพต้นฉบับจะทำให้โครงเรื่องค่อนข้างล้าสมัยไปหน่อย นั่นเป็นจุดที่ทำให้เงือกน้อยผู้นี้จุดแข็งของ ถือเป็นงานหนังระดับ Masterpiece ผู้ชมจะได้ดูฉาก CG ใต้ทะเลสวย ๆ ไปพร้อม ๆ กับฟังเพลงสุดไพเราะ จะเรียกว่า เป็นการระดมพลผู้อยู่เบื้องหลังแบบครบเครื่องก็ว่าได้
เพราะใช้ทีมงานระดับรางวัลออสการ์ ตั้งแต่ Dion Beebee ผู้กำกับภาพ, Colleen Atwood ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย, John Myhre ผู้ออกแบบงานสร้าง แถมเรื่องนี้ยังได้ ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบชื่อดังอย่าง Alan Menken ทำงานร่วมกับ Lin Manuel Miranda ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบของวอลต์ ดิสนีย์ มากมาย มาเรียบเรียงบทเพลงของ Howard Ashman
ผู้ประพันธ์เพลงต้นฉบับที่ล่วงลับไปแล้ว ขึ้นมาใหม่ โดยจะมีเพลงใหม่อีก 3 เพลงในเรื่องนี้อีกด้วยจุดอ่อนของ แม้บทตัวละครนางเอกเจ้าหญิงเงือกจะตกเป็นของ “แฮลลี เบลีย์” ซึ่งถือว่าสอบผ่านการแสดงและการร้องได้อย่างไร้ข้อกังขา แต่สำหรับเสียงสะท้อนจากนักวิจารณ์และผู้ชมนั้น
ส่วนใหญ่กลับค้านสายตาสุด ๆ แม้ทางค่ายหนังอ้างว่า ต้องการคาแรกเตอร์นักแสดงให้มีความสมจริงที่สุด แต่กลับไม่ได้สนใจว่า ในอนิเมชั่นนั้น คาแรกเตอร์ของเจ้าหญิงเงือกนั้น มีความแตกต่างกับน้อง “แฮลลี เบลีย์” ในหลายสิ่งอย่าง
ท้ายที่สุด แฟนหนังเสียงแตก วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด มีทั้งที่ชื่นชอบและไม่ชอบ ซึ่งหากออกมาพิจารณาในมุมกว้าง เรื่องขัดแย้งทางความคิดลักษณะนี้ คงไม่เป็นผลดีกับตัวหนังอย่างแน่นอน แม้จะเปิดตัวด้วยรายได้หลายล้านในประเทศไทย แต่สำหรับตลาดหนังที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างประเทศ “จีน” กลับทำรายได้น้อยมาก ๆ ยังโชคดีที่ตลาดหลักใน “อเมริกา” กระแสตอบรับดีจนคืนทุนการสร้างหนังกว่า 200 ล้านเหรียญไปแล้ว
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ เรื่อง The Little Mermaid (2023) เงือกน้อยผจญภัย เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี Movie hdfree หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
6.3