Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021) ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์
เรื่องย่อ
Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021) เรื่องราวของชาง-ชี (หลิว) ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนตัว เพื่อหนีจากอดีตของตัวเองในฐานะทายาทของเหวินหวู่ (เหลียงเฉาเหว่ย) ผู้นำองค์กรเท็นริงส์ เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเหวินหวู่ส่งเหล่ามือสังหารมาตามล่าเขา ชาง-ชีจึงต้องร่วมมือกับเคธี่ (อคววาฟีนา) เพื่อนสมัยเด็กของเขา เพื่อหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของเหวินหวู่
เมื่อพันปีที่แล้ว Xu Wenwu ค้นพบวงแหวนลึกลับทั้งสิบวงซึ่งมอบพลังแห่งเทพเจ้ารวมถึงความเป็นอมตะ เขาสถาปนาองค์กรสิบวง พิชิตอาณาจักรและโค่นล้มรัฐบาลตลอดประวัติศาสตร์ ในปี 1996 เหวินหวู่ค้นหา Ta Lo ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่กล่าวกันว่าเป็นที่อยู่ของสัตว์ในตำนาน
เขาเดินทางผ่านป่ามหัศจรรย์ไปยังทางเข้าหมู่บ้าน แต่ Ying Li ผู้พิทักษ์ก็หยุดไว้ ในไม่ช้าทั้งสองก็ตกหลุมรักกัน แต่ชาวบ้านตะโละปฏิเสธเหวินหวู่ ดังนั้นหลี่จึงเลือกที่จะจากไปกับเขา พวกเขาแต่งงานและมีลูกสองคนคือชางฉีและเซียหลิง เหวินหวู่ละทิ้งองค์กรของเขาและล็อกวงแหวนทั้งสิบไว้
เมื่อชางฉีอายุได้เจ็ดขวบ หลี่ถูกสังหารโดยแก๊งเหล็กศัตรูของเหวินหวู่ เหวินหวู่สวมแหวนอีกครั้ง สังหารหมู่แก๊งเหล็ก และกลับมาเป็นผู้นำขององค์กรของเขาอีกครั้ง Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021) ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ เขาทำให้ Shang-Chi เข้ารับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างโหดร้าย แต่ไม่อนุญาตให้ Xialing ฝึกฝน
ทำให้เธอต้องแอบสอนตัวเอง เมื่อซ่างฉีอายุ 14 ปี เหวินหวู่ส่งเขาไปลอบสังหารหัวหน้าแก๊งเหล็ก หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ซางชี่ผู้บอบช้ำทางจิตใจก็หนีไปซานฟรานซิสโกและใช้ชื่อว่า “ชอน”ในปัจจุบัน Shang-Chi ทำงานเป็นพนักงานจอดรถกับ Katy
เพื่อนสนิทของเขา พวกเขาถูกโจมตีบนรถบัสโดยองค์กร Ten Rings ซึ่งขโมยจี้ที่ Li มอบให้ Shang-Chi ซางฉีเดินทางไปมาเก๊าเพื่อตามหาเซียหลิง โดยกลัวว่าสิบวงจะตามล่าจี้ที่เข้าคู่กันของเธอ เขาเปิดเผยอดีตของเขาให้เคทีที่ยืนกรานจะช่วยเหลือเขา พวกเขาพบ Xialing ที่ชมรมต่อสู้ลับซึ่งเธอก่อตั้งขึ้นหลังจากหนีจากเหวินหวู่เมื่ออายุ 16 ปี วงแหวนทั้งสิบโจมตีชมรมต่อสู้และเหวินหวู่มาถึงเพื่อจับ Shang-Chi, Katy, Xialing และจี้ของเธอ
ที่บริเวณบ้านสิบวง เหวินหวู่ใช้จี้เพื่อเปิดเผยแผนที่ลึกลับที่นำไปสู่ทาโล เหวินหวู่อธิบายว่าเขาได้ยินหลี่โทรมาและเชื่อว่าเธอถูกจับเป็นเชลยที่ตะโละหลังประตูที่ปิดสนิท เขาวางแผนที่จะทำลายหมู่บ้านเว้นแต่พวกเขาจะปล่อยเธอ เมื่อลูกๆ ของเขาและเคทีคัดค้าน เขาก็จำคุกพวกเขา พวกเขาได้พบกับอดีตนักแสดง Trevor Slattery ซึ่งกลุ่ม Ten Rings ถูกจำคุกในข้อหาแอบอ้างเป็น Wenwu
และเพื่อนร่วมทางของเขาอย่าง Morris พวกเขาหลบหนีและมอร์ริสนำทางพวกเขา ไปยังทาโลซึ่งมีอยู่ในมิติที่แยกจากกันพร้อมกับสัตว์ในตำนานจีนต่างๆกลุ่มนี้ได้พบกับ Ying Nan น้องสาวของ Li ซึ่งอธิบายประวัติศาสตร์ของ Ta Lo เมื่อหลายพันปีก่อน จักรวาลของหมู่บ้านถูกโจมตีโดยผู้อาศัยในความมืดผู้กลืนกินวิญญาณและผู้เสพวิญญาณของมัน
แต่ได้รับการช่วยเหลือโดยมังกรจีนที่เรียกว่ามหาราช Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021) ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ ผู้พิทักษ์ที่ช่วยผนึกประตูความมืดให้กับโลกของผู้อาศัย ตามที่แนนบอก ผู้อาศัยในความมืดได้แอบอ้างเป็นหลี่ ดังนั้นเหวินหวู่จะใช้วงแหวนทั้งสิบวงเพื่อเปิดประตู Shang-Chi, Xialing, Katy, Slattery และ Morris เข้าร่วมกับชาวบ้านในการฝึกฝนและเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของ Wenwu โดยใช้เสื้อผ้าและอาวุธที่สร้างจากเกล็ดมังกรซึ่งใช้ได้ผลกับผู้เสพวิญญาณ
เหวินหวู่และสิบวงมาถึงและโจมตี เหวินหวู่เอาชนะชางจือ ผลักเขาลงไปในทะเลสาบใกล้ ๆ และโจมตีประตูด้วยวงแหวน สิ่งนี้ทำให้ผู้กินวิญญาณของ Dweller บางคนสามารถหลบหนีได้ โดยที่ Ten Rings เป็นพันธมิตรกับชาวบ้านเพื่อต่อสู้กับพวกมันอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ฟื้นคืนชีพชางฉีและอุ้มเขาขึ้นจากทะเลสาบเพื่อต่อสู้กับผู้เสพวิญญาณ เหวินหวู่และซ่างฉีต่อสู้กันอีกครั้ง และซ่างฉีได้เปรียบกว่าแต่ก็เลือกที่จะไว้ชีวิตเหวินหวู่ ผู้อาศัยในความมืดหลบหนีจากประตูที่อ่อนแอลงและโจมตีชางจิ
Wenwu ช่วย Shang-Chi แต่ถูก Dweller-in-Darkness สังหาร; เขามอบแหวนให้กับชางจิก่อนที่เขาจะเสียชีวิต Shang-Chi ผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ Xialing และ Katy สังหารผู้อาศัยอยู่ในความมืด หลังจากนั้น Shang-Chi และ Katy กลับไปที่ซานฟรานซิสโก โดยที่หมอผี Wong เรียกพวกเขาไปที่ Kamar-Taj
ในฉากกลางเครดิต Wong แนะนำ Shang-Chi และ Katy ให้รู้จักกับ Bruce Banner และ Carol Danvers และทั้งกลุ่มก็พูดคุยถึงต้นกำเนิดของวงแหวน พวกเขาค้นพบว่าวงแหวนกำลังทำหน้าที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงบางสิ่งบางอย่าง ในฉากหลังเครดิต Xialing กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของ
ผู้กำกับ
เดสติน แดเนียล เครตตัน
บริษัท ค่ายหนัง
มาร์เวลสตูดิโอส์
นักแสดง
- ซือมู่ หลิว
- อควาฟินา
- เหมิงเอ่อร์ จาง
- ฟาลา เฉิน
- ฟลอเรียน มุนเตอานู
- เบเนดิกต์ หว่อง
- มิเชล โหย่ว
- เบน คิงสลีย์
- โทนี เหลียง
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Heroes Talk
[รีวิวสั้นๆ] Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings โดย #redtotoro
“ถ้าตัดบทชางชิออกก็คือหนังรักแล้วแหล่ะ”
เอาแบบโดยรวมเลยคือรู้สึกสนุกและเอ็นจอยกับตัวหนังระดับนึงเลย(สนุกกว่า black widow และ Ant-man2) … แต่ส่วนตัวมองว่าชางชินี้มันไม่ใช่หนังฮีโร่เลย มันคือหนังครอบครัวมีปัญหาการไม่เข้าใจกันจนทำให้ลูกต้องไปสู้กับพ่อตัวเองไปสะสางปัญหาครอบครัว ซึ่งมันกลายเป็นจุดยืนจุดแข็งของหนังมันที่เราโอเคกับมันและชอบมากๆเลย แต่ถ้ามองในแง่ชื่อภาคที่ว่า Legend of the ten rings คือสอบตกแบบสุดๆ ไม่ค่อยอยากอธิบายเพิ่มเดี๋ยวจะสปอย
อีกอย่างที่อยากพูดถึงคือพวก Martial Art ผมว่ามันควรซัดกันได้มันส์มากกว่านี้อะ อันนี้เหมือนแบบยังกั๊กๆไงไม่รู้ รู้สึกว่าหนังที่ใช้ศิลปะการต่อสู้เรื่องอื่นทำได้มันส์กว่า ค่อนข้างเสียดาย แต่ก็ชอบที่เขาออกพวกท่วงท่าการใช้ได้สวยมากๆ อันนี้ชอบเลย
ความสุขเล็กๆน้อยๆของชายวัยกลางคน
รีวิวภาพยนตร์ Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (2021) เมื่อมาร์เวลผสมเรื่องซุปเปอร์ฮีโร่เข้ากับหนังกำลังภายใน (คะแนน 8 / 10)
หลังจากทำหนังมากว่า 20 เรื่อง มาร์เวลก็พยายามสร้างหนทางใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ทั้งในรูปแบบของการหยิบเอาตัวละครที่คนดูไม่เคยรู้จักมาก่อนมาทำเป็นหนัง และสร้างโลกที่มีความสดใหม่แตกต่างจากที่เคยเห็นมาในหนังเรื่องอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการทดลองตลาดและวางเดิมครั้งสำคัญ ผลที่ได้ก็คืองานอย่าง Black Panther และล่าสุด Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings ด้วยเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอเชีย จึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะกำกับโดยผู้กำกับอเมริกันที่มีเชื้อสายเอเชียอย่างดัสติน แดเนี่ยล เคร็ตตัน ผู้เคยผ่านการทำหนังทั้งสเกลเล็กและปานกลาง และมีผู้ร่วมเขียนบทที่มีเชื้อสายเอเชียเช่นกันอย่างเดวิด คาลาแฮม รวมถึงทีมงานหลังกล้องอื่น ๆ ซึ่งความใส่ใจและความเข้าใจในวัฒนธรรมของคนเอเชียของเคร็ตตันและทีมงาน ก็กลายเป็นเครื่องมือหลักในการทำให้หนังเรื่องนี้มีอะไรกว่าแค่การก็อปและแปะวาง แบบที่คนชอบคิดว่าหนังมาร์เวลหลายเรื่องเป็นกัน
เคร็ตตันได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้าง Shang-Chi ว่าได้รับอิทธิพลมาจากหนังฮ่องกงยุค 80-90 ทั้งหนังของเฉินหลงและหนังกำลังภายในจากยุคนั้น เรื่อยมาจนถึงงานในยุคใหม่ ๆ อย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon และอิทธิพลดังกล่าวก็สะท้อนออกมาในหนังได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่คิวบู๊รวมถึงการสร้างตัวละคร หนังยังมีนักแสดงหลายคนที่สร้างชื่อจากหนังในยุคนั้น โดยเฉพาะเหลียงเฉาเหว่ยที่ก้าวเข้ามารับบทตัวร้ายในหนังฮอลลีวูดเป็นครั้งแรก
ชางชี (หลิวซีมู) ใช้ชีวิตในฐานะพนักงานรับรถในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีเพื่อนสนิทอย่างเคธี (อะควาฟีน่า) คอยไปไหนไปกัน แต่ชีวิตที่สงบสุขต้องเปลี่ยนไป เมื่ออดีตที่ชางชีพยายามหนีก็ตามเขามาทัน เหว่นหวู่ พ่อของเขา (เหลียงเฉาเหว่ย) ต้องการให้เขากับไปสืบทอดอาณาจักรองค์กรลับ “แหวนทั้งสิบ” แต่นอกจากการสืบทอดกิจการ เหว่นหวู่ยังต้องการบางสิ่งบางอย่างจากชางชี และน้องสาวของเขา (จางเมิ่งเอ๋อ) ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดหายนะอันร้ายแรง
แม้จะเล่าเรื่องตามสูตรกำเนิดซุปเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวล แต่การพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว โดยเฉพาะระหว่างพ่อกับลูกชาย ก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่าที่หลายคนน่าจะคาดคิด และหลิวซีมู่ที่ต้องมารับบทนำก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ทั้งการถ่ายทอดอารมณ์ดราม่า หรือด้านที่ดูเป็นคนธรรมดาไม่ได้ติดหล่อเมื่ออยู่กับเพื่อน ไปจนถึงการแสดงฉากแอ็คชั่นที่มีคิวบู๊ที่ซับซ้อน และอาศัยการฝึกซ้อมและวางแผนพอสมควร ส่วนเหลียงเฉาเหว่ยนั้นเรื่องการแสดงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขาอยู่แล้ว รวมไปถึงฉากต่อสู้ที่แม้ว่าเขาจะมีวัยเข้า 60 แล้วแต่ก็ยังแสดงออกมาได้อย่างดูดีและเข้มแข็งทีเดียว ส่วนนักแสดงสมทบตั้งแต่อะควาฟิน่าที่เป็นทั้งตัวปล่อยมุกและตัวแทนของคนดูในการเข้าสู่โลกของชางชี ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี
ส่วนมิเชล โหย่วที่แม้จะมีบทอยู่ในครึ่งหลังของหนัง แต่ก็ถ่ายทอดความเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมสู้หากจำเป็นของตัวละครที่เธอรับบทได้เป็นอย่างดี จางเมิ่งเอ๋อและฟาลา เฉินที่รับบทน้องสาวและแม่ของชางชีก็ได้มีช่วงเวลาที่สำคัญเป็นของตัวเอง และสำหรับคอหนังฮ่องกง การได้เห็นดารารุ่นเก่าอย่างหยวนหัวอยู่ในหนังด้วยถือเป็นของแถมที่ดีทีเดียว
การออกแบบงานสร้างของหนัง สามารถถ่ายทอดความเป็นจีนออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่รู้สึกเป็นลิเกเหมือนที่หนังฮอลลีวูดบางเรื่องทำให้เป็น งานภาพ การตัดต่อ และดนตรีประกอบล้วนออกมาเข้ากับหนังได้ดีเช่นกัน
Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings สามารถยืนอยู่ร่วมกับหนังมาร์เวลระดับแถวหน้าเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างไม่ต้องอาย และเช่นเดียวกับหนังมาร์เวลโดยทั่วไป หนังมีฉากแถมหลังเอนท์เครดิต 2 ฉากที่จะเชื่อมกับจักรวาลโดยรวม และบอกใบ้ถึงสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ซึ่งหลายคนอาจจะเริ่มไม่ชอบเพราะมันเหมือนกับไปลดทอนความเป็นตัวของตัวเองของหนังเรื่องนี้ไป แต่สำหรับบางคน ก็อาจจะกระตุ้นความอยากดูการเดินทางของชางชีที่จะเกิดขึ้นต่อจากหนังเรื่องนี้
นักเลงโรงหนัง
.. รีวิว Shang-Chi 9/10 คะแนน .. อยากจะดูซ้ำอีกซักสิบบรอบ เป็นหนัง MARVEL ที่สนุกแบบสนุกชิบหาย
..ใครคิดถึงอะไรที่มันเป็น MARVEL แบบจัดๆ แนะนำว่าอย่าพลาดเรื่องนี้ มันคือหนังที่ทำให้ความรู้สึกเดิมๆที่เราเคยใจเต้นรัวเมื่อหนังจบ และนั่งรอดู END CREDIT แบบที่นานแค่ไหนก็รอได้ มันกลับมาอีกครั้ง หนังสนุกแบบสนุกมากจริงๆ ..
..เป็นหนังที่เปิดตัวซุปเปอร์ฮีโร่คนใหม่ได้ไฉไลเป็นบ้าเลย เอาความเอเชียมาเล่าในแบบฉบับของ MARVEL ได้ดีเกินคาด ก่อนเข้าไปดูแอบคิดว่า หนังมันจะสู้กันแบบ ย่อ ชิด ยก จ้วง แทง แบบกังฟู หนังกำลังภายในแบบหนังฮ่องกงที่เราคุ้นเคยกันทั้งเรื่องเลยรึเปล่า พอได้ดูจริงๆก็ต้องยอมรับว่า มันสู้กันแบบนั้นทั้งเรื่องนั่นแหละ แต่มันเป็นอะไรที่โคตรทันสมัยและรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์มากๆ หนังนำเอาความเป็นหนังเอเชียและมุขหนังจีนต่างๆมาเล่นได้หมดจดมากๆ ใครที่รู้สึกผิดหวังกับนาตาชา อาทิตย์ก่อน มาดูเรื่องนี้ได้เลยแล้วคุณจะใจเต้นรัวๆแน่นอน…
.. นักแสดงในเรื่องส่วนตัวยกให้ เหลียงเฉาเหว่ยคือที่สุดของที่สุดในเรื่องนี้ ออกมาแต่ละฉากนี่ในหัวกูมีแต่คำว่า ทำไมพี่เท่จังวะครับ พี่หยุดเท่หน่อยได้มั๊ยครับ พี่ช่วยควักบุหรี่ออกมาจุดสูบแล้วทำควันลอยๆเหมือนใน in the mood for love ได้มั๊ยครับ คือแบบตามพี่แกมาหลายเรื่องนะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าได้มีโอกาสดูพี่แกแบบเต็มๆในโรงเรื่องล่าสุดคือเรื่องไหน พี่เหลียงแกมาเรื่องนี้คือเอาจัดๆ เชื่อว่าคนที่ได้ดูเรื่องนี้มันจะเป็นตัวละครที่หลายคนต้องหลงรักและเทใจให้แน่นอน
…เรื่องนี้ดำเนินเรื่องต่อจากเหตุการณ์ ธานอสดีดนิ้ว ในเรื่องเราจะเห็นสัญลักษณ์อะไรหลายๆอย่างกล่าวถึงเหตุการณ์นั้นด้วย แถม Shang-Chi ยังมีตัวละครลับที่ใครหลายคนอาจรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะมาจึงรู้สึกเซอไพรส์มากๆ คือช่วงก่อนหน้าที่หนังจะเข้าฉาย อะไรที่เป็นสปอยล์ หรือแม้กระทั่งพรีวิวผมแทบไม่เข้าไปดูหรืออ่านเลย กลัวใจตัวเองจะรู้มากแล้วคาดคะเนว่าใครซักคนจะมาปรากฏตัว เลยตัดปัญหาไม่พยายามหาข้อมูลไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยดีสุด เวลาเจออะไรเซอไพรส์นี่จะได้นั่งยิ้มกริ่มแบบสุขกายสบายใจ 55555 ( แต่เอาจริงๆก็อดคิดไม่ได้และก็เดาถูกจริงๆว่าพี่แกต้องมาแน่ๆ ซึ่งก็มาจริงๆ 555555 )
.. แอคชั่นและความแฟนตาซีในเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าหนังทำตัวอย่างมาแกงคนดูมากๆ คือตัวอย่างนี่บอกตามตรงว่าไม่ได้น่าดึงดูดใจให้เข้าไปดูเลย แต่พอได้ดูหนังจริงๆนี่โอ้วโหว พี่เล่นใหญ่มากๆ ใครเป็นสายหนังแฟนตาซีแบบจัดๆ นี่น่าจะถูกใจแน่นอนโดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องนี่ จัดหนักจัดเต็มอย่างกับดู Avatar ฉากต่อสู้ในเรื่องอย่างที่บอกไปว่าหนังนำเอาการต่อสู้แบบหนังจีนมาโชว์สกิลได้ยอดและเยี่ยมมากๆ คือมันไม่ได้รู้สึกว่ามันเชยหรือตลกเลย การได้มาดูหนังเรื่องนี้กลับยิ่งทำให้เราหวนไปคิดถึงพวกหนังฮ่องกำลังภายในเก่าๆที่เราเคยชอบสมัยเด็ก ส่วน 1 คะแนนที่หายไปผมรู้สึกว่าเหตุผลของตัวละครบางตัวมันง่ายดายไปหน่อย พี่อยู่มาตั้งนานพี่น่าจะคิดได้มากกว่านี้นะฮะ แต่ก็นะพูดแล้วก็น้ำตาตกใน เพราะบางคนแถวนี้แม่งอยู่มา 7-8 ปี ยังคิดห่าไรไม่ได้เลย ถถถถถถถถถ ส่วนพระเอกที่หลายคนกังวลว่าจะไม่อินนั้นบอกแค่ว่า ดูจบแล้วคุณจะตกหลุมรักเค้าแน่นวลลล..
.. สรุป .. สั้นๆเลยครับหนังสนุกมากกกกกกก มาดูเถอะ ใครกลัวไม่อยากออกบ้านมาเข้าโรงหนัง ใส่แมสซัก 2 ชั้น พกเจลล้างมือติดกระเป๋าไว้เลย เพราะความสนุกของหนังมันคุ้มมากในการเข้าไปนั่งดูเรื่องนี้ในโรง
ด.อารี่
วันนี้เราจะมารีวิวหนัง 🎥
Shang-Chi and the legend of the ten rings (2021)
ยิ่งใหญ่สมการรอคอย ไม่ผิดหวังเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่า หนังเดินเรื่องได้เป็นเส้นตรงมาก ค่อนข้างเดาทางได้ง่าย เป็นไปตามสูตรสำเร็จของมาร์เวลโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แต่ถามว่าสนุกมั้ย ขอบอกเลยว่าสนุกมาก แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไปไม่สุด
นอกจากนี้เราก็แอบติดตรงที่แฟลชแบ็คเยอะไปหน่อยอะ สำหรับเรานะ คือเข้าใจว่าต้องการจะเล่าความเป็นมา แต่พอมาถี่เกินไปแล้วมันแอบไม่สมูทอะ เหมือนแบบหั่นท่อนแล้วเอามาแปะตรงนั้นที ตรงนี้ที ซึ่งมันสามารถเล่าต่อกันไปเลยได้ไง แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังเสียอรรถรสอะไรขนาดนั้นหรอก
พาร์ทของฉากแอคชั่น เราว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะฉากรสบัสและมาเก๊า อันนี้ดีมากเลย แม้ว่าแอคชั่นช่วงท้ายเรื่องจะมีจังหวะการสโลว์ หรือดึงเช็ง ที่ค่อนข้างจะเชยและน่าหงุดหงิดไปบ้างในบางฉากก็ตาม แต่ภาพรวมคือน่าสนใจเลย ให้ฟีลประมาณลูกครึ่งหนังจีนกำลังภายในผสมกับความเป็นมาร์เวล CG จัดหนักจัดเต็มแบบไม่กั๊ก
ในส่วนของ Simu Liu ที่โดนคำสบประมาทจากหลายคน ขอบอกเลยว่ามาร์เวลเลือกคนได้ไม่ผิดเลย เอาหนังอยู่มาก เป็น ชาง-ชี ที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรต้องติเลย และยิ่งอยู่กับ Awkwafina แล้วลงตัว เคมีเข้ากันมาก เลิฟเอนเนอจี้ของนางมาก ส่วนเหลียง เฉาเหว่ย นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยคนนี้ เก๋าจริง หล่อตลอดกาล
สำหรับใครที่ยังยังเลว่าจะไปดูดีมั้ย ขอบอกเลยว่าไม่ต้องลังเล ไปดูเถอะ ไม่ผิดหวังแน่นอน (เอนด์เครดิตมี 2 ตัวนะ อย่าลืมรอดู คุ้มค่าที่จะนั่งรอ ไม่ไก่กาเด้อ)
ไปดูมาแล้ว…
เปิดตัวฮีโร่สายเอเชียที่แปลกใหม่และสนุกมาก! เก็บรายละเอียดวัฒนธรรมจีนได้ครบทุกเม็ด ฉากแอ็กชั่นเด็ด ผสานศิลปะการต่อสู้กำลังภายในได้ดีเว่อร์ พระเอกใหม่ “ซือมู่ หลิว” คือดีมีเสน่ห์มาก! “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” (ให้ 9.5/10)
ไม่ได้ดูหนังฮีโร่สนุก ๆ แบบนี้มานานมากกกก! “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” นี่แหละที่เป็นหนังที่เหมาะแก่การเข้าไปดูในโรงมากที่สุดในตอนนี้! สนุกยิ่งกว่า Black Widow นะเอาจริง!
อย่างที่รู้กันว่า “ชางชี” คือฮีโร่สายเอเชียคนใหม่ล่าสุดที่กำลังก้าวเข้ามาสู่จักรวาล MCU ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือเป็นงานเปิดตัวฮีโร่สายเอเชียคนนี้ที่จัดออกมาได้สวยงาม มีความแปลกใหม่ และพาผู้ชมเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศงานที่สนุกมาก อีกทั้งในงานนี้ยังเสิร์ฟอาหารรสชาติอร่อยที่ทำให้ผู้ชมเพลินตา จรรโลงใจเป็นอย่างมาก
แค่การแสดงเปิดตัวในฉากแรกก็แทบจะทำให้นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว เพราะมาร์เวลได้เอาศิลปะการต่อสู้แบบจีนกำลังภายในมาผสานอยู่ในโลกของหนังฮีโร่ฝั่งตะวันตกได้ดีเยี่ยมมาก ๆ ซึ่งทำให้ฉากแอ็กชั่นของเรื่องนี้มีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และดูสนุกลุ้นกันมันมาก!
นอกจากนี้หนังยังคงบรรยากาศของวัฒนธรรมแบบจีน ทั้งการแต่งกาย สถานที่ สัตว์ในตำนาน รวมถึงสกอร์ของหนัง ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจ มันเหมือนได้รีเฟรช ได้เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ ๆ ทั้งมุกตลก ตัวร้ายที่ไม่ใช่บรรดาคนที่จ้องแต่จะยึดครองโลก และการเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้ทะเยอทะยานถึงขั้นปกป้องโลก มันเป็นเรื่องราวเล็ก ๆ ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมและลงตัวมาก
ทางด้านพระเอกใหม่อย่าง “ซือมู่ หลิว” เป็นผู้ชายที่ไม่ได้ดูหล่อตั้งแต่แรกเห็น แต่พอได้ดูการแสดงไปเรื่อย ๆ เห้ย! คนนี้เท่อ่ะ มีเสน่ห์มาก! เรียกว่าขึ้นแท่นฮีโร่ที่มีเสน่ห์ทำให้คนหลงรักได้ลำดับต้น ๆ เลยแหละ นักแสดงคนอื่น ๆ ในเรื่องก็สร้างสีสันได้ดีมาก
อยากบอกว่า “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” เป็นเหมือนเชื้อไฟที่ถูกเติมให้กับคอหนัง จากที่ไฟกำลังจะมอดลง ตอนนี้มันเริ่มจะลุกโชนแล้วแหละ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ปลุกความรู้สึกตื่นเต้นกับการดูหนังในโลก และดึงเอาบรรยากาศความรู้สึกเก่า ๆ ของคนรักหนังที่เริ่มจางไปให้กับมาคึกคักอีกครั้ง!
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Dragon Trace Palace of Exquisite Wild Flowers (2023) พระราชวังรอยมังกรแห่งดอกไม้ป่า
Lost You Forever (2023) ห้วงคำนึง ดวงใจนิรันดร์
Alienoid Return to the Future (2024)
8.1