KUBHD ดูหนังออนไลน์ Mission Impossible 6 (2018) เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ
สองปีหลังจากที่อีธานฮันต์ยึดโซโลมอนเลนได้สำเร็จกลุ่มที่เหลือของซินดิเคตได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นองค์กรอื่นที่เรียกว่าอัครสาวก ภายใต้การนำของนักนิยมลัทธิหัวรุนแรงผู้ลึกลับที่รู้จักกันในชื่อจอห์นลาร์กเท่านั้นองค์กรกำลังวางแผนที่จะได้มาซึ่งแกนพลูโตเนียมสามแกน อีธานและทีมของเขาถูกส่งไปยังเบอร์ลินเพื่อสกัดกั้นพวกเขา แต่ภารกิจล้มเหลวเมื่ออีธานช่วยลูเธอร์และเหล่าอัครสาวกหนีไปพร้อมกับพลูโตเนียม เมื่อเจ้าหน้าที่ CIA August Walker เข้าร่วมทีมตอนนี้อีธานและพรรคพวกต้องหาแกนพลูโตเนียมก่อนที่จะสายเกินไป
Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยสัญชาติอเมริกันปี 2018 ที่เขียนบทและกำกับโดย Christopher McQuarrie ภาคต่อของ Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) เป็นภาคที่หกของซีรีส์ภาพยนตร์ Mission: Impossible นักแสดงทั้งมวลประกอบด้วย ทอม ครูซ, เฮนรี คาวิลล์, วิง เรมส์, ไซมอน เพ็กก์, รีเบคก้า เฟอร์กูสัน, ฌอน แฮร์ริส, แองเจล่า บาสเซตต์, วาเนสซา เคอร์บี, มิเชล โมนาแกน
และอเล็ก บอลด์วิน เรื่องราวเกิดขึ้นสองปีหลังจากเหตุการณ์ใน Rogue Nation Fallout เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับ Impossible Missions Force อีธาน ฮันท์ (ครูซ) และทีมของเขาในความพยายามป้องกันการโจมตีด้วยนิวเคลียร์โดยผู้ก่อการร้าย Solomon Lane และ John Lark ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงลึกลับ
สองปีภายหลังการเข้าจับกุมข้าราชการอันธพาลผู้ดีอังกฤษ โซโลมอน เลนa โครงข่ายผู้ก่อวินาศกรรมของเขา สินดิเคท ได้ตั้งขึ้นกรุ๊ปใหม่ในฐานะอัครสาวก ซึ่งเป็นองค์การก่อการร้ายรับจ้าง พวกเขาได้รับเลือกเฟ้นโดยกรุ๊ปหัวรุนแรง จอห์น ลาร์ก เพื่อซื้อแกนพลูโทเนียม 3 แกนสำหรับวางระเบิดปรมาณู ที่เขาจะใช้ทำลายกฎระเบียบโลกที่มีอยู่ อีธาน ฮันท์ ข้าราชการหน่วยปฏิบัติงาน Impossible Missions Force (IMF) ล้มเหลวสำหรับการกู้ศูนย์กลางในกรุงเบอร์ลิน ภายหลังที่อัครสาวกจับลูคุณร์ สติกเคลล์ สหายร่วมกลุ่มของเขาเป็นตัวรับรอง อีธานเลือกที่สามารถจะช่วยลูเทอร์
แต่ว่าอัครสาวกลักขโมยศูนย์กลางไป Ethan, Stickell รวมทั้งสหายร่วมกลุ่ม Benji Dunn จับ Nils Delbruuk ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปรมาณูของ Lark รวมทั้งหลอกให้เขาเตรียมแผนผังสำหรับระเบิดของ Lark เอริกา สโลน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกึ่งกลาง (CIA) เจอหน้ากับอีธานแล้วก็อลัน ฮันลีย์ ผู้อำนวยการ IMF เกี่ยวกับความผิดพลาดของกลุ่มสำหรับในการกู้คืนพลูโทเนียม คุณยืนกรานที่จะส่งตัวแทนของคุณ ออกัสต์ วอล์กเกอร์ ไปพร้อมทั้งพวกเขาเพื่อค้นหาศูนย์กลาง โดยสั่งให้เขาใคร่ครวญผู้ใดก็ช่างซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ในแนวทางการนี้
อีธานรวมทั้งวอล์คเกอร์แทรกซึมเข้าไปในไนต์คลับแห่งหนึ่งในกรุงปารีส โดยที่ลาร์คจะซื้อแกนจากคนกลางอาวุธ อลันทุ่งนา ไม่ตโซโพลิส พวกเขาเจอหน้ากับชายที่ถูกสงสัยว่าเป็นลาร์ครวมทั้งอีธานแทบถูกฆาตกรรม จวบจนกระทั่งอิลซา เฟาสต์ ข้าราชการ MI6 ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนของเขา แทรกแซงรวมทั้งฆ่าลาร์ค โดยสมมุติว่าตัวตนของ Lark นั้น Ethan เจอกับ Mitsopolis
ภาพยนตร์แอ็คชั่น Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ ซึ่งมอบแกนหนึ่งแก่เขา โดยชี้แจงว่าอัครสาวกจะมอบผู้อื่นภายหลังที่เขาจู่โจมขบวนรถตำรวจรวมทั้งปล่อยผู้ต้องขัง Lane อีธานเบี่ยงเบนไปจากแผนและก็พุ่งเข้าชนรถบรรทุกที่บรรทุกเลนเข้าไปในแม่น้ำแซนเพื่อปกป้องรักษาตำรวจที่ปกป้องจากทหารรับจ้างของไม่ตโซโปลิส เขานำตำรวจออกไปเวลาที่กลุ่มของเขายึดเลนไว้ได้ รวมทั้งขวางความพากเพียรลอบฆ่าเลนโดยอิลซา
เมื่อเจอกับอีธาน อิลซาชี้แจงว่า MI6 มอบหมายให้คุณฆ่าเลนเพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้รัฐบาลฝรั่งสืบสวนเขา และก็พิสูจน์ความซื่อสัตย์ของคุณภายหลังจากดำเนินการนอกชุดแต่งกายในฐานะสายสินดิเคท คุณถูกส่งมาเพื่อคุ้มครองลาร์คแล้วก็ดูแลเลนให้หลบซ่อน แต่ว่าไม่เชื่อฟังเพื่อคุ้มครองป้องกันอีธาน ในเวลาเดียวกัน วอล์คเกอร์ให้หลักฐานแก่สโลนโดยกล่าวว่าอีธานเป็นลาร์คตัวจริง
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ หนังประเภท Thriller ระทึกขวัญ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูหนังออนไลน์ 4k พากย์ไทย ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังออนไลน์ 4k ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังออนไลน์ หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนังออนไลน์ ชัด ดูหนัง 2023-2024 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี่
บริษัท ค่ายหนัง
- แบดโรบอตโปรดักชันส์
- สกายแดนซ์มีเดีย
- อาลีบาบาพิกเจอส์
นักแสดง
- ทอม ครูซ
- รีเบกกา เฟอร์กูสัน
- ไซมอน เพกก์
- วิง เรมส์
- มิเชลล์ โมนาแฮน
- อเล็ก บอลด์วิน
- ฌอน แฮร์ริส
- เฮนรี แควิลล์
- วาเนสซา เคอร์บี
- แองเจลา บาสเซตต์
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
Mystery Dungeon Board Game x Coffee Homey
#MovieNews
Mission: Impossible – Fallout คือภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ชุดนี้!
หลังจากปล่อยคะแนนรีวิวแรก ๆ ออกมาหนังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกมากมาย โดยหนังได้เรตติ้งไปกว่า 98% (8.6/10) จาก 40 รีวิว เลยทีเดียว
โดย Indiewire บอกว่านี่เป็นหนังแอคชั่นที่ดีที่สุดของทอม ครูซ เช่นเดียวกับ Screenrant ที่บอกว่าหนังภาค Fallout เป็นภาคที่ดีที่สุดในตระกูลแฟรนไชส์ Mission: Impossible
หนังจะเล่าเรื่องราวการกลับมาปฏิบัติภารกิจที่อันตรายกว่าเดิมพร้อมทีม IMF แก๊งสายลับคู่บุญ (อเล็ก บอลด์วิน, ไซมอน เพกก์, วิง เรมส์) ซึ่งครั้งนี้ อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) พร้อมด้วยพันธมิตร (รีเบ็คกา เฟอร์กูสัน และมิเชลล์ โมนาแฮน) ต้องกลับมาในปฏิบัติการที่ต้องแข่งกับเวลาหลังจากที่ภารกิจเกิดความผิดพลาด
กำกับโดยผู้กำกับจากภาคที่แล้ว คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่
มีกำหนดเข้าฉาย 26 กรกฎาคม 2018
Movies Delight Club
Mission: Impossible – Fallout (Christopher McQuarrie, 2018)
คะแนน B+
“ฉากแอคชั่นดีงามและไหลลื่นสนุกสนานเพลิดเพลิน” Mission: Impossible น่าจะเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์แอคชั่นที่ดีที่สุด และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับจากภาค 1 จนถึงภาค 6 เนื้อหาของตัวหนังยังคงมีพัฒนารวมทั้งฉากแอคชั่นที่ถูกออกแบบมาอย่างดี สนองความมันส์และชวนลุ้นระทึกได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะรู้ทั้งรู้ว่ายังไงตัวละครเอกก็คงรอดพ้นจากอันตรายต่างๆมากมายไปได้อย่างแน่นอน ถึงกระนั้น ‘Mission: Impossible – Fallout’ ก็ยังคงพยายามพาเราไปมีส่วนร่วมกับภารกิจเสี่ยงตายหรือภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างลุ้นระทึกจนวินาทีสุดท้ายอย่างปฏิเสธไม่ได้ สิ่งที่ดีมากๆของงานภาคนี้ คือการพยายามทำให้ฉากที่เป็นไปไม่ได้ในเรื่องดูมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้จริง หนังพยายามรับผิดชอบต่อเหตุการณ์หรือฉากแอคชั่นให้อยู่ในความน่าจะเป็นของโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้เราสามารถรับชมภาพยนตร์ได้แบบไหลลื่นและเพลิดเพลินไปกับเหตุการณ์ต่างๆภายในเรื่อง
และแม้ว่าภาพรวมทั้งหมดจะถูกออกแบบมาเพื่อให้ตัวละคร ‘อีธาน ฮันต์(ทอม ครูซ)’ โชว์เหนือเหมือนภาคก่อนๆ แต่ตัวละครสมทบต่างๆยังคงมีบทบาทและมีช่วงเวลาที่น่าจดจำสลับกันไป สิ่งที่ต้องชื่นชมคือตัว ‘ทอม ครูซ’ ด้วยวัยขนาดนี้ยังคงดูดีและปราดเปรียว มีแรงแสดงฉากแอคชั่น ขับมอเตอร์ไซค์เสี่ยงตาย ขับเฮลิคอปเตอร์ กระโดดร่ม ปีนหน้าผา เล่นเองหมดไม่ต้องมีสตั้นแมน คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ทอม ครูซ’ คือนักแสดงแอคชั่นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกภาพยนตร์อย่างไม่ต้องสงสัย และเราน่าจะได้ดู ‘Mission: Impossible’ ต่อไปอีกอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พล็อตเรื่องทั้งหมดของภาคนี้ไม่เกินคาดเดาและสามารถคาดการณ์ได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นอะไรที่อาจจะไปลดทอนความสนุกสนานลงไปบ้าง แต่ด้วยการตัดสลับฉากที่ชวนสนุกและไม่ติดขัดน่าติดตามทำให้ฉากที่ไม่เกินคาดเดาสามารถลงตัวพอเหมาะพอดีและเข้าใจได้สำหรับภาพยนตร์แนวแอคชั่น
ดังนั้น ‘Mission: Impossible – Fallout’ เป็นภาพยนตร์แนวแอคชั่นที่มีคุณภาพงานที่ดีและมีฉากแอคชั่นสนุกสนาน พร้อมกันนี้ยังสามารถส่งมอบและตอบสนองความเพลิดเพลินด้วยฉากเวอร์วังที่พิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ผนวกด้วยความลื่นไหลของเหล่านักแสดงนำ และองค์ประกอบต่างๆที่ดูลงตัวสมน้ำสมเนื้อ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง 27 นาที จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะกลายเป็นภาพยนตร์แอคชั่นที่ดีที่สุดของปีนี้ได้อย่างสบายๆ
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ 🙂
เด็กน้อยวิจารณ์หนัง
Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์
( 9/10 )
” สุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้ ”
( เรื่องย่อ )
– ทอม ครูซ กลับมาทำภารกิจเสี่ยงตายอีกครั้ง ในหนังภาคต่อหลังเหตุการณ์โค่นซินดิเคตและจับกุมหัวโจกขององค์กร ทีมสายลับ อีธาน ฮันต์ ( ทอม ครูซ ) ก็ทำภารกิจผิดพลาดจนทำให้พลูโตเนียมหายไป และถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อองค์กรและประเทศชาติ ดังนั้น ฮันต์ จึงต้องพิสูจน์ความจริงและความถูกต้องของตนเอง โดยต้องปฏิบัติการท้านรกอีกคำรบ กับภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในครั้งนี้
( รีวิว )
– นี่คือ สุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้ คงไม่ใช่เป็นคำกล่าวที่เกินความจริงนัก แต่ด้วยหนังมีองค์ประกอบที่ดีพร้อม เลยทำให้หนังมีทิศทางบวกต่อคนดูอย่างน่าชื่นชม
และเป็นเวลานานมากแล้ว ที่ผมไม่ได้ดูหนังแล้วรู้สึก ” เกร็ง ” และลุ้นจนจิกเบาะได้ขนาดนี้ แต่หนังเรื่องนี้กลับทำได้ และพาร์ทแอ๊กชั่นก็จัดเต็มจนหายใจหายคอกันไม่ทั่วท้องเลยจริงๆ
– แต่ที่ผมเกริ่นมา นี่เป็นเพียงแค่ข้อดีบางส่วนเท่านั้น สิ่งอื่นๆมีให้ควรชื่นชมในทางบวกอีกเยอะ ดังนั้นผมจะยกตัวอย่างของข้อดีกันมาก่อนแล้วกัน
– อย่างแรกเลยที่ผมชอบ คือ ” บท ” เป็นอะไรที่ดีมาก เพราะว่าไม่สามารถคาดเดาหนังได้เลยว่าจะไปในทิศทางไหน และมีพล็อตที่หักเหลี่ยมเฉือนคมตามสไตล์หนังสายลับ และพอมาในภาคนี้ ดันเล่าเรื่องได้ลงตัว จนทำให้คนดูคาดเดาทิศทางของหนังไม่ได้จริงๆ จนทำให้ตื่นเต้นและลุ้นไปกับบทที่เขียนออกมาดีจนน่าชื่นชม
– อย่างที่สอง พาร์ทแอ๊กชั่นจัดเต็มจริงๆ และลุ้นทุกครั้งที่ได้ดู ทอม ครูซ พาคนดูไปร่วมเสี่ยงตายกับเขา ตั้งแต่ภาคพื้นดินยันท้องฟ้า ซึ่งด้วยทุกฉาก เจ้าตัวลงทุนแสดงเองเกือบทั้งหมด และบวกกับความที่ใช้ซีจีในภาคนี้แทบจะน้อยมาก คนดูจึงได้รับผลประโยชน์เต็มๆ ทั้งฉากแอ๊กชั่นที่ดูเรียล และลุ้น บวกไปกับฉากที่ต้องเกร็งและเสียวท้องน้อยหลายๆฉาก ซึ่งแน่นอนว่าตัวอย่างยังกั๊กไว้ เพื่อให้คนดูต้องไปลุ้นกับหนังเองอีกที
– อย่างที่สาม ตัวละครทุกตัวล้วนมีเสน่ห์น่าติดตาม มาในภาคนี้ไม่ใช่แค่ อีธาน ฮันต์ ที่เด่นแค่คนเดียวเหมือนกับภาคก่อนๆ แต่ด้วยบทที่กระจายให้ทุกคน จนมีความเด่นชัดกว่าทุกภาค บวกกับสถานการณ์ที่ลุ้นและเอาใจช่วยกับทีมสายลับในเรื่อง ล้วนแล้วแต่อินไปได้กับตัวละครทุกตัว และนอกเหนือจากนั้น วายร้ายในภาคนี้ ก็ร้ายลึก และค่อนข้างที่จะทำให้คนดูรู้สึกทั้งเกลียด และน่ากลัวต่อแผนร้ายที่ถูกเปิดเผยออกมาให้คนดูได้อึ้งพอสมควรในช่วงท้ายที่เป็นไฮไลต์เด็ดของเรื่องครับ
– อย่างที่สี่ หนังนำข้อดีของแต่ละภาคมาผสมผสานมาเล่าได้อย่างลงตัวในภาคนี้ ( ภาคที่ 6 ) ทั้งสไตล์หักเหลี่ยมเฉือนคมในภาคแรก , พาร์ทแอ๊กชั่นแบบมันส์ระห่ำในภาคสอง , การดำเนินเรื่องแบบฉับไวในภาคสาม , ฉากเสี่ยงตายแบบในภาคสี่ และ ตัวร้ายที่ดูสูสีพอๆกับอีธานในภาคห้า ทุกอย่างถูกนำมาเล่าและดำเนินเรื่องแบบสมบูรณ์แบบจริงๆในภาคนี้ครับ
แถมทิ้งท้ายอีกนิดว่า ในช่วงท้ายมีเซอร์ไพรส์แบบสุดๆต่อแฟนคลับของตระกูลหนังมิชชั่นครับ
– อย่างสุดท้าย หนังเองก็มีพาร์ทดราม่าที่หนักหน่วงเข้ามาสอดแทรกในเรื่องได้ดี ทั้งคำถามคาใจของตัวละครอย่าง อีธาน ฮันต์ ว่าการกระทำของเขา นั้นคู่ควรต่อสิ่งที่ทำไปต่อประเทศชาติแล้วเหรอ ทั้งที่อาจจะต้องแลกกับการสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ในชีวิตของเขา ซึ่งประเด็นตรงนี้ทำออกมาให้คนดูคิดตามได้ดี และเป้าหมายหลักของวายร้าย ก็ดูน่ากลัวแต่ก็อดคิดตามไม่ได้ต่อหลักของความเป็นจริงของโลก ที่ทุกฝ่ายต่างตักตวงผลประโยชน์จนไม่คำนึงถึงความถูกต้อง การแสวงหาอำนาจของประเทศต่างๆ ซึ่งตรงนี้เอง ก็ทำให้คนดูอย่างผมคิดตามได้ทันทีเมื่อดูจบลงครับ
– ส่วนข้อเสียก็มีบ้าง ที่หนังค่อนข้างยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆ อาจจะมีเนือยๆ และอืดๆนิดๆ และจุดเฉลยวายร้ายที่แท้จริง อาจจะดูเฉลยไวเกินไปนิด แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นข้อเสียที่มีมาเพียงนิดเดียวที่ไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้ลดความสนุกสนานลงเลยแม้แต่นิดเดียว
– สรุปเลยแล้วกันครับ นี่คือ หนังแอ๊กชั่น-สายลับที่ลูกเพจไม่ควรพลาด สมบูรณ์แบบทั้งในฐานะหนังภาคต่อ , สมบูรณ์ในฐานะแฟรนไชส์ของตระกูลมิชชั่น , สมบูรณ์แบบในฐานะหนังที่ตอบโจทย์ของความบันเทิงในรูปแบบบล็อกบัสเตอร์ และสุดท้ายหนังเรื่องนี้จะกลายเป็นมาตรฐานหลักที่หนังแอ๊กชั่น-สายลับต้องดำเนินรอยตามให้ได้ในฐานะหนังต้นแบบที่มอบทุกอย่างให้กับคนดูที่คุ้มค่าและสมบูรณ์แบบทั้งบทและความบันเทิงจริงๆที่หนังเรื่องนึงควรมีครับ ดังนั้นคะแนน 9/10 คู่ควรและยกย่องให้กับหนังเรื่องนี้ในฐานะสุดยอดหนังแอ๊กชั่น-สายลับของปีนี้นั้นเอง
นั่งดู นอนดู
>รีวิว ไปดู ” Mission Impossible 6 (2018) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 ฟอลล์เอาท์ ” มา (8/10) สปอย
> ผู้กำกับ : คริสโตเฟอร์ แมคแควรี
นักแสดง : ทอม ครูซ, รีแบคก้า เฟอร์กูสัน, เฮนรี่ คาวิล
หมวดหมู่ : แอ็คชัน / ผจญภัย / ระทึกขวัญ / ภาคต่อ
วันที่ดู : 26 กรกฎาคม 2018
ปฎิบัติการที่เป็นไปไม่ได้ตอนที่ 6 ของลุง อีธาน ฮันท์ หุ่นอาจจะย้วยไปบ้าง เชื่องช้าบางลีลา แต่ก็ไม่น่าเกลียด วิ่งไวอยู่นะ
เนื้อหา
ภาคนี้เนื้อเรื่อง อาจไมซับซ้อนเท่าไร มีส่วนต่อจากภาคที่แล้ว แต่สับขาหลอกคนดู หลายตอน ในเรื่องตามหา นิวเคลียร์ 3 ลูก อีธานและเพื่อนๆต้องตามหา ให้เจอ จากความผิดพลาดของพวกเขาเอง โดยมี พี่ Superman ตามมาเป็นตัวคอยสร้างเรื่องราวเพิ่มให้พลิกผันมากขึ้น เมื่อเจอนิวเคลียแล้วต้องช่วยกัน หาวิธีหยุดมัน ซึ่งยังคิดไม่ออก อีธานบอก 5555
ฉากหวือหวา แอคชั่น ฉากน่าดู
ภาคนี้ไล่ล่าบนบก และอากาศ มีฉากรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่สุดมัน มีฉากเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่าอย่างหวาดเสียว ฉากวิ่งบนหลังคาตึก กระโดดข้ามตึก คนดูต้องลุ้น แทบฉี่ลาด ทุกฉากไล่ล่า ฉากแอคชั่น ชกต่อย ทำได้รุนแรง ได้ลงตัว ภาคนี้ครบรส และน่าชม ระบบเสียงไม่ต้องห่วง ตูมตาม ตามสไตล์ มิชชั่น ภาคนี้ไม่ค่อยมี เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีด้านต่างๆมากนัก แต่มีหลายฉากเสี่ยงตาย ที่ พี่ครูช เล่นเอง เจ็บเอง เช่นกระโดดข้ามตึก จนกระดูกหัก ขับบิ๊กไบท์ เกาะเฮลิคอปเตอร์ เริ่มจะเป็น เฉินหลง ซะแล้วแฮะ
มุมกล้องที่สุดยอด พาเราเข้าไปเหมือนเป็นนักแสดงเสียเอง ลุ้นดีในบางฉากเช่น ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่า ฉากแอคชั่นบอกได้ว่าคุ้มจริงๆครับ
ความคุ้มค่ากับราคาตั๋ว
เรื่องนี้ ผมว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปพอสมควร มีทีมเดิมๆเข้ามาเสริม มีสาวๆของอีธานจากภาคต่างๆ เข้ามามีส่วนหักเหของเรื่องทั้งแฟนเก่า จากภาค 3 และแฟนใหม่ ภาค 5 สุดท้าย อีธานคุณหล่อมาก ตามที่สาวๆบอก ฮันท์ยังห่วงสาวๆทั้ง 2 คน และเพื่อนๆ การถ่ายทำหลากหลายประเทศ ฉากสวยๆ การแสดงที่คุ้มค่า ของพระเอก superman และครูซ สาวๆในเรื่อง สวย และเก่งทุกคน มีการใช้มุข เดิมๆ เช่น เปลี่ยนหน้ากาก การจัดฉาก การหักหลัง การหลอกคนดู ฉากแอคชั่นยาวๆทำให้เราไม่เบื่อมุขเดิมๆย้ำว่าคุ้ม ไปดูหนัง Blockbuster ที่ทุนสร้าง 178 ล้านเหรียญกันครับ
คะแนนเต็ม10 ผมให้ 8 เต็ม 10 ดูไม่เบื่อบางฉากอาจเดาออก แต่ไปดูเถอะ มันสนุกแน่ๆถ้าใครชอบ 007 ไปดูเรื่องนี้ เราจะนึกว่าเรากำลังดู 007 ไปเสียแล้ว
ไม่มีสปอย ไม่อธิบายมาก เอาแบบสั้นๆ อย่าว่ากันนะครับ
ลากแฟนเข้าโรง
34 – Mission: Impossible Fallout
27 Jul 2018
— [[มันคือเรื่องเกี่ยวกับอะไร?]] —
Ethan Hunt กลับมาอีกครั้งเพื่อกู้วิกฤตนิวเคลียร์ ที่พร้อมจะคร่าชีวิต 1 ใน 3 ของประชากรโลก และเป็นอีกครั้งที่ชีวิตของคนที่เค้ารักต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะเค้า
— [[ผมคิดว่า]] —
แฟรนไชส์ MI ที่มีอายุยืนยาวมา 20 กว่าปี เดินทางมาถึงภาคที่ 6 โดยยังใช้นักแสดงหลักคนเดิมคนเดียวคือ Tom Cruise ซึ่งตัวทอมเองคงรัก MI มาก นอกจากเป็นคนดำริอยากเอา TV series นี้มาทำเป็นหนังแล้ว เค้ายังนั่งเป็น Producer เองมาทุกภาคอีกด้วย
และสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ทอม รัก MI มากแค่ไหน… คือ เค้าเล่นฉากเสี่ยงตายเองแทบทั้งนั้น!!
สารภาพเลยว่าไม่เคยรู้มาก่อน จนเห็น Trailer ของ Fallout ในโรงที่มีเบื้องหลังจากโดดร่มแบบ HALO ว่าทอมเล่นเองเพื่อความสมจริง ลองคิดดูว่า ต้องซ้อมกี่รอบ โดดกี่เทคกว่าจะได้ scene ที่ยาวไม่กี่นาที
กลับมาเลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ใช่แค่ฉากโดดร่มจ้า ทุกฉากโหดๆใน Fallout ตั้งแต่ ขับมอไซเสี่ยงตายกลางปารีส โดดข้ามตึก (ซึ่งทำเอาข้อเท้าหักจริงๆจนต้องพักกองเป็นเดือนๆ) ฉากตกเฮลิคอปเตอร์ (ที่ทีมงานยังตกใจนึกว่าทอมร่วงไปจริงๆแล้ว) ไปจนถึง ขับเฮลิคอปเตอร์เสี่ยงตายด้วยตัวเอง ซึ่งทอมลงทุนเรียนขับเฮลิคอปเตอร์เองจริงๆกว่า 2000 ชม. เพื่อจะแสดงฉากนี้ นี่มันบ้าไปแล้ว!!
และเพราะความทุ่มเทนี้ มุมกล้องในฉาก action ของ Mission Impossible ถึงมีความพิเศษ และสมจริงๆ ที่สามารถดึงเราเข้าไปในฉากนั้นได้จริงๆ (เดี๋ยว post clip เบื้องหลัง ไว้ให้ใน comment)
ในตอนแรกมีข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวเองเป็นตัวละครของ Jeremy Renner (Hawk Eye แห่งทีม Avenger) ที่โผล่มาในภาค 4-5 แต่เฮียทอมก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแกทุ่มเทให้กับหนังแค่ไหน และอายุทำอะไรแกไม่ได้จริงๆ อย่าลืมนะ ว่าลุงทอม อายุ 56 แล้ว!!
ใน Fallout ไม่มีฉากเข้าไปจารกรรมที่เป็น signature ของ MI แต่สิ่งอื่นๆยังมีครบ ทั้งการ brief mission should you choose to accept ก่อน ทำลายตัวเองใน 5 วิ และ หน้ากากยาง ที่การเอามาใช้ในภาคนี้ก็ยังทำให้เราว้าวได้อยู่ ถึงจะดูมุกนี้มา20 กว่าปีแล้ว
ฉาก action มีให้เราดูครบตั้งแต่ สู้มือเปล่า ฉากไล่ล่าบนถนน ฉากยิงกันตู้มต้าม ฉากกู้ระเบิด ไปจนถึงไล่ล่ากันบนฟ้า เรียกว่า ขนมาให้ดูกันแบบไม่กั๊กเลยทีเดียว
Ethan Hunt ดูมีความเป็นมนุษย์ขึ้นมากในภาคนี้ ตัว Herry Cavill superman ในมาดหนวดเฟิ้ม ที่ Justice League ต้องเสียเงินอีกจำนวนมากเพื่อใช้ CG ลบหนวดออกในฉากถ่ายซ่อม แสดงได้ดี เท่ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในห้องน้ำนี่ชอบมาก
รีวิวของ Fallout นี่ออกมาคะแนนสูงมาก สูงสุดใน series MI เลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่แปลกใจ เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้เราขาดหนัง action แบบนี้ การสู้กันแบบคนต่อคนจริงๆ ไม่มีพลัง super heroes แต่ที่บอกว่า 10/10 แอบรู้สึกว่ามันก็เกินไปหน่อยนะ
ส่วนตัวเราให้ความชอบเป็นลำดับตามนี้
1) Mission: Impossible (1996) – Classic!! โคตรเท่ ชอบตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้าย
2) Mission: Impossible Ghost Protocol (2011) เป็นการนำ แฟรนไชนส์นี้ให้กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังจาก ภาค 2 และ 3 รู้สึกเฉยๆมาก (จำได้แต่ theme MI ของ Limp biskit) ฉากปีนตึก Burj Khalifa ที่ทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน และฉากขับรถไล่ล่าในพายุทรายที่น่าจดจำ
3) Mission: Impossible Fallout (2018) ความเข้มข้นที่อัดตั้งแต่ต้นจนจบ
สรุป คิดว่าคนชอบดูหนังยังไงก็คงไปดูอยู่แล้ว และก็สนับสนุนให้ไปดูเถอะ
ปล. ทำธุระ ปล่อยของเสียให้เรียบร้อยก่อนเข้าโรง หนังค่อนข้างยาว และไม่มีช่วงผ่อนให้แอบวิ่งไปเข้าห้องน้ำได้เลย ตอนออกจากโรงนี่แทบจะไม่ไหวแล้ว เดินจ้ำๆออกที่นั่งจะรีบไปห้องน้ำ ปรากฏว่าคนจำนวนมาก วิ่งเลยจ้า วิ่งแบบ วิ่งจริงจัง พุ่งไปห้องน้ำกัน จนคุณแฟนรู้สึกว่า แย่แล้ว ห้องน้ำต้องเต็มแน่ๆ เลยวิ่งตามฝูงชนไปอีกคน ส่วนเราวิ่งไม่ไหว ยืนตรงๆนี่กระเพาะปัสสาวะน่าจะแตก เลยต้องค่อยๆกระย่องกระแย่งไป
ปล2. หนังร่วมสร้างด้วย Alibaba film ด้วยจ้าา เสี่ยแจ๊คหม่า ท่าจะเอาจริงเรื่องหนังละ
— [[แฟนคิดว่า]] —
คิดว่าทุกคนคงรู้แนวหนังอยู่แล้ว เพราะมีมาตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋จนทุกวันนี้ก็ยังมีตอนใหม่มาเรื่อยๆ ต่อให้ไม่เคยดูภาคก่อนๆก็มีtrailer ที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นหนัง action แน่ๆ ก็มีทั้งฉากกระโดดจากเครื่องบิน และข้ามตึกหนิเนอะ
จริงๆตอนไปดูเรื่องนี้ค่อนข้างจะ high expectation มาก เพราะไปดูมาก่อนใน trailer ว่าเรื่องนี้เน้นเล่นเองเจ็บเองไม่เน้น stand-in เพื่อให้ได้ฉากสมจริงและเห็นหน้าชัดทุกตอน ก็ถือว่าเห็นชัดทุกช๊อตจริงๆ ด้วยหน้าจริง คิดว่าหนังสนุกดี และยังคงเน้นไปที่ action เรื่อยๆแบบมีแทรกเนื้อเรื่องนิดๆผสมๆไป เน้นให้ไปรวมๆเดากันเอาเอง (ซึ่งเนื้อเรื่องก็ตรงไปตรงมา เลยไม่ค่อยมีจุดให้สับสน) และเน้นจบแบบเฉียดๆตามสไตล์ MI ที่ใครๆก็เดาตอนจบได้ แต่ก็ยังแอบคิดว่าบทของนางเอกแอบน้อยไปหน่อยนะ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Mother (2023) มือสังหารหญิง
6.3