Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด
เรื่องย่อ
เมื่อดาวหางโคจรเข้ามาใกล้โลก เครื่องจักรทั่วโลกก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งและก่อเหตุฆาตกรรม คนกลุ่มหนึ่งที่ป้ายรถบรรทุกร้างถูกกลุ่มอาชญากร 18 ล้อจับเป็นตัวประกัน ผู้คนที่ตื่นตระหนกออกเดินทางเพื่อเอาชนะเครื่องจักรนักฆ่า … หรือไม่ก็ถูกพวกมันฆ่า
ผู้กำกับ
Stephen King
บริษัท ค่ายหนัง Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด
De Laurentiis Entertainment Group (DEG)
นักแสดง
- Emilio Estevez
- Pat Hingle
- Laura Harrington
- Yeardley Smith
- John Short
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด แล้วในที่สุด พี่ Stephen King แกก็กำกับหนังซะที จากเรื่องสั้นของเขาเองครับ กับเหตุการณ์ประหลาดที่จู่ๆ เครื่องยนต์และรถต่างๆ เกิดมีชีวิตขึ้นมาและไล่ฆ่าคน ทำให้ผู้ที่เหลืออยู่ต้องเอาชีวิตรอด โดยมารวมตัวกันตั้งป้อมที่ปั้มแห่งหนึ่ง
โครงเรื่องก็น่าจะดี แต่ทว่าตัวหนังกลับไม่ค่อยน่าพอใจนัก แม้จะมีฉากฆ่าสยองๆ ยัดเข้ามา แต่ก็เท่านั้นน่ะครับ เหมือนกับยัดๆ ลงมาหยั่งงั้นเอง บางช่วงหนังก็อืดจนเกินไป ดูเหมือนว่าพี่ King แกจะยังไม่ค่อยแม่นในการทำหนังซักเท่าไหร่ ซึ่งนี่ก็เป็นหนังเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่เขาได้กำกับ และนี่ก็เป็นหนึ่งในหนังที่ทำเงินน้อยที่สุดในบรรดาหนังที่มีพี่ King เข้าไปเกี่ยวข้องอีกด้วย (ทำเงินไปประมาณ 7 ล้านเท่านั้น)
สรุปว่า ไม่ดูก็ไม่เป็นไรครับ มันไม่ได้เจ๋งเป้งอะไร สไตล์ออกมานี่เกรดบีสุดๆ ไปเลย แต่มันดันกั๊กๆ อ้ะ ถ้าเกรดบีแล้วบ้าสยองเต็มขั้นไปเลยคงดีอ้ะคับ แต่เท่าที่เป็นนี่คือมันจะมีช่วงพัก แล้วก็พัก ซึ่งไอ้พักนี่แหละที่ผมว่านานไปหน่อย น่าจะพักนิดแล้วกระหน่ำแหลกดีกว่า
แต่ผมชอบฉบับเรื่องสั้นกว่าเยอะครับ เคยอ่านอยู่ ไม่ต้องมายืด แค่สั้นๆ แล้วจบแบบนี้สะใจกว่าเยอะ
ไม่ถึงสองดาวครับ
เป็นหนังเรื่องแรกเเละเพียงเรื่องเดียวในชีวิตที่ป๋า Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด กำกับเองเลย มันเป็นหนังเรต R ความยาว 1.38 ชั่วโมง นำเสนอเกี่ยวกับโลกที่ครั้งหนึ่งจู่ๆเครื่องยนต์กลไกเเละบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเทคฯต่างๆกลับมีชีวิตและความนึกคิดเป็นของตนเองขึ้นมา พวกมันเลยติดต่อสื่อสารกันทั้งโลก เชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อทำการปฏิวัติรัฐประหารมนุษย์ยึดครองโลกเป็นของพวกมัน โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆจะพยายามตามล่า ฆ่ามนุษย์ทุกคนให้หมดไปจากโลก ส่วนเหล่ามนุษย์ที่ยังคงรอดชีวิตอยู่ก็ต้องพยายามหนี หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพื่อรอดจากการตามล่าของพวกมัน
เป็นหนังสนุกในความทรงจำในวัยเด็กอีกเรื่องเลย ที่จู่ๆ วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2564 ช่วงวันพักผ่อนส่งท้ายปีกลับนึกถึงมันขึ้นมาอีกครั้ง
คงจะสนุกพิลึกเลยนะ ถ้าวันหนึ่งเจ้าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องยนต์กลไก รถยนต์ ดันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ เเล้วออกมาไล่ล่าพวกเราอย่างชนิดเอาตาย
ก็เอามาดูให้หายคิดถึงกันล่ะ 555+
ช่วงส่งท้ายปี พลังไม่ค่อยมีประจำ พิมพ์สั้นๆหน้าจอคอมฯ คิดอะไรได้ก็พิมพ์ไป เเค่นี้พอนะเออ จุ๊บๆ งุงิ
หนังสือของสตีเฟน Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด คิงได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มากกว่านักเขียนคนใด แม้ว่าหนังสือหลายเรื่องจะดีมาก แต่สตีเฟน คิงกลับเป็นแฟนของหนังสือเพียงไม่กี่เรื่อง ดังนั้น เพื่อตัดสินใจว่าเขาควรไม่อนุญาตให้มีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อีกหรือไม่ เขาจึงตัดสินใจกำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากเรื่องราวของเขาเอง Maximum Overdrive ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นเรื่อง Trucks ซึ่งรวมอยู่ในเรื่องสั้น Night Shift ของเขา ในตัวอย่างภาพยนตร์ เขาบอกว่าอยากเห็นใครสักคนทำแบบสตีเฟน คิงให้ถูกต้อง หลายปีต่อมา เขาสารภาพว่ามันเป็น “หนังโง่ๆ” สตีเฟน คิงควรละอายใจกับการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ ไม่จำเป็นเลย แน่นอนว่ามันซับซ้อน บิดเบือน และไม่มีการอธิบายเกี่ยวกับรถบรรทุกเหนือธรรมชาติเหล่านี้อย่างชัดเจน และแน่นอนว่าสตีเฟน คิงอาจมีสิ่งที่เกลียดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากกว่าการต้องเล่นเป็นผู้ชายที่ถูกตู้ ATM เรียกว่าไอ้สารเลว อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวละครที่น่าสนใจ กิจกรรมแปลกๆ ที่น่าสนใจจากรถบรรทุก และเพลงประกอบที่น่าตื่นเต้น ทำให้ Maximum Overdrive เป็นเกมที่สนุกสนานแบบโง่ๆ เกินเหตุ หากคุณไม่อยากจริงจังกับมันมากเกินไป
หนังเรื่องหนึ่งที่โด่งดังและแย่ของ Stephen King ซึ่งนำเรื่องสั้นของเขาเองมาทำเป็นหนังนั้นก็ถือว่าสมกับที่คาดหวังไว้มากทีเดียว แม้จะแย่พอสมควร แต่ก็มีหลายเรื่องให้หัวเราะได้ และถ้าคุณไม่คาดหวังมาก คุณก็จะไม่ผิดหวัง ปัญหาหลักของหนังเรื่องนี้คือ Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด โครงเรื่องที่เครื่องจักรมีชีวิตขึ้นมาไม่ได้น่ากลัว แต่จริงๆ แล้วมันก็ตลกดี หนังเรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะทำให้เรากลัวหรือหัวเราะดี จึงพยายามทำทั้งสองอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก ผลก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ตลก (โดยตั้งใจ) หรือจะน่ากลัวเลย มันแปลกเท่านั้นเอง
ส่วนที่ดีที่สุดต้องอยู่ตอนต้นเรื่องที่เราจะได้เห็นเครื่องจักรสังหารหลากหลายแบบ ตั้งแต่เครื่องตัดหญ้าไปจนถึงเครื่องยิงโค้กที่ยิงกระป๋องใส่กลุ่มเด็กๆ ที่กำลังเล่นเบสบอลในฉากฮาๆ ฉากหนึ่ง ซึ่งคุณคงไม่เชื่อว่ามีการถ่ายทำเอาไว้ มันโง่เง่ามากจนคุณทำได้แค่หัวเราะ โดยเฉพาะเมื่อมีคนโดนกระป๋องกระแทกสมอง ตายเพราะโค้กที่บินได้! อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ก็มีส่วนสร้างสรรค์บางส่วน นอกจากนี้ยังมีเรื่องตลกๆ อีกหลายเรื่อง เช่น เครื่องตัดหญ้าที่พยายามจะขู่ คนที่ถูกกระจกรถยนต์ไฟฟ้าฆ่าตาย (ฉันแทบไม่เชื่อเลยว่ามีคนโง่ถึงขนาดนั่งเอาหัวมุดกระจกรถ) รวมถึง Stephen King ที่คาดว่าจะปรากฏตัวเป็นตัวประกอบโดยมีตู้เอทีเอ็มด่าเขา
อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าที่ตั้งแต่นั้นมา เรื่องก็แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเราติดอยู่ในสถานที่น่าเบื่อที่มีนักแสดงที่น่าเบื่อและภัยคุกคามที่น่าเบื่อ เช่น รถบรรทุก ปัญหาคือแม้ว่าหนังสั้นจะได้ผล แต่เรื่องราวเกี่ยวกับรถบรรทุกกลับไม่มีทางออก พวกเขาขับรถทับคน แต่ก็ทำได้แค่นั้นแหละ พวกเขาใส่หน้าก๊อบลินสีเขียวขนาดใหญ่เข้าไปเพื่อพยายามทำให้รถบรรทุกคันหนึ่งน่ากลัว แต่ปรากฏว่ามันกลับไม่ได้ผล บางทีผู้ผลิตอาจเข้ามาขัดขวาง
เมื่อเห็นว่าการถ่ายทำดำเนินไปอย่างย่ำแย่ ฉันไม่รู้ แต่มีคนคิดที่จะเพิ่มฉากแอ็กชั่น เช่น การยิงปืนโดยไม่จำเป็น เข้าไปในภาพยนตร์เพื่อให้มันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลว แต่ก็ทำให้การนองเลือดเพิ่มมากขึ้น ช่วงเวลาที่ตลกที่สุดต้องเป็นตอนที่ชาวอเมริกันผู้ภาคภูมิใจโจมตีรถบรรทุกด้วยเครื่องยิงจรวดและยิงพวกมันให้แตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่งในขณะที่พวกเขาทำเช่นนั้น แม้ว่าเครื่องจักรจะตอบโต้ด้วยการใช้ปืนกลสังหารผู้รอดชีวิตไปเกือบครึ่งในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นองเลือดก็ตาม
Maximum Overdrive (1986) หนีเหี้ยมประหลาด สตีเฟน คิง เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่องสั้นเรื่อง “Trucks” ของเขา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โครงเรื่องกล่าวถึงโลกที่เคลื่อนผ่านหางของดาวหาง ซึ่งทำให้เครื่องจักรบนโลกทั้งหมดมีชีวิตขึ้นมาด้วยเจตนาฆ่า กลุ่มคนพบว่าตัวเองติดอยู่ในปั๊มน้ำมันที่ล้อมรอบไปด้วยรถบรรทุกและยานพาหนะอื่นๆ รถบรรทุกซึ่งนำโดยรถบรรทุกที่มีใบหน้าของกรีนก็อบลินขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า รอให้มนุษย์ออกจากปั๊มน้ำมันเพื่อที่พวกเขาจะได้ฆ่าทีละคน
นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่ฉันชื่นชอบในยุค 80 เป็นภาพยนตร์ตลกที่มีเพลงประกอบสุดยอดเยี่ยมจาก AC/DC และนักแสดงอย่างเอมีลิโอ เอสเตเวซ แพต ฮิงเกิล แฟรงกี้ เฟสัน ลอร่า แฮริงตัน และเยียร์ดลีย์ สมิธ สตีเฟน คิงปรากฏตัวในบทบาทรับเชิญที่ตลกขบขันในช่วงต้นเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเกลียดในตอนนั้น และยังคงเกลียดจนถึงทุกวันนี้ อย่างน้อยก็โดยพวกที่หลงใหลในหนัง เป็นภาพยนตร์ที่สนุก! ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปะชั้นสูงเสมอไป สำหรับคนที่เป็นแฟนหนังตลกและหนังเชยๆ เรื่องนี้เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน คนรักรถอาจชอบหนังเรื่องนี้เพราะมีรถเก่าๆ มากมายให้เลือกชม อย่าสนใจคำวิจารณ์และลองดู
7.3