ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา
ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) โดราเอมอน ตอน โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา นี้เริ่มต้นขึ้นจากการที่โนบิตะไปเก็บเอาต้นอ่อนจากภูเขาหลังโรงเรียนและใช้ยาวิเศษของโดราเอมอนทำให้ต้นอ่อนเคลื่อนไหวและพูดเองได้เหมือนมนุษย์ โนบิตะตั้งชื่อให้ว่า “คีโบ”
วันหนึ่งเมื่อทุกคนพากันไปที่ภูเขาหลังโรงเรียนจู่ๆก็มีน้ำวนยักษ์ปรากฏขึ้นมา แล้วก็ดูดพวกโนบิตะเข้าไปและพาพวกเขาไปยังโลกอันแสนประหลาดที่มีต้นไม้ยักษ์แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่ที่มีชื่อว่า “ดาวแห่งสีเขียว”ซึ่งมีพวกพืชที่มีวิวัฒนาการจนสามารถพูดได้เหมือน อย่างคีโบปกครองอยู่โดยมีเจ้าหญิงรีเรเป็นผู้นำและอำมาตย์ใหญ่ชีร่าเป็นผู้วางแผนลับเพื่อปกป้องอนาคต
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโนบิตะที่ได้นำต้นไม้จากภูเขาหลังโรงเรียนมาปลูกไว้ โดยใช้ของวิเศษของโดราเอมอน ทำให้ต้นไม้สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องปลูก และตั้งชื่อว่าคีโบ จากนั้นได้ดูแลเลี้ยงดูคีโบเหมือนกับน้องชายตัวเอง แต่แล้วพวกโนบิตะและเพื่อน ๆ ก็ถูก UFO ปริศนาดูดขึ้นไป
และถูกพาไปยังดาวพืช พวกเพื่อนๆรู้ว่าเป้าหมายของมนุษย์ต่างดาวรูปร่างพืชคือการยึดครองดาวโลกให้กลายเป็นสีเขียว เนื่องจากชาวโลกทำลายธรรมชาติมากเกินไป จึงทำให้โนบิตะและเพื่อนๆต้องปกป้องโลก และปกป้องคีโบให้ได้กำเนิดคีโบชาวดาวพืชพบว่าที่โลกซึ่งเป็นแหล่งพำนักของพืชมีสมาชิกพืชน้อยลงเรื่อย ๆ น้ำแข็งละลายลงทุกวัน ๆ น้ำทะเลก็สูงขึ้นทุกวัน ๆ จากป่าก็กลายเป็นเมืองไป จึงต้องเริ่มแผนการสั่งสอนผู้ที่ทำลายพืช
โนบิตะนอนกลางวันหลังเลิกเรียนที่ภูเขาหลังโรงเรียน และเกิดลมพัดผลสอบ 0 คะแนนของเขาหลายใบ จนไปพบกับต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ตรงที่ทิ้งขยะ ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) เมื่อโนบิตะเห็นป่าบนภูเขากำลังลดลงเรื่อย ๆ เขาจึงเอาต้นไม้ต้นนี้กลับไปปลูกที่บ้าน แต่คุณแม่ไม่ให้เอาอะไรมาปลูกเพราะสวนรอบบ้านไม่มีที่แล้ว ต่อมาโนบิตะเลยไปปรึกษาโดราเอมอน แต่ของวิเศษมากมายหล่นลงมาจากตู้เก็บที่นอนเนื่องจากโดราเอมอนต้องคัดแยกของวิเศษเพื่อส่งซ่อม ต่อมาโดราเอมอนรด น้ำยาดัดแปลงพืช เพื่อให้ต้นไม้เดินได้ในวันต่อมา แล้วพวกเขาลงไปรับประทานอาหารเย็น
วันต่อมาห้องโนบิตะถูกรื้อจนเละเทะเต็มห้อง และไปพบกับตัวสีเขียวบนโคมไฟ จากนั้นโนบิตะตั้งชื่อต้นไม้เดินได้ต้นนี้ว่า “คีโบ” ซึ่งมาจากเสียงที่มันสามารถเปล่งออกมาได้ (ได้คำเดียว) ต่อมาโนบิตะเอาน้ำให้คีโบได้กิน (ผ่านการสัมผัส) และเมื่อโนบิตะจะทำอะไรมันก็สนใจหมด มันสามารถเรียนรู้ได้เร็วมาก
วันต่อมาเมื่อโนบิตะไปโรงเรียน คีโบเปรียบเสมือนสมาชิกหนึ่งของบ้าน มันช่วยคุณแม่ตากเสื้อผ้าด้วย เมื่อโนบิตะกลับมาบ้านโนบิตะให้คีโบขีดเขียนลงสมุดที่ไม่ใช้แล้ว ต่อมาคุณแม่วานให้โนบิจะไปซื้อของรวมถึงปุ๋ยให้คีโบ ต่อมาคีโบพบผลสอบ 0 คะแนนของโนบิตะ
มันเลยวาดวงกลมแบบดังกล่าวทั่วบ้านรวมถึงตัวโดราเอมอนด้วย แต่คุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร คืนนั้นโนบิตะและครอบครัวดูโทรทัศน์กัน รวมถึงคีโบด้วย เมื่อฝนตกคีโบออกไปวิ่งเล่นเนื่องจากมันเป็นต้นไม้ คืนนั้นแสงปริศนาตกลงมาแถวภูเขาหลังโรงเรียน และตกลงมาแถวที่ทิ้งขยะ
วันต่อมาโนบิตะพาคีโบออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้านโดยใช้รองเท้าอีกคู่ของเขา และได้พบกับไจแอนท์และซึเนะโอะ โดยที่คีโบมีพลังเยอะมากจนสามารถเอาชนะทั้งสองได้ ต่อมาชิซุกะมาเจอเพื่อนทุกคนเลยลงมาหา เมื่อเดินลงมาก็ลื่นแต่คีโบช่วยไว้ได้ทัน จากนั้นคีโบกลับมายังภูเขาหลังโรงเรียน ซึ่งคีโบสร้างสารแห่งความสุขให้เพื่อนต้นไม้ทุกต้น แต่เมื่อมาถึงป่าอีกฝั่งก็พบว่าป่ากำลังถูกถางเพื่อเอาพื้นที่ไปทำอย่างอื่น จากนั้นคีโบกลับมาที่เดิมเพื่อชี้ว่ามีต้นไม้หนึ่งต้นถูกขยะทับอยู่ แต่ตอนนั้นฝนตกลงมาแล้วโนบิตะจึงพาคีโบกลับบ้านก่อน
ถูกพาตัวไปยังดาวพืชวันต่อมาคีโบหายตัวไป โนบิตะคิดว่ามันอาจจะอยากกลับไปที่ภูเขาเพื่อช่วยเพื่อน ต่อมาโดรามีมาหาที่บ้านเพื่อเอาของวิเศษที่โดราเอมอนคัดแยกไว้แล้วไปซ่อมที่ศตวรรษที่ 22 แต่โดราเอมอนก็ดันเอาของวิเศษที่ใช้การได้ติดไปกับโดรามีด้วย ต่อมาโนบิตะถามเพื่อน ๆ
เพื่อหาตัวคีโบ รวมถึงเดคิสุงิด้วย และโนบิตะมาพบคีโบกับเด็กคนหนึ่งที่กำลังเล่นน้ำท่ามกลางอากาศร้อน
จากนั้นโนบิตะเล่นด้วย แล้วพาคีโบกลับบ้าน ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) จากนั้นคีโบพาโนบิตะไปยังภูเขาหลังโรงเรียนอีกครั้งเพื่อยกขยะออกไม่ให้ทับต้นไม้อีกต้น โนบิตะและคีโบดีใจมากที่ทำสำเร็จจนบินได้ แค่ลืมเอาคอปเตอร์ไม้ไผ่มาจึงตกลงจากท้องฟ้า แต่โดราเอมอนมาช่วยทันแล้วก็ชนเสาไฟฟ้าแรงสูงตกลงมาที่เดิม
ต่อมาทุกคนต้องช่วยกันเก็บกวาดที่ทิ้งขยะตรงนี้โดยโดราเอมอนใช้แล็กเกอร์เก็บกวาดเพื่อส่งขยะทั้งหมดกลับไปหาเจ้าของ หลังจากที่ขยะออกไปจากพื้นที่หมดแล้วคีโบปล่อยสารเร่งความสุขและทุกคนถือใบพัดเพื่อรับสารจากคีโบ แต่ก็หยุดไปก่อนเพราะคีโบพบขยะอีกชิ้น ซึ่งเป็นท่อนประหลาดสีม่วงแดง โดราเอมอนจึงพ่นแล็กเกอร์นี้ใส่ แล้วมันก็พังประตูออกไปยังอีกจุดหนึ่ง
และพบกับต้นไม้ประหลาดที่มีวัตถุแบบเดียวกันเต็มไปหมด ท้องฟ้ามีเมฆดำปกคลุม เมื่อฟ้าผ่าท่อนสีม่วงแดงได้ปล่อยเมือกสีเขียวออกมามากมายพร้อมกับดูดโดราเอมอนและเพื่อน ๆ รวมถึงคีโบเข้าไปในยานอวกาศปริศนา โดยของวิเศษหลาย ๆ ชิ้นหลุดออกมาจากกระเป๋าวิเศษของโดราเอมอนรวมถึงนาฬิกาหยุดเวลา โดยมันถูกกดเอาไว้
ทุกคนอยู่กันปลอดภัย และทุกคนพบว่าพวกเขาถูกลักพาตัวออกมานอกโลก ต่อมาพวกเขาลอดอุโมงค์ลำต้นต้นไม้ยักษ์ออกมาอีกฝั่งหนึ่ง และพบกับยามที่เป็นมนุษย์ต้นไม้ และชีล่ากับพารูนาออกมาต้อนรับทั้งห้าโดยที่พวกเขาทั้งห้าพลัดหลงกับคีโบ ส่วนคีโบที่พลัดหลงกับโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ได้ไปเล่นอยู่ในป่าและพบกับลีเรซึ่งเป็นเจ้าหญิงของดาวพืชที่กำลังพักผ่อนส่วนตัว คีโบเล่นซนและกวนประสาทเธอจนไปพบกับท่านผู้เฒ่า ทางโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ชีล่าพาทุกคนไปยังเมืองพืช และระหว่างทางได้เล่าประวัติของพวกเขา
ทางเจ้าหญิงได้พบกับท่านผู้เฒ่าจึงถามหาตัวคีโบ แต่ท่านผู้เฒ่าไม่ตอบและผายลมใส่ทำให้เธอสลบไป จากนั้นท่านผู้เฒ่าก็พาคีโบไปจากจุดนี้ และเจ้าหญิงกลับมายังปราสาทตามคำสั่งของชีล่าเพื่อให้เจ้าหญิงซึ่งเป็นผู้นำในการประชุมสีเขียว แต่เธอไม่ต้องการที่จะขึ้นไปพูด แต่เนื่องจากพ่อของเธอซึ่งเป็นผู้นำคนเก่าได้เสียชีวิตไปเธอจึงต้องเป็นผู้นำสืบต่อมา และการประชุมครั้งนี้สำคัญมากเนื่องจากมีแขกจากโลกมาเข้าร่วมด้วย ส่วนทางคีโบ ท่านผู้เฒ่าได้เลี้ยงดูอย่างดี
ในที่ประชุม ชีล่าได้ขึ้นพูดเพื่อเสนอถึงปัญหาการทำลายสีเขียวบนโลกมนุษย์ ที่ประชุมมีความโกรธแค้นและเป็นห่วงเพื่อนบนโลกมนุษย์ และต่อมาเจ้าหญิงได้ขึ้นพูดในที่ประชุมว่าจะใช้ยักษ์พฤกษาเพื่อสั่งสอนมนุษย์โลกที่ฝ่าฝืนการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ต่อมาท่านผู้เฒ่าได้เข้ามาแย้งว่าการใช้ความรุนแรงไม่ได้ทำให้เกิดความสงบสุข เมื่อทุกคนพบคีโบที่ซ่อนอยู่ในท่านผู้เฒ่าโนบิตะและเพื่อน ๆ จะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกยามจับขังไว้ก่อน ส่วนเจ้าหญิง หลังจากเสร็จการประชุม เธอบอกกับชีล่าว่าเธออ่านสคริปต์อย่างเดียว
และไม่ใช่ความเห็นของเธอ และการที่ชีล่าจับตัวคีโบมาก็เพราะเอามาไว้เป็นทูตสีเขียวเพื่อปลุกยักษ์กฤกษา จากนั้นเจ้าหญิงเข้าไปยังห้องส่วนตัวของเธอ ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) ส่วนโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ใช้หัวไชเท้านักแสดงเพื่อปลอมตัวเป็นยามเพื่อให้พวกเขาสามารถออกไปได้ จากนั้นทุกคนรู้ตัวว่าโดราเอมอนและเพื่อน ๆ
หลบหนีออกไปชีล่าจึงแจ้งให้เจ้าหญิงอยู่ในห้องเท่านั้น ต่อมาหัวไชเท้าหมดฤทธิ์ทุกคนจึงต้องรีบวิ่งหนีและขโมยเรือ แต่พวกมันรู้ตัวก่อนแต่ก็หนีรอดออกมาได้ เมื่อเจ้าหญิงเห็นเข้าก็ขี่ยานตามไปเพื่อจับตัวทุกคน ทางชีล่าก็สั่งให้พารูนาและทหารคนอื่นตามจับตัวเช่นกัน เมื่อโนบิตะคว้าตัวคีโบได้สำเร็จก็ติดตาข่ายของเจ้าหญิงและลอยไปยังป่าที่อยู่นอกเมือง
ผจญภัยบนดาวพืชต่อมาทุกคนพบกับเจ้าหญิงลีเร ทุกคนรู้แล้วว่าเธอเป็นคนใหญ่คนโตของดาวดวงนี้ พวกเขาเลยขอให้เจ้าหญิงพากลับบ้าน แต่เธอไม่รู้วิธีทางกลับ ส่วนท่านผู้เฒ่าได้เฝ้ามองคีโบอยู่ตลอดเวลา ต่อมาเจ้าหญิงพาทุกคนเดินไปแบบไร้จุดหมาย โดยที่คีโบเหี่ยวแห้งลงทุกที ๆ
เพราะแถวนั้นไม่มีน้ำเลย ส่วนพารูนาได้รับคำสั่งจากชีล่าให้ตามหาตัวเจ้าหญิง ทางโนบิตะและเพื่อน ๆ เดินจนเห็นว่าคีโบเดินไม่ไหวแล้ว เขาเลยขอน้ำจากเจ้าหญิง แต่เธอไม่ให้ และบอกว่าแค่มาเดินเป็นเพื่อนก็บุญแล้ว ต่อมามีมนุษย์ต้นไม้ชื่อโรคุโผล่ขึ้นมาจากดินซึ่งตามหาแมลงโคลนอยู่ ต่อมามนุษย์ต้นไม้อีกคนชื่อยามะ ขึ้นมาจากโพรงเดียวกันเพื่อตามหาโรคุ
แต่ยังหาแมลงโคลนไม่เจอเพราะต้องไปตักน้ำก่อน ไจแอนท์เลยรับอาสาไปตักน้ำเพื่อคีโบ ต่อมาโรคุและยามะเห็นไจแอนท์เป็นโมยะซึ่งเป็นมนุษย์ต้นไม้ตัวใกล้เคียงกัน จากนั้นไจแอนท์ตามยามะลงไปในรูเพื่อไปตักน้ำให้คีโบ ทั้งสองลงมาถึงโพรงใต้ดินที่ลึกมาก ๆ และพบกับพืชที่ให้น้ำค้างอยู่ พวกเขาจึงใช้รองเท้าตักน้ำมาให้คีโบ เมื่อไจแอนท์และยามะกลับมาก็เอาน้ำให้คีโบ เมื่อได้น้ำแล้วมันก็กลับมาแข็งแรงและร่าเริงตามเดิม ต่อมาพวกเขาเดินทางกันต่อและพบต้นไม้ที่ให้ผลเป็นอาหาร
ซึ่งเจ้าหญิงได้แสดงอาการเพราะว่าพลเมืองกินผลไม้ของเธอ แต่ยามะบอกเธอว่าทั้งหมดเป็นผลไม้ของทุกคน เมื่อทุกคนกินผลไม้อยู่ โรคุมอบผลไม้บางส่วนให้เจ้าหญิง แต่เธอปฏิเสธในตอนแรกแล้วจากนั้นก็รับไป ส่วนท่านผู้เฒ่าก็ยังติดตามคีโบอยู่ตลอด ต่อมาโรคุและยามะพาทุกคนไปยังหมู่บ้านของชาวสีเขียวที่ทุกคนอยู่กันอย่างร่าเริงและสงบสุข และยามะได้แนะนำครอบครัวของเขา ทุกคนดีใจที่เชื้อพระวงศ์ของดาวได้มาเยี่ยมเยียนหมู่บ้าน จากนั้นไจแอนท์ได้พบกับโมยะซึ่งเป็นเพื่อนของโรคุและยามะ โดยทั้งสองมีรูปร่างคล้ายกัน
ในหมู่บ้านนี้มีแมลงโคลนที่โรคุตามหาตัวอยู่ด้วย โดยเป็นแมลงที่เลี้ยงตัวอ่อนอยู่ในโคลน และออกมาบนพื้นดินพร้อมกัน และวันนั้นเองเป็นวันที่ดวงจันทร์สองดวงขึ้นทับกัน หมู่บ้านนี้จัดเทศกาลกันในวันนี้ และท่านผู้เฒ่าซึ่งเป็นปู่ของยามะได้กลับมาร่วมฉลองที่หมู่บ้านด้วย
เจ้าหญิงไม่ได้เข้าร่วมงานด้วยแต่ชิซุกะชวนเธอไปเข้าร่วมและทำความรู้จักกัน ที่ดาวนี้มีตำนานที่ว่ามีเด็กจากหลายเมืองเกิดทะเลาะแย่งชิงดาวกัน ทำให้ดาวดวงนี้กลายเป็นดาวแห่งความตาย แต่ต้นไม้ใหญ่ได้งอกขึ้นมาเพื่อช่วยชีวิตคนที่เหลือ ทำให้ดาวดวงนี้ฟื้นฟูขึ้นมาได้อีกครั้ง ระหว่างที่ทุกคนกำลังดื่มด่ำกับแสงไฟของแมลงโคลน ชีล่าและลูกสมุนพาตัวเจ้าหญิงลีเรกลับและจับตัวคีโบไปเพื่อเริ่มแผนการกวาดล้างชาวโลกครั้งใหญ่โดยใช้คีโบเป็นผู้เรียกยักษ์พฤกษาสีเขียว
และกลืนกินดาวโลกทั้งหมดให้เป็นสีเขียว แต่ท่านผู้เฒ่าแย้งชีล่าให้ล้มเลิกแผนการนี้ เนื่องจากความพิโรธทำให้ทำลายทุกสรรพสิ่ง และบิดเบือนคำสอนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จากนั้นชีล่าถอยทัพและพาตัวเจ้าหญิงลีเรและคีโบไป จากนั้นท่านผู้เฒ่าพาโนบิตะและเพื่อน ๆ ไปช่วยคีโบโดยใช้พลังของเขาย้ายที่ พวกเขาย้ายที่มายังทางออกที่จะกลับไปยังโลกมนุษย์ พวกเขาจึงอำลาท่านผู้เฒ่าและเดินผ่านโพรงนั้นออกไป
สงครามยักษ์พฤกษาโดราเอมอนและเพื่อน ๆ ผ่านโพรงออกไปก็พบว่าโลกทั้งโลกถูกสีเขียวกลืนไปหมดแล้ว!!! โดราเอมอนจึงจะทุบตัวเองไถ่โทษ แต่ก็พบว่าเครื่องบินลำหนึ่งไม่ได้ถูกกลืนเอาไว้และหยุดนิ่ง นั่นหมายความว่าเวลาถูกหยุดเอาไว้ โดยที่ชีล่าได้รู้แล้วว่าชาวโลกรู้ตัวจึงหยุดเวลาเอาไว้ นั่นหมายความว่าระหว่างที่ถูกหยุดเวลาโลกทั้งหมดจะไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกโจมตีเลย ชีล่าและพวกจึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เกิดผลจริง ๆ
โดยใช้อาวุธให้ผุดปีศาจสีเขียวออกมา ทุกคนจึงใช้บอลลูนโดราเอมอนเพื่อตามหานาฬิกาหยุดเวลา
และชีล่าได้ขออนุญาตเจ้าหญิงที่จะใช้ยักษ์พฤกษาสีเขียว เจ้าหญิงอนุญาต เจ้าหญิงจึงปลุกยักษ์พฤกษาออกมาโดยใช้คีโบเป็นตัวเชื่อม แต่แผนการก็แตกเพราะชีล่าใช้ขนนกปลุกคีโบให้ตื่น แต่พารูนาสามารถยึดบอลลูนของโดราเอมอนได้ ต่อมาคีโบไปพบกับแสงจากนาฬิกาหยุดเวลา และจะระเบิดขึ้นเพราะจะเกิดการปะทะกันของมิติขึ้น เมื่อโดราเอมอนพูดออกมาพารูนาก็รู้เรื่องด้วย จากนั้นคีโบทำการปลุกยักษ์พฤกษาสีเขียวขึ้น
ต่อมาโนบิตะพลัดหลงกับทุกคนและพบกับเจ้าหญิงลีเรอีกครั้ง เจ้าหญิงมองว่าโนบิตะเป็นศัตรู และเธอทำร้ายโนบิตะตลอดเมื่อเรียกหาคีโบที่กลายร่างไปแล้ว ทั้งที่ทำเพราะคุณธรรม กลับกลายเป็นการสู้กัน จากนั้นทุกคนถูกดูดเข้าไปยังภายในตัวยักษ์พฤกษาที่มีคีโบที่เป็นตอตะโกอยู่ข้างใน แผนการทั้งหมดเกิดความผิดพลาดขึ้น ทุกคนถูกฝังอยู่ใต้พื้นหญ้ายกเว้นโนบิตะและเจ้าหญิง
จากนั้นโนบิตะพบถังน้ำที่คีโบใช้ประจำจึงเอาไปตักน้ำไปรดที่ฐานของคีโบ ซึ่งเป็นทางเดียวที่ทำได้ในตอนนั้น ต่อมาเจ้าหญิงช่วยโนบิตะฟื้นคืนชีพคีโบด้วย เมื่อสำเร็จแล้วทุกคนฟื้นขึ้นมาอีกครั้งรวมถึงตัวชีล่าด้วย ทุกคนเห็นเต็มสองตาว่าถูกมนุษย์ช่วยเหลือจากเหตุการณ์อันผิดพลาดครั้งนี้ จากนั้นท่านผู้เฒ่าฉายภาพดาวพืชหลังจากที่สงครามนี้จบ กลายเป็นดาวแห่งความตายทันทีเนื่องจากมีการใช้พลังมหาศาลของดาวดวงนี้ จากนั้นท่านผู้เฒ่าทำลายยักษ์พฤกษา พารูนาจึงใช้บอลลูนหนี แต่เจ้าหญิงลีเรหนีไม่ทันและคีโบลงไปช่วย ส่วนไจแอนท์เป่าแล้วน้ำมูกไหลทำให้บอลลูนตกด้วย
ข้อคิดของผู้เฒ่าและบทสรุปของลีเรต่อมาท่านผู้เฒ่าให้ข้อคิดสอนใจทุกคนว่าทุกชีวิตย่อมมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ความรักเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวชีวิตทุกชีวิต และความรักจากพ่อแม่จะเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ทุกชีวิตได้เติบโต จากนั้นคีโบสร้างสารแห่งความสุขและทุกคนใช้ใบพัดทำให้ทุกคนมีความสุขและสีเขียวของดาวพืช
ได้กลับมาอีกครั้ง และเจ้าหญิงลีเรพูดในที่ประชุมว่าจะให้เวลาชาวโลกอีกสักพัก และตอนนั้นโดราเอมอนและเพื่อน ๆ สามารถเข้าใจในสิ่งที่คีโบจะสื่อได้แล้ว (ทุกคนเห็นว่าคีโบพูดได้) และต่อมาเจ้าหญิงให้คีโบพูดสรุปปิดท้ายว่ามนุษย์โลกตอนนี้กำลังสำนึกผิดและต่อไปจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้เป็นดาวที่พืชสามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข
ต่อมาเจ้าหญิงลีเรพาทุกคนมาส่งที่โลก และคีโบขอลาทุกคนเพื่อที่จะไปสำรวจอวกาศเพื่อศึกษาอารยธรรมของพืช เพราะเขาอยากจะเดินรอยตามท่านผู้เฒ่า จากนั้นคีโบจึงกลับไปยังยานอวกาศของดาวพืชและจากไปโดยทิ้งรองเท้าข้างหนึ่งให้โนบิตะ จากนั้นเวลากลับมาเดินอีกครั้ง คุณพ่อและคุณแม่ต้อนรับสองคนกลับ
บ้านและถามหาคีโบ โนบิตะไม่ตอบและดันคุณแม่เข้าไปในครัวเพื่อทานอาหารเย็นร่วมกันเช่นทุกวันโนบิตะกังวลว่าจะทำอย่างไรกับคะแนนสอบที่เป็นศูนย์อีกครั้ง ลมกระโชกแรงทำให้ข้อสอบของเขากระจัดกระจาย และเขาก็ตกลงไปกองขยะเพื่อพยายามรวบรวมมันอีกครั้ง หนังประเภท Adventure ผจญภัย ที่นั่นเขาพบต้นไม้เหี่ยวๆ ต้นหนึ่งซึ่งหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งของเขาขึ้นมาได้ และเขาก็ตัดสินใจนำมันกลับบ้าน เขาพยายามจะปลูกมันในสวนของเขาแต่โดนแม่จับได้ซึ่งไม่ยอมให้เขาปลูกมัน
โดราเอมอนยังคงอยากจะเก็บมันไว้แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เติบโต จึงเกิดความคิดที่จะทำให้มันมีชีวิตชีวาด้วยอุปกรณ์ที่เขาใช้ โนบิตะตั้งชื่อต้นไม้ต้นนี้ว่า “คิโบ” เพราะพูดได้แค่ “คิ” เมื่อเวลาผ่านไป ดูหนัง Doraemon The Movie (2008) พ่อแม่ของโนบิตะก็ยอมรับคิโบเช่นกันเพราะเขาเป็นเด็กฉลาดมากที่ช่วยแม่ของโนบิตะทุกครั้งที่เขาไม่อยู่
อย่างไรก็ตาม มนุษย์ต่างดาวจากดาวเคราะห์สีเขียวตัดสินใจที่จะผ่านการตัดสินโดยอ้างว่ามนุษย์กำลังทำลายพื้นที่สีเขียวทั้งหมดบนโลก โนบิตะและเพื่อนๆ ของเขาสามารถหลบหนีโดยบังเอิญและมาถึงโลกของพวกเขาได้ พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสู่เมืองกรีนเพียร์ แต่ยังได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่พวกเขากำลังทำกับโลกของพวกเขา
น่าเสียดายที่อุปกรณ์ทั้งหมดของเขาที่โดรามียืมมา มีโดราเอมอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถทำได้ พวกเขาพยายามหลบหนีและพบกับเจ้าหญิงไรร์ที่หลอกให้พวกเขาคิดว่าเธอกำลังพาพวกเขากลับบ้าน แต่ระหว่างทางก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ที่ปรึกษาของเธอกำลังจะทำนั้นผิด
ในที่สุดด้วยความช่วยเหลือของผู้อาวุโสของดาวเคราะห์ต่างด้าว พวกเขาก็กลับมายังโลกที่ถูกรุกรานได้แล้ว โชคดีที่เวลาที่นาฬิกาโดราเอมอนหล่นลงมานั้นมีชีวิตที่ถูกแช่แข็งบนโลกทำให้พวกเขามีโอกาสช่วยเหลือทุกคน พวกเอเลี่ยนพยายามเรียกยักษ์ของพวกเขาโดยใช้คิโบเพื่อกวาดล้างมนุษย์ทั้งหมด แม้ว่าผู้เฒ่าจะได้รับคำเตือนและแผนกลับส่งผลกลับคืนมา
แต่ด้วยความพากเพียรของโนบิตะ เขาจึงปลุกคิโบให้ตื่น
และทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติเมื่อผู้เฒ่าเสียสละตัวเอง เจ้าหญิง Rire ประกาศแก่ผู้คนของเธอว่าพวกเขาจะเฝ้าดูโลกในขณะนี้ ในขณะที่ Kibō ตัดสินใจเดินทางรอบอวกาศเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและเป็นเหมือนผู้อาวุโส โนบิตะและเพื่อนๆ กล่าวคำอำลาคิโบและกลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านโนบิตะ แม่ของโนบิตะโทรหาเขาและโดราเอมอนให้ลงมาทานอาหารเย็น และมีคนเห็นรองเท้าของคิโบอยู่ข้างๆ รองเท้าของโนบิตะ
Nobita’s troubled about what to do with his zero test marks once again. A gust of wind scatters his test papers, and he falls into a garbage dump trying to gather them together again. There he finds a young withered tree that caught one of his papers and he decides to take it home. He tries to plant it in his garden but gets caught by his mother, who doesn’t allow him to grow it.
Still wanting to keep it but not being allowed to grow, Doraemon comes up with the idea of making it come alive with a gadget he uses. Nobita names the little tree “Kibō” because all it can say is “ki”. As the days pass, Nobita’s parents also accept Kibō because he was a very smart boy who helped Nobita’s mother whenever he was away.
However, aliens from the Planet of Green decides to pass judgement claiming humans were destroying all the green on Earth. Nobita and his friends manage to escape by coincident and arrive at their planet. They are warmly welcomed to their city of Green Pier but also learn of what they are doing to their planet.
Unfortunately, with all his gadgets borrowed by Dorami, there was little Doraemon could do. They manage to escape and come across Princess Rire who tricks them into thinking she was leading them home but along the way, learns that what her adviser was about to do was wrong.
Eventually with the help of the alien planet’s Elder they manage to return to Earth which was already invaded. Fortunately the time watch Doraemon had dropped had frozen life on Earth giving them a chance to save everyone. The aliens try to summon their giant using Kibō to wipe out all humans despite the Elder’s warnings and the plan backfires on them.
But with Nobita’s persistence, he wakes up Kibō and everything is restored as the Elder sacrifices himself. Princess Rire announces to her people that they will watch Earth for the time being while Kibō decides to travel around space to learn more and become like the Elder. Nobita and his friends say goodbye to Kibō and go home. Back at Nobita’s home, Nobita’s mother calls to him and Doraemon to come down for dinner, and one can see Kibo’s shoe beside Nobita’s shoe.
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง Doraemon The Movie (2008) โนบิตะกับตำนานยักษ์พฤกษา เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ดูหนัง ออนไลน์ หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
6.3