Bloodshot (2020) จักรกลเลือดดุ
เรื่องย่อ
Ray Garrison ทหารผู้เสียชีวิตระหว่างรบในสงคราม แต่เขาได้รับการชุบชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้งโดย RST Corporation บริษัทชั้นนำที่ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ฝังไว้ในเลือด นาไนท์ส ในชื่อว่า บลัดช็อต (Bloodshot) ที่ได้เพิ่มศักยภาพให้ตัว Ray ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังความว่องไวและฟื้นฟูเซลล์ที่บาดเจ็บทำให้เขามีความแข็งแกร่งเหนือคนทั่วไปแต่ความทรงจำที่หายไปของเขากลับยิ่งสับสนมากยิ่งขึ้น เมื่อบริษัทใส่ข้อมูลความทรงจำต่างๆ มั่วไปหมดเขาจึงต้องออกตามหาว่าเรื่องจริงไหนเป็นเรื่องจริงและเรื่องไหนถูกแต่งเติมขึ้นมา ดูหนังออนไลน์
หลังจากนำปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันที่ประสบความสำเร็จในมอมบาซา นาวิกโยธินเรย์ แกร์ริสันของสหรัฐฯ และจีน่า ภรรยาของเขา เดินทางไปพักผ่อนที่เมืองริมชายหาดในชายฝั่งอมาลฟีของอิตาลี พวกเขาถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มทหารรับจ้างที่นำโดย Martin Axe ซึ่งต้องการทราบว่ากองทัพสหรัฐฯ เรียนรู้เกี่ยวกับตัวประกันและที่อยู่ของพวกเขาได้อย่างไร เมื่อเรย์อธิบายว่าเขาตอบไม่ได้ Axe ก็ประหาร Gina ต่อหน้าเขา เรย์สาบานว่าจะแก้แค้น และแอ็กซ์ก็ฆ่าเรย์เช่นกัน
เรย์ความจำเสื่อมตื่นขึ้นมาในห้องทดลองของ Rising Spirit Technologies (RST) ซึ่งเป็นบริษัทในกัวลาลัมเปอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงระบบไซเบอร์เนติกส์สำหรับบุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ ที่พิการ ดร. เอมิล ฮาร์ติง ซีอีโอและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์บอกกับเรย์ว่าเขาเป็นมนุษย์คนแรกที่ประสบความสำเร็จในโครงการ “บลัดช็อต” ฟื้นคืนชีพและรักษาเขาด้วยการฉีดเทคโนโลยีนาโนไนต์ทดลองซึ่งตอนนี้เข้ามาแทนที่กระแสเลือดทั้งหมดของเขา เทคโนโลยีนี้เพิ่มความแข็งแกร่งและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา แต่จำเป็นต้องเปลี่ยนและชาร์จนาโนไนต์เป็นประจำ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะยอมจำนนต่อความเสียหายและตายอีกครั้งในที่สุด
เรย์ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคนไข้รายอื่นๆ ของดร. ฮาร์ติง รวมถึงอดีตนักประดาน้ำหญิงของกองทัพเรือสหรัฐฯ “เคที” อดีตหน่วยลาดตระเวนกองทัพบกสหรัฐฯ มาร์คัส ทิบบส์ และอดีตหน่วยซีลของกองทัพเรือ จิมมี่ ดาลตัน หลังจากประสบเหตุการณ์ย้อนอดีตของ Gina และ Axe เรย์ก็จากไปอย่างกะทันหันเพื่อล้างแค้นให้กับการตายของ Gina ด้วยการใช้ nanites และเซิร์ฟเวอร์ RST เพื่อเจาะเข้าฐานข้อมูล Ray ติดตาม Axe ไปที่บูดาเปสต์และสังหารเขาพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขา ย้อนกลับไปที่ RST เรย์ต้องเข้าสู่โหมดสลีปเมื่อ nanites ของเขาถูกรีบูต อย่างที่เขาเคยทำมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ฮาร์ติงแทนที่ความทรงจำของเรย์ด้วยฉากใหม่ของการที่จีน่าเสียชีวิต ครั้งนี้โดยมีนิค บาริส เพื่อนร่วมงานของแอ็กซ์เป็นผู้ร้าย เคทีคัดค้านการที่ฮาร์ติงหลอกหลอนความทรงจำของเรย์ซ้ำๆ ดังนั้นเขาจะไล่ตามเป้าหมายต่างๆ โดยไม่ถามหรือสำนึกผิด แต่เธอกลับเพิกเฉยและเตือนว่า RST สามารถฆ่าเธอได้โดยปิดการใช้งานการปรับปรุงของเธอ
เรย์ฟื้นขึ้นจากความจำเสื่อมอีกครั้ง และได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ RST อีกครั้ง จากนั้นได้สัมผัสกับเหตุการณ์ย้อนหลังที่บาริสลักพาตัวและฆ่าเขาและจีน่า ด้วยแรงผลักดันจากการแก้แค้น เขาติดตาม Baris ไปยัง East Sussex และฆ่าเขา แม้ว่าชายคนนั้นจะขอร้องว่า RST โกหกก็ตาม Wilfred Wigans โปรแกรมเมอร์ที่ถูกบังคับให้ทำงานให้กับ Baris ได้เปิดใช้งานระเบิด EMP ที่ทำให้ Ray ใช้งานไม่ได้และตัดการเชื่อมต่อของเขากับ RST เรย์ตื่นขึ้นมาในห้องทำงานของวีแกนและพบกับความทรงจำที่ขัดแย้งกันหลายครั้งว่าใครเป็นคนฆ่าจีน่า วีแกนช่วยให้เขารู้ว่า RST ชักใยเขา ดังนั้นเขาจึงฆ่าอดีตเพื่อนร่วมงานของฮาร์ติง เรย์ตามหาจีน่า ไม่เพียงแต่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จบลงเมื่อ 5 ปีก่อน และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เริ่มต้นชีวิตใหม่และครอบครัวในลอนดอน
ฮาร์ติงส่งเคทีตามล่าวีแกน แต่หลังจากเคทีขอความช่วยเหลือจากวีแกนในการปลดปล่อยตัวเองจากการควบคุมของ RST และโค่นล้มบริษัท เธอกลับไปที่ RST และบอกฮาร์ติงว่าเธอล้มเหลวในการจับตัวโปรแกรมเมอร์ ในขณะเดียวกัน เรย์ก็ถูกดัลตันและทิบบ์จับตัวกลับและนำกลับไปที่ห้องทดลอง เคทีและวีแกนก่อวินาศกรรมกระบวนการเขียนโปรแกรมซ้ำและทำลายคอมพิวเตอร์ RST เรย์ตื่นขึ้น แต่ดาลตันและทิบบส์พยายามทำให้เขาสงบลง หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน เขาสังหารพวกเขาในขณะที่อาคาร RST พังทลายลง ฮาร์ติงเผชิญหน้ากับเรย์ด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด โดยมั่นใจว่าทหารจะยอมจำนนเมื่อพี่เลี้ยงของเขาหมดแรงแล้ว เรย์ยอมตายเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะและเปิดใช้งานระเบิดที่พวก nanite ทำลาย ฆ่าพวกเขาทั้งคู่ หลังจากนั้นเรย์ก็ตื่นขึ้นพร้อมกับความทรงจำที่เต็มเปี่ยม ฟื้นขึ้นมาโดยวีแกนซึ่งได้ปรับปรุงเทคโนโลยีของเขาเพื่อให้พี่เลี้ยงของเขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้ พวกเขาและเคทีจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาชีวิตใหม่
ผู้กำกับ
David S. F. Wilson
บริษัท ค่ายหนัง
Valiant Entertainment
นักแสดง
- Vin Diesel
- Eiza González
- Sam Heughan
- Toby Kebbell
- Talulah Riley
- Lamorne Morris
- Guy Pearce
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
รีวิวหนัง : Bloodshot – จักรกลเลือดดุ (2020)
.
.
หนังว่าด้วยเรื่องราวของ’เรย์ แกร์ริสัน’ ชายผู้ที่ตายลงและได้รับโอกาสอีกครั้งให้กลายมาเป็นเครื่องจักรสังหาร โดยได้รับหมอบหมายให้ทำภารกิจเสี่ยงตายตามคำสั่งขององค์กร แต่ความทรงจำของเขาก่อนตายได้หายไป… และบางส่วนในจิตใจของเขาก็กำลังรื้อฟื้นความทรงจำนั้น ทำให้เขาได้พบกับความจริงอันน่าสะพรึง..!!
.
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากคอมิคในชื่อเดียวกัน โดยเราอยากชมในส่วนของพล็อตไอเดีย ที่ว่ามีหุ่นขนาดเล็กอย่าง’นาไนต์’อาศัยอยู่ในร่างกายของเขา โดยทำหน้าที่ฟื้นฟูเยียวยาขั้นสูง ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ทำให้เขากลายเป็นจักรกลสังหารที่อมตะ ซึ่งช่วงแรกถึงกลางเรื่องเนี่ยเราชอบพล็อตมันมากเลยนะ ดูมีชั้นเชิง แต่พอหลังจากเฉลยปมหลักไปแล้วเนี่ย มันก็เละเทะไปหมดเลย / ช่วงแรกของหนังโคตรให้ฟีลลิ่งเหมือนดู Fast & Furious อยู่เลย แต่เป็นภาคแยกของดอมต่างหาก55555 คือ’วิน ดีเซล’แกสลัดลุคนี้ออกไม่ได้เลย ทั้งคาแร็คเตอร์ทั้งอะไร คือแกแทบไม่ได้เปลี่ยนพื้นเพของตัวละครเลย ทำให้มันไม่มีภาพจำที่ชัดเจน ก็คือตลอดทั้งเรื่องถ้าจะให้คิดว่าเป็นดอมมันก็ได้นะ 55555
.
พูดถึงในส่วนของฉากแอ็คชั่น คือเดินออกมาก็ Slow Motion วิ่งทีก็ Slow Motionnn กำลังจะง้างหมัดก็ Slow Motionnnnnn จะต่อยทีก็ Slow Motionnnnnnnnnnn คือซีนแอ็คชั่นทั้งซีนคือมีแต่ฉากสโลว์ไปหมด โสลว์จนเอื่อย โสลว์จนเมื่อยอะ โสลว์จนหายลุ้นแล้วเหนื่อยแทน แล้วมันเป็นอย่างงี้ทั้งเรื่อง ฉากแอ็คชั่นสู้กันเดือดๆ ก็ไม่ค่อยจะมี แต่หนังดันไปโฟกัสกับภาพช็อตเท่ๆ วินดีเซลโดนยิงปากทะลุ นาไนต์มาช่วยรักษา ภาพอย่างสวยยยย เอ้า! โสลววววว์…. วินดีเซลเดินออกมาจากควัน เอ้า! สโลว์ได้อีกกกกกกก…. มันก็เลยไม่ค่อยมีฉากต่อสู้ที่มันส์ๆ เพราะหนังไปเน้นกับซีนที่สวยๆ แทน แล้วด้วยความที่มันโสลว์จนเป็นหอยทากแล้วเนี่ย ก็เลยทำให้ฉากแอ็คชั่นมันนานโดยใช่เหตุ เสียเวลาไปกับฉากโสลว์เยอะมาก แต่สู้จริงๆ ดันไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แปปๆ จบง่ายๆ เลย คือแบบ.. พี่เอ๊ยยยย พี่เอา Air Time ที่สโลว์ไปคิดฉากสู้เพิ่มดีกว่ามั้ย คือถ้าฉากสู้มันเจ๋งเดี๋ยวมันก็เท่เองแหละ หรือถ้าพี่อยากโสลว์จริงๆ ก็โสลว์ได้ ผมไม่ว่าเลยยยยย แต่พี่เล่นโสลว์ถี่ขนาดนี้คือพักก่อนนนน นอกจากจะบู๊น้อยแล้วยังบู๊หนืดอีก ไม่ได้เลยยยยย…
.
ซึ่งอย่างที่บอกไปครับ หลังจากที่หนังมันเฉลยปมบางอย่างที่สำคัญไปแล้ว หนังมันก็ไม่น่าสนใจอีกเลย (ซึ่งโชคดีมากที่ผมไม่ได้ดูตัวอย่าง เพราะตัวอย่างค่อนข้างโคตรสปอยล์เนื้อเรื่องเลย ถ้าผมดูไปเนี่ยผมคงไม่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้อีกต่อไปเลย) กลายเป็นหนังทั่วๆ ไป ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ ไม่โดดเด่น จะเรียกว่าหนังแอ็คชั่นก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ไม่สุด เหมือนกับว่านี่เป็นหนังที่โชว์ความเท่ของตัวดาราที่อัดผู้ร้ายด้วยกล้ามโตๆ เป็นมัดๆ มากกว่าที่จะเน้นไปที่ตัวเนื้อหาซะมากกว่า ก็นั่นแหละครับ… / แต่ตัว CG สวยดีนะ แรกๆ เราว่าเอฟเฟกต์นาไนต์มันก็เท่ดีแหละ แต่หลังๆ พอโชว์เยอะๆ จนหมดความเห่อ มันเลยกลายเป็นธรรมดาไปเลย เอาเป็นว่าถ้าใครอยากหาหนังแอ็คชั่นมันส์ๆ เลือดสาด เรื่องนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์ครับ แต่ถ้าใครอยากไปดูดาราอย่าง วิน ดีเซล, ไอซ่า กอนซาเลซ ก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าไม่คุ้มค่าถ้าจะไปหาความบันเทิงแบบขั้นสุด และตัวหนังที่โปรโมทว่ามันเป็นซูเปอร์ฮีโร่นี่ก็ออกจะเกินจริงไปหน่อยครับ ถือว่าเรื่องนี้เราผิดหวังเลยล่ะครับ แต่ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูกันได้ครับ
.
คะแนน : 5 / 10
.
โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ โปรดอ่านไว้เพื่อประกอบกับการตัดสินใจ หรือใครที่ดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเข้ามาพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ
รีวิวหนัง Bloodshot จักรกลเลือดดุ (2020)
————————————————————
สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ดูมาจนได้ ใน #TrueID กับหนังเรื่อง Bloodshot จักรกลเลือดดุ จากค่าย Sony Pictures ที่ดัดแปลงมาจาก Comic เห็นใครๆ ก็ให้คะแนนน้อยกับเรื่องนี้ มีความสงสัย เลยต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ซึ่ง Bloodshot นี้ถือเป็นการเปิดตัวซุปเปอร์ฮีโร่ของจักรวาล Valiant เลยนะ หนังเข้าไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ก็ต้องติดพิษโควิด19 แต่หลังจากที่มีมาตรการคลายล็อคสถานการณ์โควิด19 เป็นระยะๆ โรงภาพยนตร์ก็กลับมาเปิดให้บริการได้ หนังเรื่องนี้ก็ต้องขอกกลับมาโกยรายได้กันต่อในเดือนมิถุนายน
หนังเริ่มต้นด้วย เรย์ ที่รับบทโดยพี่วิน ดีเซล ทหารสหรัฐที่ไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย และสามารถช่วยเป้าหมายได้สำเร็จ แต่แล้วเขาก็ถูกฝ่ายตรงข้ามตามมาจัดการจนเสียชีวิต จากนั้นเขาก็ตื่นมาเจอกับดอกเตอร์ฮาร์ติ้ง แห่งองค์กร RST ผู้ชุบชีวิตให้เขาฟื้นจากความตาย ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า นาไนต์ ให้ไหลเวียนเป็นเลือดอยู่ในร่างกายของเขา ซึ่ง นาไนต์ สามารถรักษาการบาดเจ็บทางร่างกายได้ ฟื้นตัวได้เร็ว และช่วยให้เรย์มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ เกริ่นแค่นี้ ก็เห็นถึงความฉากแอ็คชั่นแล้วใช่ไหม พล็อตเรื่องที่เหลือก็ต่อสู้ๆๆ บู๊สนั่นลั่นจอ หนังก็สร้างปมให้ไล่ล่าค้นหาความจริงอะไรกันไป
————————————–
หนังสนุกดีนะ แค่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ พระเอกเก่ง บวกกับความมีนาไนต์ในตัว ก็ทำให้พลังสุดขั้วเข้าไปอีก พี่แกสู้แบบไม่กลัวตาย ลุยแหลก พล็อตเรื่องเดาไม่ยาก ทุกอย่างง่าย ลงล็อคไปหมด ทำให้เรื่องนี้มีจุดขายที่พี่วิน ดีเซล กับฉากแอ็คชั่นเท่านั้น แต่ก็ใส่มาไม่เยอะจุใจเท่าไหร่
เรื่องของภาพ CG ก็สวยใช้ได้ ฉากที่ชอบมากที่สุดคือตอนที่ดร.ฮาร์ติ้ง เข้าระบบไปเคลียร์ใจในระบบประสาทของเรย์ ฉากค่อยๆ เปลี่ยนซ้อนๆ กันไป เนียนตา สวยงามดี จนต้องตั้งใจดู
ส่วนตอนที่นาไนต์กำลังซ่อมแซมร่าง หรือตอนที่ถูกยิงก็จะมีฝุ่นๆ ร่างฟุ้งกระจาย แล้วก็กลับมารวมร่างกัน ก็สวยดี shot พวกนี้ให้อารมณ์เหมือนกำลังดูคนเหล็กเหมือนกันนะ นอกจากนี้ยังมีบางซีน (สั้นๆ) ที่รู้สึกคล้ายกับ Edge of Tomorrow กับ Taken อยู่หน่อยๆ 555 คงเพราะบังเอิญไปคล้ายเรื่องนั้นเรื่องนี้ เลยไม่รู้สึกแปลกใหม่
ใครที่ชอบดูฉากแอ็คชั่น ก็คิดว่าพอดูได้นะ ถือว่าผ่อนคลายจากความเครียดจากการเรียน การทำงาน ก็แล้วกัน
ครั้งนี้ได้เห็นพี่วินเล่นหนังเรื่องอื่นนอกจากหนังตระกูล Fast บ้างก็ดี จะได้เปลี่ยนอารมณ์จากความเป็น ดอมินิก ทอเร็ตโต้ บ้าง เหมือนตอนที่เล่นเรื่อง Pacifier ที่เขาเล่นเป็นพี่เลี้ยงเด็กจำเป็น เรื่องนั้นบทบาทฉีกออกไปเลยยังดีกว่า ทำให้ไม่ติดภาพกับบทเก่า ดูมีความมิ้งมิ้ง กุ๊กกิ๊ก คิกคาปู้ เพราะช่วงหลังๆ ภาพจำของพี่วินในเรื่อง Fast เยอะมาก เริ่มจะเบื่อ
*************************
สำหรับเรื่องนี้เราให้ 7 คะแนน คือเนื้อเรื่องไม่ได้ด้อย แค่มันไม่แตกต่าง ฉากแอ็คชั่นพอขายได้ สนุกดี อยา
รีวิว Bloodshot จักรกลเลือดดุ
อนาคตของเราไม่สามารถถูกกำหนดด้วยอดีตได้
เป็นหนังที่บู๊กันได้มันส์มาก ยิ่งพระเอกของเราได้รับการอัพเกรด แบบที่เห็นในตัวอย่างแล้วนั้น บอกได้เลยว่า “ไร้เทียมทาน” จะเรียกว่าเป็นอมตะก็คงไม่ไกลจากความจริงนัก เพราะจากที่เห็นในหนังตัวอย่าง(และหนังจริง) พระเอกสามารถรักษาตัวเองได้ทันทีที่ได้รับการบาดเจ็บ
แต่ถ้าจะมาเสพเนื้อเรื่อง อาจจะผิดหวังได้ เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรซับซ้อน พระเอกโดนทำร้าย ไปแก้แค้น รู้เรื่องราวชีวิต แก้ปม แก้แค้น แฮปปี้เอนดิ้ง แต่การบู๊ต่างๆ รับรองว่ามันส์สะใจแน่นอน. ยิ่งถ้าได้ดู 4DX น่าจะยิ่งเพิ่มอรรถรสมากขึ้น (เสียดายที่ดูระบบปกติ) คอหนังแอ็คชั่นห้ามพลาด
ให้ 7.5/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Crimes of Fashion Killer Clutch (2024)
Killing for Extra Credit (2024)
6.3