ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2024 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix
บาคาร่า ออนไลน์
สล็อตเว็บตรง

Billy Lynn s Long Halftime Walk (2016) บิลลี่ ลินน์ วีรบุรุษสมรภูมิเดือด

3 คะแนน

ตัวอย่าง

Billy Lynn s Long Halftime Walk (2016) บิลลี่ ลินน์ วีรบุรุษสมรภูมิเดือด

Billy Lynn s Long Halftime Walk (2016) บิลลี่ ลินน์ วีรบุรุษสมรภูมิเดือด

เรื่องย่อ

บิลลี่ ลินน์ วัย 19 ปี ถูกนำตัวกลับบ้านเพื่อทัวร์ชัยชนะหลังจากการสู้รบในอิรัก ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับทีมของเขาผ่านการย้อนเหตุการณ์ โดยเปรียบเทียบความเป็นจริงของสงครามกับการรับรู้ของอเมริกา

ผู้กำกับ

  • Ang Lee

บริษัท ค่ายหนัง

  •  TriStar Pictures
  • Studio 8
  • LStar Capital
  • Film4
  • Bona Film Group
  • The Ink Factory
  • Marc Platt Productions

นักแสดง

  • Joe Alwyn
  • Kristen Stewart
  • Chris Tucker
  • Garrett Hedlund
  • Makenzie Leigh
  • Vin Diesel
  • Steve Martin

โปสเตอร์หนัง Billy Lynn s Long Halftime Walk (2016) บิลลี่ ลินน์ วีรบุรุษสมรภูมิเดือด

Billy Lynn's Long Halftime Walk (2016) - IMDb

Billy Lynn's Long Halftime Walk | Full Movie | Movies Anywhere

Prime Video: Billy Lynn's Long Halftime Walk

รีวิวหนัง

สมาชิกหมายเลข 762528

[Movie Review] Billy Lynn’s Long Halftime Walk – เมื่อบ้านไม่ใช่บ้านอีกต่อไปแล้ว by ตั๋วหนังมันแพง

[หนังโรงเรื่องที่ 164] Billy Lynn’s Long Halftime Walk – เมื่อบ้านไม่ใช่บ้านอีกต่อไปแล้ว ; (Ang Lee, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : A+++ (จากสเกล D-A)

**มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญเล็กน๊อยส์

เรื่องย่อ : เรื่องราวของ บิลลี่ ลินน์ (Joe Alwyn) หนุ่มน้อยวัย 19 ปี และสหายของเขาจากกองร้อยบราโว่อันโด่งดังจากสมรภูมิอิรักและถูกเชิญไปเดินสายโชว์ตัวทั่วประเทศในฐานะ ‘ฮีโร่ของชาวอเมริกัน’ .. ซึ่งระหว่างการเดินสายพบปะมวลชนนั้น บิลลี่และพรรคพวกก็สัมผัสได้ถึง ‘ความแปลกแยก’ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาและคนปกติทั่วไป

ขอสารภาพบาปว่าตอนแรกไม่ได้คิดจะดูเรื่องนี้เลยจริงๆเพราะส่วนตัวแล้วเอือมๆกับหนังสไตล์ทหารอเมริกันที่ชอบยัดเยียดความเป็น patriotism เข้ามาเยอะๆจนเลี่ยนแล้วเลี่ยนอีก แต่พอดูจบแล้วก็ต้องบอกเลยว่า ‘ประทับใจ’ กับลีลาการเล่าเรื่องที่เวิร์กและการคุมโทนที่เหนียวแน่นมากๆ เรียกได้เลยว่าถ้าพลาดไปจริงๆนี่คงเสียดายตายแน่ๆ

เราจะได้เห็นเรื่องราวผ่านมุมมองของเด็กหนุ่มทหารผ่านศึก ‘บิลลี่’ และเพื่อนร่วมหน่วยบราโว่กับบทบาทซุปเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวอเมริกันที่ใครเห็นก็ต้องเข้ามายกย่อง-ขอบคุณ, เครื่องแบบเต็มยศของพวกเปรียบเสมือน ‘แบรนด์’ ยอดนิยมที่ใครๆที่เห็นต่างก็คลั่งไคล้–ความเป็นชาตินิยมได้พุ่งถึงจุดสูงสุดจนพวกเขาถูกใช้เป็นแค่วัตถุดิบส่วนหนึ่งของงานกีฬาอเมริกันฟุตบอลและโชว์คั่นเวลาอันโด่งดังของเท็กซัสเท่านั้น

ประเด็นแรกที่ชอบก็คือการที่หนังเลือกที่จะหยิบจับ ‘ความรู้สึกผิดแผก’ ของบิลลี่และพรรคพวกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักของเรื่อง–การกลับมาบ้านเกิดของบิลลี่ไม่ได้ให้ความรู้สึก ‘เหมือนบ้าน’ อีกต่อไปแล้ว ทั้งความอึดอัดที่เกิดขึ้นจากปากเสียงเล็กๆน้อยๆของคนในครอบครัว, การถูกดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ และการถูกคาดหวังในสิ่งที่ตนเองไม่ได้เป็นจากคนรอบข้าง มันกลายเป็นความซับซ้อนที่บิลลี่ไม่เข้าใจอีกต่อไปแล้ว

หรือแม้แต่ในสายตาคนปกติทั่วไป ที่มองพวกเขาเป็น ‘บางสิ่ง’ ที่น่าเชิดชูจนน่าขนลุก ทั้งยังมองการสังหารศัตรูในสนามรบว่าเป็นการกระทำที่สูงส่งราว จนสร้างความรู้สึก ‘กระอักกระอ่วน’ ขึ้นมา ซึ่งจะว่าไปมันก็คือการนำเสนอความรู้สึกในมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างพลเมืองอย่างเราและนายทหารที่ไม่สามารถ ‘fit in’ เข้าไปในสังคมออกมาได้อย่างแม่นยำจนน่าขนลุก ซึ่งหนังก็เล่าเรื่องในประเด็นเล็กๆให้ขยายความออกมาได้ดีจนน่าชื่นชม

ความรู้สึกเทิดทูนบูชาที่เห็นได้ชัดอย่างนึงก็คือทางฝั่งตัวละครนางเอก(?)อย่างเฟย์ซัน (Makenzie Leigh) สาวเชียร์ลีดเดอร์ที่เจอกับบิลลี่แค่แว้บเดียวก็หลงรักหัวปักหัวปำชนิดโงหัวไม่ขึ้นจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ขึ้น ซึ่งจากคำพูดคำจาของเธอก็จะชี้ให้เห็นถึงความเป็น ‘ปอมปอม-คาโทลิคเกิร์ล’ ทั่วๆไปที่หลงรักบิลลี่ในฐานะ ‘ฮีโร่นายทหาร’ ที่ช่วยกอบกู้ประเทศ … ความตลกร้ายก็คือแววตาของเธอที่เปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อบิลลี่พูดทำนองว่าจะตนนั้นอาจจะเลิกเป็นทหาร เชื่อว่าทุกคนคงสังเกตเห็นถึง ‘ความคาดหวัง’ ในแววตาที่เด็กสาวอยากจะให้พระเอกเป็นทหารที่เธอเทิดทูนบูชาต่อไปเรื่อยๆ … อนิจจา ความหลงไหลของเธอไม่ใช่ตัวของบิลลี่ แต่กลับเป็นหัวโขนที่เขาสวมไว้อยู่ต่างหาก

ความสะเทือนใจเกิดขึ้นเมื่อเหล่าทหารหาญทั้งหลายเริ่มรู้สึกว่าการกลับมาแผ่นดินเกิดนั้น ไม่ถือว่าเป็น ‘บ้าน’ อีกต่อไปแล้ว ทั้งสังคมที่วุ่นวาย, การเมืองที่น่ารังเกียจ และความยุ่งเหยิงของโลกวัตถุนิยมที่เกินกว่าจะรับไหว จนพวกเขาเอ่ยปากขึ้นมาเองเมื่อตอนที่ต้องกลับไปประจำการที่อิรักว่า “กลับบ้านกันเถอะ” .. ราวกับว่าสังคมไม่มีที่ว่างให้กับคนหลงยุคแบบพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

ในส่วนของมุกตลกร้ายที่หนังจัดใส่หนักใส่เต็มให้เต็มที่ โดยเฉพาะฉากหนึ่งที่ตัวเอกแหละจ่าไดม์ปฏิเสธทำสัญญาหนังกับนายทุน เนื่องจากนายทุนต้องการเอาเรื่องราว ‘ธรรมดาๆ’ ของๆพวกเขาไปเติมแต่งแต้มให้เป็นหนังเชิดชูความเป็นอเมริกันโดยไม่ได้แยแสในข้อเท็จจริง จนสุดท้ายผู้จัดการส่วนตัวอย่าง ‘อัลเบิร์ต’ (Chris Tucker) ก็ปลอบทำนองว่า “บางทีเราอาจจะลองไปหาทุนจากเมืองจีนแทนก็ได้นะ” .. ซึ่งความพีคก็คือหนังเรื่องนี้ดันเป็นหนังทุนจีนจริงๆซะด้วย! ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าหนังทั้งเรื่องนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงของชีวิต ‘บิลลี่ ลินน์’ กับวิถีทุนนิยมที่น่ารังเกียจ จนกลายมาเป็นหนังเสียดสีความเป็นอเมริกันอย่างสุดขั้วแบบนี้ก็เป็นได้

ในแง่ของตัวเอกอย่าง โจ อัลวิน ก็สอบในบทบาทของพลทหารวัยกระเตาะอย่าง ‘บิลลี่ ลินน์’ ได้ผ่านฉลุย ทั้งแววตาและสีหน้าที่สื่อความรู้สึกกังขาในจุดยืนตัวต่อสังคมที่ชวนให้เราคิดตาม และการแสดงที่ทำให้เราเชื่อได้จริงๆว่าตัวเขาคือเด็กอายุ 19 ที่ยังไม่ประสากับวิถีของโลกจริงๆ

ยิ่งเมื่อแพคคู่มากับตัวละครโปรดของผู้เขียนอย่าง ‘จ่าไดม์’ (Garrett Hedlund) แล้วยิ่งเวิร์กใหญ่ ซึ่งขอบอกว่าผู้เขียนรักตัวละครนี้มากกกกกกกก คือมันมี element ของความเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตสุดๆ แต่ในขณะเดียวกันอารมณ์ตลกร้ายที่มีเขี้ยวเล็บไม่แพ้กัน ไปๆมาๆหนังเรื่องนี้อาจจะเวิร์กได้เพราะมีตัวละครคนนี้อยู่นี่แหละ เชื่อว่าถ้าใครดูหนังมาแล้วก็คงจะรักเฮียไดม์ไม่แพ้กัน

สรุปคือ Billy Lynn’s Long Halftime Walk ก็เป็นหนังที่สอบผ่านได้ทุกความคาดหมาย และตรงกับจุดประสงค์ของชื่อเรื่องในแง่ของ ‘การผจญชีวิตของคนปกติ’ ของนายทหารธรรมดาๆอย่าง บิลลี่ ลินน์ .. ที่ยาวนานจนแสนจะเกินทน ทั้งยังมีตัวละครนำที่มีเสน่ห์ และข้อความของหนังที่สื่อออกมาได้ชัดเจน ถ้าไม่ติดขัดอะไรก็อยากให้ลองไปดูกันครับ รับรองว่าคุ้มค่า ตั๋วไม่แพง ยิ้ม

tonty

มินิรีวิว : billy lynn’s long halftime walk (บิลลี่ ลินน์ วีรบุรุษสมรภูมิเดือด)

***เรื่องย่อ***

หลังจากมีแพร่ภาพการช่วยจ่าทหาร ทำให้หน่วย bravo ดั่งไปทั่ว พวกเขาถูกเชิญมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ความกล้าหาญ ซึ่งการเชิญมาไม่ได้เป็นมิตรอย่างที่พวกเขาคิด มุมมองชีวิตของทหารในสงครามกับมุมชีวิตของคนปกตินั้นจะต่างกันอย่างไร

***ความสนุก***

หนังสไตล์ชิวดูได้เรื่อย ไหลๆ เพราะเน้นถ่ายทอดออกอย่างเป็นจริง หนังทำให้เราเห็นความเป็นจริงๆหลายอย่าง การคิดการตัดสินใจ มุมมองที่ต่างกันของทหารในสงครามกับของคนปกติซึ่งเป็นไฮไลท์ของเรื่องเลย

สรุป : หนังให้ความรู้สึกกลางๆ เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์

spencergrande6

7/10
นี่เป็นภาพยนตร์ที่ดี
นี่เป็นภาพยนตร์ที่ดี มีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ใช่เรื่องราวอย่างที่คนอื่นคิด ความจริงง่ายๆ ก็คือ นี่เป็นภาพยนตร์ต่อต้านสงครามที่มีการแสดงที่ยอดเยี่ยมและบางครั้งก็เป็นภาพยนตร์ที่ดึงดูดใจอย่างมาก แต่บ่อยครั้งที่ภาพยนตร์เหล่านี้กลับถูกทำให้เสียอรรถรสจากความล้มเหลวในการพยายามแสดงเทคโนโลยี บางฉากดูเหมือน “ละครเวที” มากจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดี และแสงก็มักจะสว่างเกินไปจนเรืองแสงมากเกินไป (เหมือนละครสารคดี)

อย่างไรก็ตาม ฉันมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในรูปแบบ 3D Blu-ray และต้องบอกว่านี่เป็นภาพยนตร์ 3D ที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ฉากต่างๆ มากมายมีมิติอย่างเหลือเชื่อ บางครั้งก็ดูโอ่อ่า แต่บางครั้งก็มีไว้เพื่อเล่าเรื่องราว เช่น ตอนที่บิลลี่กลับบ้านแล้วพบว่าโถงทางเข้าทอดยาวออกไปสุดสายตา ชวนให้เขาเข้าไปโอบกอด แต่ก็กลายเป็นกับดักอันมืดมิด ปริศนาสำคัญที่ทำให้เขาต้องคิดสองแง่สองง่ามคือศูนย์กลางของการทำงานภายในของเขา

ดูหนัง ออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Land of Bad (2024) ภารกิจฝ่าแดนดิบ

Long Gone Heroes (2024)

The Boy in the Woods (2023)

Murder Company (2024)

The Thin Red Line (1998) ฝ่านรกยึดเส้นตาย

แสดงความคิดเห็น

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

My Old Ass (2024)
หนังฝรั่ง ซับไทย
หนัง

7.3

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่