ดูหนัง ออนไลน์ War of the Worlds (2005) เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ
War of the Worlds (2005) อภิมหาสงครามล้างโลก ชายธรรมดาคนหนึ่งต้องปกป้องลูก ๆ ของเขาจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวในภาพยนตร์แอ็คชั่นนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวคลาสสิกโดย H.G. Wells Ray Ferrier (Tom Cruise) เป็นนักเทียบท่าที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์หย่าขาดจาก Mary Ann (Miranda Otto) ภรรยาคนแรกของเขาและห่างเหินกับลูกสองคนของเขา Rachel และ Robbie (Dakota Fanning และ Justin Chatwin)
ซึ่งเขาได้รับการดูแลในวันหยุดสุดสัปดาห์ ในการเยี่ยมชมครั้งหนึ่งการดูแลเด็ก ๆ กลายเป็นเรื่องยากขึ้นเล็กน้อยเมื่อหลังจากที่มีพายุแสงแปลก ๆ เข้าโจมตีละแวกของเขาเรย์พบว่ามียานอวกาศหุ่นยนต์รังสีมรณะปรากฏขึ้นใกล้ ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นลูกแรกของทั้งหมด – ออกจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวบนโลก การขนส่งลูก ๆ ของเขาจากนิวยอร์กไปยังบอสตันเพื่อพยายามหาความปลอดภัยที่บ้านพ่อแม่ของแมรี่แอนเรย์ต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้คุ้มครองและผู้ให้บริการที่เขาไม่เคยแต่งงานมาก่อน
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง War of the Worlds (2005) อภิมหาสงครามล้างโลก หนังประเภท Sci-Fi วิทยาศาสตร์ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ดูหนัง ออนไลน์ หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
สตีเว่น สปีลเบิร์ก
บริษัท ค่ายหนัง
- Amblin Entertainment
- Cruise/Wagner Productions
นักแสดง
- ทอม ครูซ
- ดาโกตา แฟนนิง
- จัสติน ชัทวิน
- มิรันด้า ออตโต้
- ทิม ร็อบบินส์
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
หนังโปรดของข้าพเจ้า
ทุกคนน่าจะรู้จักหนังเรื่อง War of the Worlds ที่สปีลเบิร์กกำกับแล้วทอม ครูซแสดงนำ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันสร้างมาจากนิยายปี 1897 บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เราจะหยิบมาพูดถึงในวันนี้คือมันเคยถูกดัดแปลงเป็นละครวิทยุในวันฮัลโลวีนเมื่อปี 1938 โดยออร์สัน เวลส์ ที่ในเวลาต่อมาได้กลายเป็นผู้กำกับ Citizen Kane หนังระดับคลาสสิกชั้นปรมาจารย์แนะนำกันว่าห้ามพลาด โดยละครวิทยุดังกล่าวถูกยกให้เป็นตำนานเพราะทันทีที่มันออกอากาศก็ทำให้ทั่วทั้งเมืองแตกตื่นไปหมดเพราะผู้คนต่างนึกว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินนั้นเป็นเรื่องจริง พูดง่าย ๆ ว่าเกือบทุกคนที่ฟังวิทยุอยู่นั้นเข้าใจว่ามนุษย์ต่างดาวกำลังบุกโลกจริง ๆ !!!
ตำนานที่ลือต่อ ๆ กันมาคือฝูงชนชาวนิวยอร์คนับพันคนต่างแตกตื่นโกลาหลวิ่งออกจากบ้านเพื่อมองหาการต่อสู้บนท้องฟ้า โดยหนึ่งในเทคนิคที่ออร์สัน เวลส์ใช้ในเวลานั้นคือการปลอมวิทยุรายงานข่าวของทหารเพื่อหลอกผู้คนว่าเกิดเหตุการณ์เอเลี่ยนลักพาตัว ทำให้คนฟังวิทยุจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวเกิดความสับสน ยิ่งมาเจอลีลาการเล่าเรื่องใส่อารมณ์เข้าไปเหมือนจริงยิ่งทำให้คนฟังตกใจกว่าเดิมจนหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และที่น่าตกใจคือละครวิทยุดังกล่าวกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในเช้าวันต่อมา
แต่ความจริงที่เขาสำรวจกันภายหลังก็คือมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่ฟัง War of the Worlds อยู่ในเวลานั้น อันที่จริงผู้คนส่วนใหญ่กำลังฟังรายการคอมเมดี้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงที่ออกอากาศพร้อมกันอยู่ต่างหาก โดยข้อพิสูจน์สำคัญอย่างหนึ่งคือบังเอิญว่าคืนนั้นบริษัทสำรวจเรตติ้งคลื่นวิทยุกำลังสุ่มโทรหาผู้คนตามบ้านต่าง ๆ กว่า 5,000 หลังเพื่อสอบถามว่าพวกเขากำลังฟังวิทยุคลื่นไหนอยู่
ซึ่งมีเพียง 2% หรือ 1,000 คนเท่านั้นที่ฟัง War of the Worlds อยู่ ตรงนี้เองเป็นข้อหักล้างว่าตำนานที่ลือต่อ ๆ กันมานั้นโอเว่อร์เกินจริงไปมากทีเดียว รวมถึงข่าวลือที่ลงในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคนที่ตกใจจนกระโดดตึกตาย
และคนที่ฟังรายการจนหัวใจวายก็ไม่มีหลักฐานจากโรงพยาบาลในคืนดังกล่าว กลายเป็นว่าหนังสือพิมพ์คือส่วนหนึ่งที่ใส่สีตีไข่ให้เรื่องราวใหญ่โตเกินจริง อย่างไรก็ตามสถานีตำรวจในคืนนั้นก็ได้รับโทรศัพท์มากขึ้นกว่าปกติ โดยบางส่วนก็โทรมาเพื่อสอบถามว่าจะไปบริจาคเลือดช่วยเหลือคนเจ็บจากเหตุมนุษย์ต่างดาวบุกโลกได้ที่ไหน และบางคนก็โทรมาด้วยความโมโหอย่างมากที่ละครวิทยุดังกล่าวได้ออกอากาศ
ถึงอย่างนั้นผู้คนจำนวนมากก็ยอมรับว่าสคริปต์ War of the Worlds ที่ออกอากาศในคืนนั้นมันเจ๋งมาก สร้างความแตกตื่นได้จริงด้วยเทคนิคต่าง ๆ โดยในปี 1994 ได้มีการเปิดประมูลสคริปต์ดังกล่าวและก็เป็นสตีเวน สปีลเบิร์กที่ประมูลชนะด้วยราคา 24,000 เหรียญ และ 11 ปีต่อจากนั้นเขาก็สร้างเป็นหนังขึ้นมาโดยมีทอม ครูซแสดงนำนั่นเอง.
และถ้าใครสนใจจะลอกเลียนแบบละครวิทยุหลอกลวงประชาชนของออร์สัน เวลส์แล้วล่ะก็ขอให้คิดดี ๆ เพราะเมื่อปี 1949 มีชาวเอกวาดอร์สองคนคือ Leonardo Paez และ Eduardo Alcaraz ได้นำละครวิทยุ War of the Worlds ไปดัดแปลงเป็นภาษาสเปนออกอากาศที่ประเทศเอกวาดอร์ แน่นอนว่าทันทีที่เผยแพร่ออกไปก็สร้างความแตกตื่นอย่างมาก ตำรวจและหน่วยดับเพลิงต่างพากันออกมาทั่วท้องถนนเพื่อพร้อมสู้รบกับเอเลี่ยน
แต่ภายหลังที่พวกเขารู้ว่ามันเป็นแค่นิยายก็กลายเป็นเหตุการณ์จลาจลทันที ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 7 คน โดยในจำนวนนั้นมีแฟนสาวและหลานของ Paez, เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุ, และนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เข้าร่วมประโคมข่าวหลอกลวงว่าเห็น UFO ในวันเดียวกับที่รายการวิทยุออกอากาศ
หนังโปรดของข้าพเจ้า
War of the Worlds (2005)
Genre : Sci-fi, Adventure, Drama, Action, Thriller
Director : Steven Spielberg
Novel : H.G. Wells
Screenplay : Josh Friedman, David Koepp
เรื่องนี้ผมดูครั้งแรกผมเฉย ๆ แต่พอมาดูครั้งที่สองกลับชอบมากขึ้นกว่าเดิมแฮะ
หนัง Sci-fi ระดับถล่มโลก ด้วยชื่อชั้น Spielberg จึงไม่ต้องห่วงเรื่องงาน Visual Effect ที่มีทีมงานชั้นดีจนเข้าชิงออสการ์แต่แพ้ให้กับ King Kong
หนังดัดแปลงจากนิยายของ H.G. Wells ซึ่งเคยถูกทำเป็นหนังปี 1953 ผมยังไม่เคยดูต้นฉบับ แต่ก็บอกได้ว่าเวอชั่นของ Spielberg ก็ยอดเยี่ยมเหมือนกัน
หนังเป็น Sci-fi Adventure ที่มีดราม่าระหว่างพ่อกับลูกสองคนคอยแทรกอยู่เล็กน้อย หนังดูสนุกและน่าเชื่อถือในแง่ของสิ่งมีชีวิตต่างดาวบุกโลก ตอนจบก็เป็นไอเดียที่ดี ฉากต้องลุ้นก็ทำให้ได้ลุ้นจริง ๆ หลายฉากก็เล่นมุมกล้องได้ดีครับ
Spielberg + Tom Cruise เอาอยู่ครับ
Why You Can’t Miss : Sci-fi ถล่มโลกในมือ Spielberg
8/10
Chekie
War of the Worlds (2005) อภิมหาสงครามล้างโลก
”สงครามเอเลี่ยนบุกโลกผ่านมุมมองของมนุษย์ธรรมดาๆ”
ตอนเด็กๆ ผมชอบไดโนเสาร์ ชอบก็อตซิลล่า ชอบซูเปอร์แมน ชอบแบทแมน ชอบเอเลี่ยน
ตอนโต ผมรักไดโนเสาร์ ก็อตซิลล่า ซูเปอร์แมน แบทแมน และเอเลี่ยน
เชื่อมั้ยครับว่า ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปีๆ ผมก็ยังคงตื่นเต้นกับเรื่องพวกนี้ ถ้าวันใดสักวันเราพบว่าไดโนเสาร์ยังคงเหลือรอดในโลกมนุษย์ หรือสักวันเราพบสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว
นึกดูแล้วมันคงจะน่าประหลาดใจพิลึกเนอะถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาตอนเช้าแล้วได้ฟังข่าวว่า ”นาซ่าได้เปิดเผยถึงการมาเยือนโลกมนุษย์ของเอเลี่ยน”
พวกเขาจะมีรูปร่างหน้าตายังไงนะ แล้วจะมาดีหรือมาร้ายนะ
ถ้ามาดีเราอาจจะได้เอเลี่ยนแบบ ”อีที” ที่ดูเป็นมิตร และน่าเอ็นดู แต่ถ้ามาแล้วจอดยานพร้อมอาวุธล้ำเทคโนโลยีล่ะ นึกดูแล้วคงจะวุ่นวายเหมือนหนังที่จะมาพูดถึงในต่อไปนี้นะครับ
War of the Worlds ฉบับปี 2005 เป็นฉบับเดียวที่ผมรู้จักและเคยดู (่ก่อนหน้านี้เคยมีฉบับนิยาย และฉบับหนังโรงปี 1953 ซึ่งผมไม่เคยดู)
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือการกำกับของ ”สตีเว่น สปีลเบิร์ก” และนำแสดงนำโดย ทอม ครูซ กับ ดาโกต้า แฟนนิ่ง (ดาราเด็กดาวรุ่งมากฝีมือ ณ เวลานั้น)
ส่วนเรื่องราวก็ว่าด้วยเรื่องของมนุษย์ต่างดาวบุกโลกเพียงแต่หนังเล่าผ่านมุมมองของ ”เรย์” ที่ต้องดูแลลูกของเขาชั่วคราวในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องด้วยลูกทั้งสองเขาอยู่อาศัยกับแม่ที่เลิกลาไปแล้ว ทำให้เขากับลูกทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร โดยเฉพาะ ”ร็อบบี้” ลูกชายคนโต และยังต้องรับมือกับ ”ราเชล” ลูกสาวคนเล็กที่พร้อมจะแผงฤทธิ์ทุกเมื่อยามไม่ได้ดั่งใจ ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงเวลาที่มีสงครามเอเลี่ยนบุกโลกพอดีอีกด้วย!!!
ถือเป็นหนังที่เล่าถึงความสัมพันธ์พ่อๆลูกๆ โดยมีฉากหลังเป็นสงครามเอเลี่ยน ”เรย์” ผู้เป็นพ่อที่ไม่เคยประสบความสำเร็จกับอะไรเลย ทั้งด้านชีวิตคู่ การงาน และโดยเฉพาะด้านความเป็น ”พ่อ” ไม่เคยรู้เลยว่าลูกต้องการแบบนั้น แบบนี้ แต่เมื่อมาได้รับโอกาสของความเป็น ”พ่อ” ในสถานการณ์บีบบังคับเขาต้องจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง ปกป้องดูแลลูกของเขา และเข้าใจลูกของเขา
ตัดมาที่ฉากสงครามที่เปิดเรื่องมาโดยให้ เอเลี่ยนบุกโลกทำลายเมืองอย่างที่มนุษย์แทบไม่มีทางสู้ ถือเป็นการเปิดเรื่องที่สร้างความสิ้นหวังเป็นอย่างมาก คือเอเลี่ยนในเรื่องมาแบบลึกลับ น่ากลัว และไม่รู้จะต่อกรกับมันยังไง
หนังเดินเรื่องสนุกครับ ฉากตื่นเต้นมาเป็นระยะๆ ต้องลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ จะเอาตัวรอดยังไง และที่ต้องลุ้นมากที่สุดคือ พระเอกมันจะรับมือกับลูกทั้งสองของตนเองยังไง
หนังไม่ได้มีฉากสงครามอะไรมากมาย เพราะหนังเน้นไปที่การเอาตัวรอดกับความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่า
ด้านการถ่ายทำเอฟเฟ็คต่างๆอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย เอามาดูในยุคนี้ก็ยังยอดเยี่ยม การกำกับ การเล่าเรื่องของสปีลเบิร์กก็ยังคงน่าหลงไหลอยู่เสมอและอย่างที่ทราบๆกันสำหรับแฟนหนังของสปีลเบิร์กก็คือ แกมักจะใส่ความสัมพันธ์แนวโหยหาความเป็นครอบครัวเข้าไป ถือเป็นเอกลักษณ์ของแกเลยครับ ด้านนักแสดงหลักขอพูดถึงตัว ”ทอม ครูซ” เรื่องนี้ก็ยังเป็น ”ทอม ครูซ” นั่นแหละครับ คือยังสลัดภาพตัวตนแกไม่ออกจริงๆ เอกลักษณ์เฉพาะตัวแกสูงมาก แต่ก็กลืนไปกับเนื้อเรื่องอย่างไม่ขัดตกบกพร่อง
ส่วน ”น้องดาโกต้า แฟนนิ่ง” ขอบอกตามตรงว่าเรื่องนี้แอบน่ารำคาญครับ แต่ก็เนอะ เล่นได้ดีครับ เธอเป็นนักแสดงที่ผมชอบก็จริง แต่เรื่องนี้ก็สามารถแสดงออกให้คนดูหนักใจแทนพระเอกได้ก็ต้องนับถือฝีมือครับ (อันนี้ถือเป็นคำชม)
อีกคนก็ ”จัสติน แช็ทวิน” ที่แสดงเป็นลูกชายของทอม ครูซอ่ะครับ คนนี้ก็แสดงได้น่ารำคาญไม่แพ้กัน (แต่ในแบบผู้ชายวัยรุ่นนะ) คือจะต่อต้านพ่ออะไรเบอร์นั้น
โดยรวมถือเป็นหนังอีกเรื่องของสปีลเบิร์กที่ผมชอบเลย (เอาจริง ผกก.คนนี้ผมชอบผลงานเขาทุกเรื่องแหละยกเว้นแต่ The BFG) ยังคงดึงเสน่ห์ความเป็น ”สปีลเบิร์ก” มาใช้อย่างไม่เคอะเขิน
เหมือนได้ด้วยเอเลี่ยนในอีกมุมมองของสปีลเบิร์ก
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Tomorrow War (2021) ข้ามเวลา หยุดโลกวินาศ
Pacific Rim (2013) แปซิฟิค ริม สงครามอสูรเหล็ก
Independence Day Resurgence (2016) ไอดี 4 สงครามใหม่วันบดโลก
Independence Daysaster (2013) สงครามจักรกลถล่มโลก
Detective Knight Independence (2023) นักสืบไนท์ วันชาติมหาภัย ภาค 3
100