KUBHD ดูหนังออนไลน์ Mission Impossible 5 (2015) เต็มเรื่อง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 ปฏิบัติการรัฐอำพราง
เรื่องย่อ
Mission Impossible 5 (2015) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 ปฏิบัติการรัฐอำพราง ฮันลีย์หัวหน้าซีไอเอโน้มน้าวให้คณะกรรมการวุฒิสภาปลด IMF ซึ่งอีธานฮันท์เป็นสมาชิกคนสำคัญ Hunley ระบุว่า IMF บ้าบิ่นเกินไป ตอนนี้ฮันต์เดินตามองค์กรโกงที่ไร้เงาและอันตรายที่เรียกว่า Syndicate Mission: Impossible – Rogue Nation เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นสายลับอเมริกันปี 2015 ที่เขียนบทและกำกับโดย Christopher McQuarrie จากเรื่องราวของ McQuarrie และ Drew Pearce เป็นภาคต่อของ Mission: Impossible – Ghost Protocol (2011) และภาคที่ 5
ของภาพยนตร์ซีรีส์ Mission: Impossible นำแสดงโดยทอม ครูซในบทบาทหลัก ได้แก่ เจเรมี เรนเนอร์, ไซมอน เพ็กก์, วิง เรมส์, รีเบคก้า เฟอร์กูสัน, ฌอน แฮร์ริส และอเล็ก บอลด์วิน เรื่องราวเป็นไปตามสายลับ Impossible Missions Force อีธาน ฮันท์ (ครูซ) และทีมของเขา ซึ่งหลังจากการยุบวงและการตามล่าของสำนักข่าวกรองกลางของฮันท์ จะต้องต่อสู้กับเดอะซินดิเคทอย่างลับ ๆ ล่อๆ ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายสากลที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาลอันธพาลจากทั่วโลก
ข้าราชการ IMF อีธาน ฮันท์ ยับยั้งการขนส่งก๊าสประสาทที่ถูกย้ายที่โดย Syndicate ซึ่งเป็นกรุ๊ปลับของหน่วยปฏิบัติงานภาคสนามอันธพาลจากหน่วยข่าวกรองต่างๆที่เขาติดตามอยู่ ถัดมา ที่สถานี IMF ในลอนดอน แนวทางในการซักถามของอีธานมาจาก Syndicate เอง ซึ่งชี้ว่าเขารวมทั้ง IMF ออมชอม ในช่วงเวลาที่สลบสลบ เขาถูกบังคับให้มองชายผมบลอนด์ใส่แว่นตาประหารข้าราชการสถานี
ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อลัน ฮันลีย์ ผู้อำนวยการ CIA ชักพาคณะกรรมการวุฒิสภาให้ปลดปฏิบัติหน้าที่และก็นำ IMF ไปสู่ CIA เนื่องจากว่าสถานะการณ์ทำลายที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในรัสเซียa สมัยก่อนสาย IMF Benji Dunn รวมทั้ง William Brandt เริ่มดำเนินงานให้กับ CIA ภายใต้การตรวจตรารวมทั้งความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เหตุเพราะ Hunley สงสัยเกี่ยวกับการมีอยู่ของ Syndicate
ภาพยนตร์แอ็คชั่น มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 ปฏิบัติการรัฐอำพราง อีธานตื่นมาในห้องทรมาทรกรรมที่นำโดยสมัยก่อนข้าราชการเคจีบี เจนิก “หมอกระดูก” วินเตอร์ ด้วยความช่วยเหลือเกื้อกูลจากหญิงสาวลึกลับ เขาก็เลยหลบซ่อนไปได้ หกเดือนถัดมา ฮันต์ ซึ่งเป็นผู้จำต้องหลบซ่อนตามหมายตัว ได้ส่งเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ Syndicate ไปให้ Benji อย่างลับๆและก็เตรียมพร้อมตั๋วเข้าชม Turandot ซึ่งแสดงโดย Vienna State Opera เมื่อเบนจี๋มาถึงเวียนทุ่งนา อีธานขอให้เขาช่วยตามหาชายผมบลอนด์ที่ฆ่าข้าราชการสถานีกองทุนการเงินระหว่างประเทศในลอนดอน
ที่โรงละครโอเปร่า พวกเขาพบกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเปิดเผยในภายหลังว่าสายลับ MI6, อิลซา เฟาสท์ และเจ้าหน้าที่ซินดิเคทอีกหลายคนที่นั่นเพื่อลอบสังหารนายกรัฐมนตรีแห่งออสเตรีย อีธานป้องกันการถูกโจมตีและหลบหนีไปพร้อมกับเฟาสท์ เพียงเพื่อที่จะได้เห็นอธิการบดีถูกสังหารด้วยระเบิดรถยนต์ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ซินดิเคทไล่ล่า อีธานและเบนจิถูกบังคับให้ออกจากเฟาสท์เพื่อปกป้องที่กำบังของเธอ เนื่องจากอยู่ใกล้การลอบสังหารอธิการบดี ฮันลีย์จึงสั่งให้ฝ่ายกิจกรรมพิเศษจับตัวหรือประหารชีวิตทั้งอีธานและเบนจิหากจำเป็นเมื่อพบเห็น
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังฝรั่ง เรื่อง Mission Impossible 5 (2015) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 ปฏิบัติการรัฐอำพราง หนังประเภท Thriller ระทึกขวัญ เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูหนังออนไลน์ 4k พากย์ไทย ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังออนไลน์ 4k ดูหนังชัดชนโรง หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังออนไลน์ หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนังออนไลน์ ชัด ดูหนัง 2023 Moviehd3 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
ผู้กำกับ
คริสโตเฟอร์ แม็คควอรี่
บริษัท ค่ายหนัง
- สกายแดนซ์โปรดักชันส์
- โอดิน
- ไชนามูฟวีแชนแนล
- อาลีบาบาพิคเจอส์
- แบดโรบอทโปรดักชันส์
นักแสดง
- ทอม ครูซ
- เจเรมี เรนเนอร์
- ไซมอน เพกก์
- วิง เรมส์
- รีเบกกา เฟอร์กูสัน
- ฌอน แฮร์ริส
- อเล็ก บอลด์วิน
โปสเตอร์หนัง
รีวิวหนัง
ขอบสหนัง
Mission Impossible 5 (2015) มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 ปฏิบัติการรัฐอำพราง
จำไม่ได้แล้วว่าเนื้อหาของหนังในภาคนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะมันก็นาน 5 ปีได้แล้วละ พอมีโอกาสได้ชมผ่าน Netflix ในระหว่างที่ป่วย ก็รู้สึกได้ว่าแฟรนไชส์นี่ยิ่งสร้างภาคต่อมากขึ้นเท่าไหร่ หนังก็ยิ่งไต่ระดับความสนุก ความระห่ำ ทวีคุณเพิ่มเข้าไปอีก ราวกับว่า ทอม ครูซ พร้อมอุทิศและเสี่ยงตายไปกับทุกภารกิจเพื่อให้ภาพที่ออกมาสมจริง มันเลยพีคกว่า 4 ภาคกว่าหน้านี้และดูจะครบเครื่องตั้งแต่จุดสตาร์ทของหนังจนจบเรื่อง
ข้อดี
Rogue Nation คือการนำเรื่องราวที่ ทิ้งปมไว้ในตอนท้ายจากภาคก่อน เกี่ยวกับองค์กร Syndicate มาสานต่อ ผ่านเรื่องราวของ อีธาน ฮันท์ ที่ต้องกำจัดองค์กร Syndicate องค์กรสายลับสุดโหด ที่ถูกสร้างฝึกมาแบบเดียวกับสายลับทั่วไป แต่เป้าหมายนั้นตรงข้ามกันสิ้นเชิง
เนื้อหาและแนวทางในภาคนี้ หนังเดินทางกลับไปเป็นงานแอ็คชั่นแบบเก่าที่ให้อารมณ์เหมือนในภาคแรกๆ ซึ่งก็ได้ผลและตรงจุดเป็นอย่างมาก ทำให้มิชชั่นภาคนี้กลายเป็นอีกหนึ่งภาคที่น่าจดจำ มันไม่ได้เว่อเลยสักนิด แต่ให้ความระห่ำที่สุด ตั้งแต่ตามติดแฟรนไชส์เรื่องนี้มา เป็นหนังแอ็คชั่นสายลับที่ต้องมาแก้เกม รับมือตัวร้าย ศัตรูที่ไม่น่าไว้วางใจอยู่ตลอดเวลา
เมื่อบทหนังทำได้ดีสร้างปมให้คลี่คลายสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของฉากแอ็คชั่นของตัวละครการเอาตัวรอด เออแม่งสนุกดีวะ น่าจดจำในหลายๆซีน ในหลายๆโลเคชั่น เวียนนา, ลอนดอน, โมร็อคโค เล่นเอาซะลุ้นเหนื่อย เพลียแทน เราได้เห็นการออกแบบหลายๆซีนที่เสี่ยงตาย จนแทบลืมหายใจ เพราะพวกเขาเล่นจริงถ่ายทำกันจริงเพื่อให้ภาพปรากฏสู่สายตาคนดูออกมาดูจริงจัง ทิศทางของหนังจะดูแข็งแกร่งกว่า 4 ภาคแรก และสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างภาค Fall Out ในเวลาต่อมา
นักแสดง
ทอม ครูซ คุณภาพยังเหลือล้นแข็งแรงไม่หมดไฟ พิสูจน์ได้จากการที่เขาเล่นซีนแอ็คชั่นเองขายฝีมือ ลีลา ความเร้าใจ เขาแสดงออกถึงตัวละครอีธาน ฮันต์ออกมาน่าสนใจ แฟนหนังก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการเสี่ยงตายของเขาในหนัง
รีเบคก้า เฟอร์กูสัน โผล่มาแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวสาวนักบู๊ เหมาะสมกับบท มีเสน่ห์ มีความลึกลับ น่าค้นหา ตัวละครที่แม่งคาดเดาไม่ถูก แต่โดดเด็นมากในหนังภาคนี้
ไซมอน เพกก์ ทีมงานฮันต์ที่ลงภาคสนามมากขึ้น บู๊มากขึ้น สร้างสีสันขยันขโมยซีนกลายเป็นตัวละครที่เข้ามาทำให้เรื่องราวจริง และดูผ่อนคลายไปในทิศทางเดียวกัน
ข้อเสีย
หนังดีมากแล้วจนไม่รู้จะไปตำหนิอะไรทั้งสิ้นเลยละ
สรุป
แค่ฉากแอ็คชั่นในหนังก็คุ้มค่าแล้วละ อัดแน่นจัดเต็ม ทอม ครูซ ไม่กลัวความตาย พร้อมเสี่ยงตาย เพื่อให้ภาพสมจริง หนังภาคนี้ยิ่งทำให้ผู้คนต่างเทใจรอชมผลงานชิ้นใหม่ของพวกเขาอยู่ไม่มากก็น้อย
หนังมีให้ชมแบบถูกลิขสิทธิ์แล้วในเวลานี้ผ่าน Netflix
หนังโปรดของข้าพเจ้า
Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) | บทหนังสายลับโตขึ้นอีกขั้น แต่แอ็คชั่นด้อยลงจากเดิม
สิ่งที่เรารู้สึกว่าอิมพอสซิเบิ้ลมากที่สุดคือบทหนังมันเข้าสู่โลกสายลับเต็มตัวชนิดที่ว่าแฟรนไชส์นี้ไม่เคยทำได้มาก่อน ถ้าบทหนังนี้ไปเป็นหนังอินดี้นักแสดงโนเนมรับรองว่าขึ้นหิ้งได้สบาย ๆ เพราะมันเป็นโลกจารชนที่ไม่อาจไว้วางใจใครได้จริง ๆ แต่พอเป็นนักแสดงดังมีบทบาทค่อนข้างชัดเจน จึงทำให้ระดับการเล่นกับความหวาดระแวงมันลดลงเหลือเพียงไม่กี่ตัวละคร
เรื่องย่อก็คือภาคนี้ IMF โดนปิดตัวลง ‘แบรนด์ท’ (Jeremy Renner) ต้องไปทำงาน CIA ในขณะที่ ‘อีธาน ฮันท์’ (Tom Cruise) ต้องออกภาคสนามสายลับเพื่อเปิดโปงการมีอยู่ขององค์กรซินดิเคทซึ่งไว้ชีวิตเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในวังวนของเกมจารชน
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลยคือภาคนี้เล่นประเด็นคล้าย Skyfall คือตั้งคำถามถึงตัวตนของหน่วย IMF ว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งคำถามนี้มันน่าสนใจเพราะว่าอเมริกาต้องฝากความมั่นคงของประเทศไว้ในมือของหน่วยงานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ภารกิจแต่ละภาคคือการที่อีธาน ฮันท์เอาความหายนะระดับชาติเข้าไปเสี่ยงอันตราย แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะออกมาสำเร็จก็เถอะ แต่นี่มันคือหนังไงไม่ใช่โลกความเป็นจริง
แอบเสียดายที่บทหนังสายลับแบบนี้มาอยู่ในมือแฟรนไชส์ดังแบบ MI เพราะนึกภาพว่าถ้าเราไม่รู้พื้นเพของแต่ละตัวละคร ใช้นักแสดงไม่มีชื่อเสียงยกชุด มันคงเป็นหนังที่เราไม่สามารถไว้วางใจตัวละครใด ๆ ในเรื่องได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าใครเลือกข้างไหนซึ่งมันจะทำให้โลกจารชนเข้มข้นซับซ้อนลึกลับขึ้น ไม่เหมือน MI:5 ที่เราดูกันออกว่าใครเป็นฝ่ายฮันท์ ตามชื่อเสียงตัวละครและแพลนที่วางไว้ระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เราก็ดีใจที่ MI:5 ได้บทหนังสายลับหนักแน่นเข้มข้นพลิกไปพลิกมาแบบนี้ เพราะมันทำให้แฟรนไชส์เติบโตขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งตัวดีตัวร้ายเดินหมากและถือไพ่บงการเกมซ้อนแผนได้ชาญฉลาด ซึ่งมันทำให้โลกสายลับจารชนในภาคนี้เริ่มใช้สมองในการรับชม ไม่ใช่เข้าไปเสพแค่ฉากแอ็คชั่นแล้วก็จบเหมือนเดิม
อันที่จริง ‘คริสโตเฟอร์ แมคควอรีย์’ ผู้กำกับภาคนี้เป็นคนที่ทำฉากแอ็คชั่นดีมาก ๆ นะ (เครดิตงานอ้างอิงคือฉากดวลปืนใน The Way of the Gun และ Jack Reacher) แต่พอมาทำภาคนี้กลับกลายเป็นภาคที่เราไม่มีฉากแอ็คชั่นใด ๆ ให้จดจำ ฉากเครื่องบินเสี่ยงตายของทอม ครูซก็เหมือนถ่ายแค่ใช้โปรโมทหนังเท่านั้น (คล้ายการปีนหน้าผาในภาค 2 คือไม่มีความจำเป็นต่อเนื้อเรื่องเลย), ขณะที่ฉากดำน้ำที่โปรโมทว่า long take 6 นาทีก็ไม่มีอยู่จริง เป็นฉากดำน้ำทั่วไปที่ไม่รู้สึกถึงความ ‘เป็นไปไม่ได้’
ฉากทริลเลอร์ที่เราชอบมีอยู่ 2 ฉากคือฉากลอบสังหารในโรงละครโอเปร่า ชอบการตัดสินใจของตัวละคร ชอบมุมกล้อง ชอบแผนการต่าง ๆ มันดูสมจริงสำหรับการลอบสังหาร และอีกฉากคือตอนขับรถไล่ล่าจนต่อเนื่องไปถึงมอเตอร์ไซค์ไล่ล่าคือเด็ดจริง
จุดติของภาคนี้เห็นจะเป็นการนำหน้ากากปลอมตัวกลับมาใช้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผมหงุดหงิดทุกครั้ง รวมถึงเป็นภาคที่รู้สึกว่าแฟรนไชส์นี้ลดความ ‘อิมพอสซิเบิ้ล’ อันเป็นเอกลักษณ์ลงไปพอสมควร แต่ก็ชดเชยมาด้วยเนื้อหาที่หนักแน่นขึ้น
โดยสรุปแล้วผมยังยกให้ภาค 4 คือ the best ของแฟรนไชส์นี้ มันมีความเป็น MI ภารกิจเหนือจริงแต่กลับรู้สึกเชื่อถือว่าอีธาน ฮันท์ทำได้ ‘แบรด เบิร์ด’ คือตัวเลือกที่ทำให้ภาค 4 สมบูรณ์แบบมาก ๆ มีฉากขึ้นหิ้งเพียบ ส่วนภาค 5 ก็ดีที่ทำให้กลายเป็นหนังสายลับเกมจารชนที่มีกึ๋นมากขึ้น เรียงความชอบตอนนี้คงเป็น 4 > 5 > 1 > 3 >>>>>>> 2
ป.ล. รีเบคก้า เฟอร์กูสันบทปั้นมาก นางเด่นขโมยซีนจริง ๆ
Director: Christopher McQuarrie (ผกก. Jack Reacher)
story: Christopher McQuarrie, Drew Pearce
screenplay: Christopher McQuarrie (เขียนบท The Usual Suspects)
Genre: spy, action, adventure, thriller
8/10
รีวิวกระทู้ pantip ekka_eak
[CR] Mission: Impossible Rogue Nation – ดูแล้วถึงกับอึ้ง เมื่อกลับมาคราวนี้ บทกลมกล่อมดีจริงๆ ลุ้นตลอดทั้งเรื่อง
อาทิตย์หยุดยาวสิ้นเดือนแบบนี้ คงไม่มีใครเถียงว่าหนังที่น่าดูที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องนี้นี่แหละ MI5 Rogue Nation ที่เป็นการกลับมารับบท Ethan Hunt อีกครั้งของ Tom Cruise สารภาพตามตรงว่าผมจำเนื้อเรื่องของภาค 4 Ghost Protocol ไม่ได้แล้วล่ะ แต่พอจะจำได้ลางๆ ว่าภาคที่แล้วมันเริ่มมีเรื่องราวของ ซินดิเคต องค์กรที่ออกมาต่อกรกับ IMF แก๊งของพระเอกเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว แต่ภาคนี้จะมาเต็มตัว แค่คิดก็ซี๊ดแล้ว
ปฏิบัติการรัฐอำพรางคราวนี้ อีธาน พร้อมด้วยทีมของเขาจะกลับมาในปฏิบัติการครั้งใหม่ เพื่อจัดการกับซินดิเคท องค์กรลับระดับนานาชาติ ที่มีความเชี่ยวชาญพอ ๆ กับ IMF โดยมีเป้าหมายปฏิวัติโลกใหม่ด้วยวิธีก่อการร้าย และมุ่งทำลายล้างหน่วยงาน IMF ให้หายไปจากโลก
อ่านเรื่องย่อแล้วแกนหนังไม่ได้มีอะไรมากเลยนะครับ และด้วยความที่ในปีนี้หนังสายลับเข้าฉายเยอะมากจนจำสลับสับสนไปหมด ทำให้หลายคนอาจจะเอียนจนมีคำถามว่า จะดูดีมั๊ย แต่ถ้าใครเป็นแฟนของหนัง MI มาทุกภาคจะรู้ว่า ในตัวหนัง MI เองมันจะมีเสน่ห์ในตัวค่อนข้างเยอะ ความเป็นสายลับที่มีลูกล่อลูกชน มีความกะล่อนทะเล้นบนความหล่อเท่ห์ ความตลกในการรับส่งต่อบทของตัวละคร หรือฉากแอ็คชั่นที่ดูแล้วมัน Impossible จริงๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่จะแตกต่างจากหนังสายลับเรื่องอื่นพอสมควรเลยทีเีดียว และด้วยความที่นักแสดงหลักแต่ละคน (ไม่รวมนางเอก) แสดงด้วยกันมานาน ทำให้ลูกล่อลูกชนและการรับส่งมุขเป็นไปด้วยความราบลื่นและดูเป็นธรรมชาติจริงๆ
เสน่ห์อีกอย่างของหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นความเก่งการจของพระเอกแล้ว เราจะเห็นสิ่งที่ทุกภาคมีในบท คือเรื่องของ “โชค” ที่พระเอกต้องใช้ทุกครั้งในการทำภารกิจ เพราะถึงแม้พระเอกของเราจะเก่งเกินคน แต่ MI ก็ใส่ความเป็นชีวิตจริงเข้าไปให้พระเอกเราเหมือนกัน คือการที่มีเรื่องที่คาดไม่ถึงมาทำให้แผนการทั้งหมดต้องมีอุปสรรค คนดูนอกจากจะต้องลุ้นการทำภารกิจแล้ว ยังมีเรื่องของการที่จะต้องลุ้นให้พระเอกมีโชคพอที่จะปฏิบัติการให้สำเร็จไปได้ด้วยดีอีกด้วย ซึ่งบางครั้งมันก็ลุ้นกันนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว
สิ่งที่ทำให้คนดูถึงกับอึ้ง เมื่อดูหนัง MI ในทุกภาคคือเรื่องขอฉากแอ็คชั่นที่ลุ้นให้ความเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ตั้งแต่ภาคแรกมา เราก็ต้องลุ้น Ethan โรยตัวลงมาขโมยข้อมูล ภาคสองคือฉากปีนผา ภาคสามฉากที่สะพาน ภาคสี่ฉากปีนตึก ส่วนภาคนี้ตามที่ดูในตัวอย่างชัดๆ ก็มีฉากลงไปในบ่อหล่อเย็น ฉากขี่บิ๊กไบค์ และฉากที่เฮียทอมแกเกาะประตูเครื่องบินตั้งแต่ตอนเปิดเรื่อง (ห้ามเข้าโรงช้าเด็ดขาด ไม่งั้นคุณจะพลาด) ซึ่งแต่ละฉากแต่ละตอนนั้นคนดูลุ้นจิกเบาะกันทุกฉากเลยทีเดียว
อีกความยอดเยี่ยมของบทในภาคนี้คือ การไม่เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปทุ่มไว้ที่ Ethan เพียงคนเดียว แต่บทถูกกระจายไปที่ตัวละครทุกตัวเท่าเทียมกัน อาจจะไปทาง Ethan หนักกว่าตัวอื่นหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทุ่มไปที่ตัวละครตัวเดียว ทำให้ทุกตัวละครไม่ได้ดูเป็นแค่ตัวประกอบ นักแสดงก็เลยโดดเด่นออกมาเกือบทั้งหมด แต่คนที่เด่นที่สุดในภาคนี้ ผมมองว่าไม่ใช่ Tom Cruise ครับ แต่กลับเป็น Rebecca Ferguson ในบทของ Ilsa Faust มากกว่าที่ออกมาทีไร ความสวยสง่ากระแทกตากระแทกใจเหลือเกิน แถมในหนังผมมองว่าเก่งและฉลาดกว่าพระเอกซะอีก เพียงแต่พระเอกของเราดวงเฮงกว่าเท่านั้นเอง
โดยรวมแล้วผมค่อนข้างประทับใจกับภาคนี้พอสมควร ด้วยสิ่งที่บอกไปทั้งหมดด้านบน มันทำให้หนังเรื่องนี้ดูกลมกล่อม สนุก และลุ้นมันส์ตลอดทั้งเรื่องโดยไม่มีพาร์ทไหนที่ง่วงนอนหรืออืด หนังสองชั่วโมงกว่าๆ ดูจริงๆ แล้วยาวแต่ไม่มีส่วนที่ทำให้เบื่อเลยแม้แต่น้อย คุ้มค่าการรอคอยครับ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Spenser Confidential (2020) สเปนเซอร์ ลุย ล่า ปราบทรชน
16 Blocks (2006) 16 บล็อคส์ คู่อึดทะลุเมือง
7.8