U.S. Marshals (1998) คนชนนรก
เรื่องย่อ
มาร์ค เชอริแดน (เวสลีย์ สไนปส์) U.S. Marshals อดีตนาวิกโยธินผู้ผ่านสงครามพายุทะเลทรายถูกจับในข้อหาฆาตกรรมโดยที่ไม่ได้ทำผิด ขณะที่โบอิง 727 ที่ขนนักโทษทั้งหมดรวมทั้งมาร์ค เสียความควบคุมเพราะมีนักโทษคนหนึ่งแอบพกปืนปากกาขึ้นไปด้วย เครื่องบินตก ทำให้นักโทษหลายคนบาดเจ็บและหลบหนีไปได้ รวมทั้งมาร์คด้วย นั่นทำให้ ผู้ตรวจการสหรัฐ แซม เจอราร์ด (ทอมมี ลี โจนส์) ต้องออกปฏิบัติการอีกครั้งในการไล่ล่านักโทษบริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาอย่างมาร์ค แต่กระนั้นมาร์คก็ยังเป็นบุคคลที่มีอันตรายเพราะเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ โดยมี จอห์น รอยซ์ (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) เจ้าหน้าที่คนใหม่ที่ถูกย้ายมาจากแผนกอื่นเข้าร่วมล่าด้วย แต่เบื้องหลังของรอยซ์ก็น่าเคลือบแคลง ก่อนที่ความรู้ทั้งหมดจะปรากฏในที่สุด
ผู้กำกับ
- Stuart Baird
บริษัท ค่ายหนัง
- Warner Bros.
นักแสดง
- Tommy Lee Jones
- Wesley Snipes
- Robert Downey Jr.
- Joe Pantoliano
- Daniel Roebuck
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
นี่คือภาคต่อของ The Fugitive ครับ … เปล่า U.S. Marshals ดร.คิมเบิ้ลแกไม่ได้โดนหาว่าไปฆ่าใครอีกหรอก แต่หนังจับเอาเรื่องของ แซมมวล เจอราร์ด (Tommy Lee Jones) ผู้ตรวจการสหรัฐที่กัดไม่ปล่อยคนเดิม ให้กลับมาเจอกับนักโทษหลบหนีรายใหม่ เขาผู้นั้นคือ มาร์ค เชอริแดน (Wesley Snipes) ชายผิวดำที่ต้องคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ UN ซึ่งแน่นอนว่าแซมก็ตามล่าเขาไม่หยุดล่ะครับ แต่ยิ่งที่ตามเท่าไร ก็ยิ่งพบเงื่อนงำลึกลับในคดีนี้มากขึ้นเท่านั้น
ตัวหนังแม้จะไม่สุดยอดในทุกๆ ด้านอย่าง The Fugitive แต่ก็จัดเป็นหนังแนวแอ็กชันสืบสวนที่น่าดูครับ ยังสนุกและมันส์อยู่ดี เอาเฉพาะพี่ Tommy กลับมาเป็นแซมมวล หัวหน้าที่ทั้งเข้มและทั้งกวนนี่ก็คุ้มเหลือเกินแล้ว และพวกลูกน้องตัวแสบก็กลับมากันครบด้วยตั้งแต่ Joe Pantoliano ในบทคอสโม ที่ภาคนี้กวนหนักกว่าเก่า Daniel Roebuck, Tom Wood, LaTanya Richardson ก็กลับมารับบทเดิมกันทั้งสิ้น แล้วยังมี Robert Downey Jr. มาเล่นเป็นจอห์น รอยซ์ ผู้ช่วยที่ถูกส่งมาร่วมทีมกับเจอราร์ดในการตามสืบคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ UN ซึ่งรายนี้ก็เล่นได้โอเคในระดับหนึ่ง
ปมต่างๆ จัดว่าน่าพอใจครับ ความน่าติดตามก็ถือว่าเยอะทีเดียว แม้หนังจะมีช่วงเรื่อยๆ บ้าง และอาจจะสรุปง่ายไปนิดในตอนท้าย แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ผิดหวัง แต่สิ่งที่แฟนๆ พี่แซม เจอราร์ดต้องทำใจสักหน่อยก็คือ ภาคนี้พี่แกอาจจะดูแก่ขึ้น และไม่ได้เก่งแบบไหลปรื้ดๆ แบบภาคก่อน แต่ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ล่ะครับ คนเราก็ต้องแก่เป็นธรรมดา และการที่หนังมาเน้นที่ตัวเจอราร์ดมากขึ้น ก็ย่อมทำให้เราเห็นเขาในหลากหลายแง่มุม (ทั้งด้านแกร่งและด้านอ่อน) ก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ครับ – แต่ถ้าทำใจรับไม่ได้ก็อาจรู้สึกว่าคมเขี้ยวของเจอราร์ดดูลดลงไปพอสมควร
แต่อย่างหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คืออารมณ์ขันที่มีมากขึ้น เอาแค่ชุดที่เจอราร์ดเปิดตัวมาก็เหลือกินแล้วครับ U.S. Marshals หนังเลยดูได้เรื่อยๆ แต่ความกดดันอย่างภาคก่อนก็ไม่มากแล้วครับ เพราะหนังไม่ได้เน้นที่ตัวนักโทษหลบหนี แต่จะมามุ่งที่ตัวพี่เจอราร์ดมากกว่า มันส์ไม่เลว เป็นหนังสืบสวนแอ๊คชั่นที่ดูสนุกครับ กำกับโดย Stuart Baird แห่ง Executive Decision น่ะครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้กันกับเรื่องนั้นน่ะแหละ แต่ถ้าว่ากันถึงเรื่องรายได้แล้วก็ถือว่ากลางๆ ครับ หนังลงทุนไป $60 ล้าน ได้คืนมาจากทั่วโลกราว $102 ล้าน (แน่นอนว่ายังห่างไกลจาก The Fugitive ที่ทำไปกว่า $368 ล้านจากทั่วโลก)
เกร็ดเล็กน้อยของหนังเรื่องนี้ก็คือพฤติกรรมในกองถ่ายของ Robert Downey Jr. ตอนนั้นไม่น่ารักเท่าไรครับ เหตุผลก็เพราะช่วงนั้นชีวิตเขายังมีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ไหนจะติดโทษทัณฑ์บนจากการมีอาวุธและยาเสพติดในครอบครองอีก บางครั้งเขาก็จะมากองถ่ายช้า อย่างมีอยู่คราวหนึ่งที่เป็นการถ่ายทำฉากท้ายๆ ของเรื่อง ซึ่งเขามีบทต้องมาเข้าฉาก แต่เขามาช้ามากๆ ปล่อยให้คนอื่นรออยู่นาน ครั้นพอมาถึงเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วก็เข้าฉากถ่ายทำโดยไม่ชี้แจงเหตุผลหรือเอ่ยคำขอโทษใดๆ และในภายหลังเขายังออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงว่า “หนังเรื่องนี้น่าจะถือเป็นหนังแอ็กชันที่แย่ที่สุดตลอดกาล” อีกด้วย ก็ถือเป็นบันทึกอดีตอันไม่สวยงามอีกบทหนึ่งของ Downey Jr. ครับ เรียกว่าก่อนเขาจะกลับตัวเปลี่ยนตัวเองใหม่ มาคืนชีพอีกหนในบท Iron Man ได้เนี่ย เขาต้องผ่านอะไรมามากจริงๆ – แต่สุดท้ายเขาก็สามารถตั้งหลักและกลับมายืนหยัดในวงการได้อีกครั้งครับ
ฉันหลีกเลี่ยงเรื่องนี้มาหลายปีเพราะดูเหมือนเป็นการรีเมคที่ไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ฉันลืมไปว่าฉันคิดว่า The Fugitive เป็นรีเมคซีรีส์ทางทีวีที่ไร้ประโยชน์ จนกระทั่งฉันถูกดึงเข้ามาดูและพบว่าเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ยอดเยี่ยมซึ่งเต็มไปด้วยตัวละครที่มีสีสันมากมาย ดังนั้น ฉันควรจะตั้งหน้าตั้งตาดูประวัติส่วนตัวของตัวเองมากกว่านี้ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้ฉันดู U.S. Marshalls หลายครั้งแล้ว และฉันต้องบอกว่าภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องทั้งสองเรื่องมีคุณภาพใกล้เคียงกัน
จังหวะดำเนินเรื่องรวดเร็วโดยไม่เร่งรีบ การใช้การซ้ำ เช่น การใช้รูปแบบที่ซ้ำๆ เช่น คิมบัลล์กระโดดลงจากเขื่อนเพื่อความปลอดภัย และเชอริแดนแกว่งตัวลงมาเพื่อกระโดดขึ้นรถไฟโดยสารนั้นได้ผลดี แม้ว่าจะอาจทำให้เกิดหายนะได้ก็ตาม นักแสดงจำนวนมากนั้นน่าดึงดูดแม้กระทั่งบทบาทที่เล็กที่สุด (คล้ายกับ The Fugitive ในแง่นั้น) โจนส์ สไนปส์ และดาวนีย์ต่างก็แสดงได้หลากหลายบทบาทของตนเอง ดาวนีย์เป็นตัวอย่างที่ดีเสมอมาว่าทำไมเขาถึงเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ดีที่สุดในยุคนี้
และบทบาทรองบางบทบาทก็โดดเด่น U.S. Marshals โดยเฉพาะทอม วูดในบทผู้ช่วยจอมพล โนอาห์ นิวแมน เขาได้รับเวลาออกจอมากกว่าในรุ่นก่อน และเขาก็ใช้ประโยชน์จากเวลานั้นได้ดี เขามี “ช่วงเวลาการแสดงที่ยอดเยี่ยม” ครั้งหนึ่งในการเผชิญหน้ากับตัวละครของดาวนีย์ การแสดงความรู้สึกกลัวและโกรธในเวลาเดียวกันของเขาถือเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับผู้อ่าน IMDb คนอื่นๆ ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดงฝีมือดีคนนี้ ไม่มีเครดิตการแสดงบนหน้าจอเลยตั้งแต่ปี 2000 งานบนเวทีเหรอ? ลาออกจากงานเหรอ? ถ้าเป็นอย่างแรก และเขาอยู่ในนิวยอร์กซิตี้ เราอาจจะได้เห็นเขาในตอนหนึ่งของ Law & Order สักวันหนึ่ง!
หนังเรื่องนี้พูดถึงนายพลเจอราร์ด (ทอมมี่ ลี โจนส์) และกลุ่มนักสืบของเขา (โจ แพนโตลิอาโน, ลา ทานยา ริชาร์ดสัน, แดเนียล โรบัค, ทอม วูด) ที่ออกตามล่าผู้ต้องสงสัยเป็นมือสังหารและโจร (เวสลีย์ สไนปส์) หลังจากเครื่องบินตกและเขาก็หนีรอดไปได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือพวกเขา แต่เรื่องราวเบื้องหลังข้อกล่าวหาของเขากลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ผู้หลบหนีได้รับความช่วยเหลือจากคนรักของเขา (ไอรีน เจคอบ) เท่านั้น
ภาพนี้เป็นภาพต่อจากเรื่อง ¨The Fugitive¨ (โดยแอนดรูว์ เดวิส) ซึ่งดัดแปลงมาจากซีรีส์ทางโทรทัศน์ชื่อดัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานระหว่างฉากแอ็กชั่นที่ดุเดือด ความระทึกขวัญ ความซับซ้อน ความรุนแรง และค่อนข้างน่าสนุก เป็นภาพยนตร์แอคชั่นธรรมดาๆ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องราวแอ็กชั่นและความตื่นเต้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องเร็วและดำเนินเรื่องได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้สนุกสนาน การออกฉายมีฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจ
เช่น ฉากเครื่องบินตก หรือการไล่ล่าอันน่าตื่นเต้น การดวลและการเผชิญหน้าระหว่างตัวละครเอกทั้งสองคนนั้นน่าตื่นเต้นและน่าประทับใจ แม้ว่าภาคแรกที่นำแสดงโดยแฮร์ริสัน ฟอร์ดจะทำรายได้มากกว่ามาก แต่ภาคที่สองนี้ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นเพียงการนำเอาภาคก่อนมาทำใหม่ ซึ่งก็คือตอนต่างๆ ของรายการโทรทัศน์ที่เขียนบทโดยรอย ฮักกินส์และนำแสดงโดยเดวิด แจนเซ่น
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นโดยเจอร์รี โกลด์สมิธผู้มากประสบการณ์ การถ่ายทำภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมโดยอันเดรจ บาร์ตโคเวียก (บางครั้งก็เป็นผู้กำกับภาพยนตร์) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยสจ๊วร์ต แบร์ด (บรรณาธิการภาพยนตร์ชื่อดัง) ได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะถูกใจแฟน ๆ U.S. Marshals ของหนังระทึกขวัญและแฟน ๆ ของหนังคู่นี้ เรตติ้ง : เหนือค่าเฉลี่ย ถือเป็นสิ่งที่ต้องชมและขาดไม่ได้
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Strange Darling (2024) รัก ลวง ฆ่า
Strange Tales of Mountain Travelers (2024) เรื่องเล่าประหลาดจากนักเดินเขา
6.3