NIGHTWATCH (1997) ไนท์วอช…สะกดรอยสยอง
เรื่องย่อ
นักศึกษากฎหมายคนหนึ่งทำงานเป็นคนเฝ้ายามกลางคืนในห้องเก็บศพ NIGHTWATCH โดยคิดว่าเขาจะมีเวลาศึกษาอีกมาก โดยปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาคือความหวาดระแวงในฉากที่น่ากลัวนี้ ในขณะเดียวกัน ฆาตกรต่อเนื่องกำลังหลบหนี และสุดท้ายนักเรียนก็เข้าไปคลุกคลีกับหนึ่งในคดีฆาตกรรม และกลายเป็นผู้ต้องสงสัย สะกดรอยสยอง นักศึกษากฎหมายคนหนึ่งทำงานเป็นคนเฝ้ายามกลางคืนในห้องเก็บศพ โดยคิดว่าเขาจะมีเวลาศึกษาอีกมาก โดยปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาคือความหวาดระแวงในฉากที่น่ากลัวนี้ ในขณะเดียวกัน ฆาตกรต่อเนื่องกำลังหลบหนี และสุดท้ายนักเรียนก็เข้าไปคลุกคลีกับหนึ่งในคดีฆาตกรรม และกลายเป็นผู้ต้องสงสัย
ผู้กำกับ
- Ole Bornedal
บริษัท ค่ายหนัง
- Dimension Films
นักแสดง
- Anais Evans
- Ewan McGregor
- Nick Nolte
- Erich Anderson
- Josh Brolin
- Lauren Graham
- Patricia Arquette
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
รีเมคมาจากหนังสัญชาติเดนมาร์กชื่อ NIGHTWATCH สร้างโดยผู้กำกับ Ole Bornedal ผู้ทำทั้งต้นฉบับและดัดแปลงให้เข้ากับฮอลลีวูดด้วยตัวเอง โดยส่วนตัวไม่เคยดูต้นฉบับ แต่คาดเดาจากลักษณะของตัวหนังก็บ่งบอกถึงความน่าเบื่อเต็มกลืน เนื่องจากหลายอย่างดูห้วนและง่ายเกินเหตุราวกับพยายามทำให้ต่างจากของเดิม ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบแต่ก็พอรู้ว่ากลัวซ้ำ ใครจะคิดว่าทำหนังเรื่องแรกเสร็จจะมีหนังยาวต่ออีกเรื่อง แต่ดันเป็นหนังรีเมคจากเรื่องแรกของตัวเอง คงไม่ต่างอะไรกับทำหนังซ้ำแค่เปลี่ยนนักแสดงกับข้าวของที่พอมีทุนมาบ้าง ส่วนพล็อตเรื่องยังคงเป็นเรื่องของ มาร์ติน เบลล์ (Ewan McGregor) ยามกะดึกประจำอาคารนิติเวช แน่นอนว่าหนีไม่พ้นเรื่องศพที่มาเก็บเอาไว้เพื่อใช้ชันสูตร ซึ่งงานดูไม่มีอะไรมากนอกจากนั่งเฝ้าและเดินตรวจความเรียบร้อย ทว่าบรรยากาศที่วังเวงนี่เองทำให้เขาต้องเจอเรื่องสยองขวัญเข้าจนได้
บรรยากาศตอนเดินตามห้องเก็บศพถือว่าหลอนพอตัว ยิ่งต้องมาเดินคนเดียวก็ยิ่งระทึกเข้าไปใหญ่ ซึ่งจะว่าไปคนทั่วไปคงจะกลัวกันไม่น้อย แต่ลองนึกถึงคนที่ทำงานในโรงพยาบาลอย่างหมอหรือพยาบาลจะมองเป็นเรื่องคุ้นชิน ไม่ว่าศพหรืออวัยวะเป็นเรื่องปกติที่เจอแทบทุกวัน ขณะที่มาร์ตินคือเด็กใหม่ที่พึ่งมาทำงานเป็นครั้งแรก พอมาเจอคนตายแบบนี้เป็นใครต้องนึกผวากันบ้าง กว่าจะเข้าที่เข้าทางกับงานยามกะดึกต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่พอชินกับงานที่ตัวเองทำก็แทบจะกลายเป็นอีกคนจากที่ไม่กล้ามองเป็นหยอกเล่นสบายใจ
Ewan McGregor เล่นเป็นยามกะดึกที่นอกจากตัวหนังจะหลอนแล้วก็เป็นเรื่องการแสดงที่เชื่อว่ากลัวอยู่จริง ทว่าคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าใครคือ Brad Dourif ในบทหมอที่ต้องมาตรวจสอบศพ ซึ่งมีหลายฉากทำหน้าตาชวนเพี้ยนจนลืมไปว่าคือหมอไม่ใช่ผู้ป่วย(หน้าตากับการแสดงมันใช่ซะขนาดนั้น) อีกคนคือ Nick Nolte ในบทนักสืบเครย์ ไม่รู้ทำไมแค่หน้าตาดูไม่น่าไว้ใจตั้งแต่แรกเห็น และอีกคนที่พอกันแต่น้อยกว่าคือ Josh Brolin ในบท เจมส์ เพื่อนของมาร์ตินกับบางมุมหล่อบางมุมน่าสงสัย
จากหนังบรรยากาศพาหลอนจนกลายเป็นหนังสืบสวนมีคดีฆาตกรรม NIGHTWATCH ซึ่งการเล่าเรื่องในช่วงแรกเป็นไปโดยช้าและหลายอย่างดูสับสน แต่พอมากลางเรื่องเริ่มเข้าใจเพราะมีการโยงเรื่องราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้แต่ละอย่างดูสมเหตุสมผล กระนั้นไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือทึ่งสักเท่าไร ยิ่งมาช่วงหลังที่เริ่มตื่นเต้นมากขึ้นต้องถูกกระชากอารมณ์ไปหลายส่วน โดยเฉพาะการเฉลยความจริงว่าใครคือคนร้ายคนนั้น ซึ่งวิธีการเฉลยดูไร้อารมณ์และไม่รีรอจังหวะ ทำให้แทนที่จะลุ้นระทึกขวัญต้องเปลี่ยนเป็นเฉยชาเสียแทน
หนังสยองขวัญเน้นบรรยากาศของคนทำงานดึก เช่น ยามในสถานพยาบาล โดยหนังเรื่องนี้ก็พูดถึงยามกะดึกที่เน้นไปที่กลุ่มงานนิติเวช ต้องเดินออกตรวจความเรียบร้อยอยู่เป็นประจำ การเล่นความสยองขวัญในที่รวมคนตายเป็นสิ่งที่น่ากลัวไม่น้อย ทว่าการผูกโยงเรื่องราวหาตัวฆาตกรขาดความน่าสนใจ หลายอย่างที่เกี่ยวกับคดีฆาตรกรรมแทบจะไร้น้ำหนักแม้จะสรุปทุกอย่างให้เข้ากันทั้งหมดจนน่าทึ่ง นอกจากบรรยากาศแล้วส่วนใหญ่ออกจะธรรมดาจนถึงผิดหวัง โดยเฉพาะตอนจบที่เร็วขัดอารมณ์ทั้งที่กำลังลุ้นอยู่แท้ๆ
มาร์ติน เบลล์ (Ewan McGregor) ทำงานเป็นยามกะดึกประจำอาคารเก็บศพแห่งหนึ่ง แล้วคิดดูครับ พี่แกต้องอยู่ที่นั่นคนเดียว เดินท่ามกลางความมืด ตรวจห้องเก็บศพอีกต่างหาก โอย แค่นึกก็สยองแล้วครับ และสิ่งที่มาร์ตินกลัวตลอดมาตั้งแต่เริ่มทำงาน ก็เกิดขึ้นมาจนได้ นั่นก็คือ เขาอาจจะไม่ได้อยู่คนเดียวที่นั่นน่ะสิ … แล้วใครจะมาอยู่ห้องดับจิตตอนดึกๆ ดื่นๆ แบบเนี้ย ใช้ได้เลยครับ โอย แค่ภาพมืดๆ แล้วยังเป็นอาคารเก็บศพอีก จิตก็เตลิดไปไหนต่อไหนได้อยู่แล้ว นี่ยังอุตส่าห์มีเงื่อนงำพิลึกๆ อีก แต่หนังก็ไม่ได้มีอะไรชวนอึ้งมากมาย สิ่งที่โดดเด่นก็คือ บรรยากาศที่น่ากลัวแบบสัมผัสได้เท่านั้นน่ะครับ แต่ก็ถือว่าทำได้น่าติดตามดี
นักแสดงก็ดีครับ McGregor น่ะหายห่วงอยู่แล้ว NIGHTWATCH ดูในเรื่องแล้วอดสงสารไมไ่ด้ครับ ต้องมาทำงานทั้งๆ ที่ตัวเองก็กลัวๆ อยู่ เดินไปแข้งขาก็อดสั่นไม่ได้ล่ะครับ แล้วอาคารบ้านี่ก็โรคจิตดีแท้ๆ ตรงที่มันกว้างอ้ะครับ เวลาเราเดินตรวจตามโถง เราไม่มีทางรู้เลยว่าอีกมุมที่เป็นหลืบมืดๆ น่ะมีอะไรแฝงอยู่หรือเปล่า น่ากลัวจ้า น่ากลัวจริงๆ นอกจากนี้ก็ยัง ได้ Nick Nolte มารับบทนักสืบโธมัส เคลย์แห่งกรมตำรวจที่กำลังตามร่องรอยของฆาตกรรายหนึ่งอยู่ ฝีมือเขาก็ไม่มีปัญหาครับ ลีลาเดิมๆ แต่ชัวร์, Josh Brolin มาเป็นเจมส์ กัลแมน เพื่อนซี้ของมาร์ต้น และยังได้เจอ Brad Dourif อีกด้วยครับ ฉากไหนไปดูเอง
สรุปว่าก็ดีครับ เพียงแต่ถ้าบทมันมีอะไรมากกว่านี้ คงเจ๋งกว่านี้อ้ะครับ เพราะเท่าที่เป็นนี่มันออกจะไปเล่นกับเรื่องความรู้สึกอย่างเดียวซึ่งก็ทำ ได้ดีนะครับ เพียงแต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้หน่อย จะว่าไปตัวหนังทำอารมณ์ได้ใกล้เคียงกับ Saw เลยครับ แต่จะมาแพ้กันหน่อยตรงเรื่องบทนี่แหละ – และหนังเรื่องนี้ก็รีเมคจากหนังเดนมาร์กครับ ก็บอกได้ว่าต้นฉบับนั้นทำได้เจ๋งกว่าครับ ก็สรุปว่าน่ากลัวแบบมืดๆ ครับ แต่ขอเตือนใครที่ต้องทำงานเป็นยามกะดึกตามอาคารต่างๆ อ้ะนะฮะ หากไม่ชัวร์ก็ไม่ต้องดูดีกว่าครับ เดี๋ยวอาจจะเก็บไปฟุ้งซ่านในที่ทำงานได้นา
นักศึกษาอีวาน แม็คเกรเกอร์หางานพาร์ทไทม์ทำในห้องเก็บศพ เขาคิดว่างานนี้จะช่วยให้เขาได้พักผ่อนบ้างในขณะที่กำลังศึกษาเพื่อเตรียมรับปริญญา อย่างไรก็ตาม ในห้องเก็บศพแห่งนี้ คนตายไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ดูเหมือนว่าฆาตกรต่อเนื่องที่ร่วมประเวณีกับศพจะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว นี่อาจเป็นเพียงความหวาดระแวงของแม็คเกรเกอร์หรือไม่ ดูเหมือนจะไม่ใช่ เพราะไม่นานเขาก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก โครงเรื่องที่มีแนวโน้มดีนี้ถูกทำให้เสียไปบางส่วนเนื่องจากผู้กำกับที่ไม่แน่นอนอย่างโอเล่ บอร์เนดัล
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยแนวทางที่ไม่ต่างจากของเซเว่น และดูเหมือนว่าจะกำลังเตรียมการสำหรับสไตล์ฆาตกรต่อเนื่อง/ระทึกขวัญ แต่ในไม่ช้าก็เปลี่ยนไปเป็นแนวทางที่เหมาะกับภาพยนตร์แนวฆ่าฟันวัยรุ่นมากกว่า จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นแนวสยองขวัญ ก่อนที่จะดูเหมือนว่าสลับไปมาระหว่างทั้งสองแนวตามต้องการ การผสมผสานนี้ไม่เข้ากันเลยและทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสับสนเล็กน้อย จอช โบรลิน ผู้รับบทเป็นเพื่อนของยวน แม็คเกรเกอร์ในหนังเรื่องนี้ NIGHTWATCH รับบทเป็นตัวละครที่คุณรู้สึกเหมือนเคยเห็นมาแล้วนับร้อยครั้งในภาพยนตร์สยองขวัญวัยรุ่น เขาเล่นตามกฎของตัวเอง ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่แต่ก็มีด้านดี และคุณเริ่มสงสัยเขาตั้งแต่ฉากแรก ยวน แม็คเกรเกอร์แสดงอาการหวาดระแวงได้ดี แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างจะลืมง่าย ซึ่งก็อาจหมายถึงแพทริเซีย อาร์เค็ตต์ก็ได้
ถึงจะมีข้อบกพร่อง แต่ก็ยังมีสิ่งที่น่าดูอยู่พอสมควร ฉากที่ใช้แนวทางสยองขวัญนั้นใช้ได้ผลดีมากในห้องเก็บศพ และบางครั้งก็ให้บรรยากาศที่ตึงเครียดพอสมควร นอกจากนี้ นิค โนลเต้ยังแสดงได้น่าสนใจและน่าติดตาม แม้ว่าจะเล่นบทบาทที่คุณรู้สึกว่าเขาสามารถทำได้ในขณะหลับ (เขาเล่นเป็นนักสืบที่หยาบกระด้าง) และแบรด ดอริฟก็เล่นเป็นหมอเวรที่น่าขนลุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ การแสดงที่รู้ใจของเขาทำให้คนยิ้มได้ หนังมีเนื้อหามากพอให้คุณดูจนจบ แต่จะทำให้คุณผิดหวังเพราะไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจนี้ออกมาได้ดีเท่าที่ควร
ในช่วงต้นเรื่องก่อนเครดิต ผู้หญิงเปลือยกาย (โสเภณี) ห่อตัวด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำ ทักทายลูกค้าชายที่มองไม่เห็นในตอนกลางคืน ฉากนี้ชวนขนลุกเพราะเธอพูดทุกอย่างในขณะที่มุมกล้องจับจ้องไปที่ดวงตาของแขก ก่อนจะปีนขึ้นไปบนโต๊ะ เธอถามลูกค้าว่าเขายังต้องการให้เธอแกล้งตายอยู่หรือไม่ ชายที่มองไม่เห็นดึงมีดเล่มใหญ่ออกมาแล้วแทงเธอจนตาย มาร์ติน เบลล์ (ยวน แม็คเกรเกอร์) นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ เพิ่งได้งานเป็นยามเฝ้าเวรกลางคืน (20.00-04.00 น.) ในห้องเก็บศพในเมืองที่น่าขนลุก ยามเฝ้าเวรกลางคืนที่แปลกและประหลาด (ลอนนี่ แชปแมน) คอยดูแลเบลล์ไปทั่วบริเวณหลัก เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้เขาฟังและแนะนำให้เขา “หาวิทยุมา” อาคารหลังนี้ซึ่งไม่มีคนอยู่ตอนกลางคืน
ไม่เพียงแต่เป็นห้องเก็บศพเท่านั้น แต่ยังเป็นห้องแล็บนิติเวชที่ใช้เก็บรักษาชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่ถูกตัดแยกชิ้นไว้ในขวดที่บรรจุฟอร์มาลิน ทางเดินยาว ในห้องเก็บศพที่เย็นเฉียบนั้น เหนือร่างที่ถูกปกคลุมไว้แต่ละศพจะมีสายสัญญาณเตือนภัยในกรณีที่ศพลอยขึ้น (!) (ตามที่คนเฝ้ายามที่เกษียณอายุราชการบอก) ประตูห้องไม่มีที่จับด้านใน ยามเฝ้ายามจะติดนาฬิกาไว้ที่ผนังด้านไกลของห้องเย็น ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าไปในห้องทั้งหมดเพื่อจะไปถึงนาฬิกาได้ คนเฝ้ายามกลางคืนทำงานคนเดียวในสำนักงานที่ล็อบบี้ขนาดใหญ่ซึ่งไม่ได้เปิดไฟหลังเลิกงาน แมลงเม่าที่ติดอยู่ในแสงไฟของสำนักงานทำให้ดูสั่นไหว
บนผนังสำนักงานมีรูปถ่ายของลูอิส พาวเวลล์ (หรือที่รู้จักในชื่อลูอิส เพย์น) หนึ่งในนักฆ่าของอับราฮัม ลินคอล์น ในศตวรรษที่ 19 ลิฟต์ที่ดังเอี๊ยดอ๊าดติดขัดในขณะที่บางครั้งก็มีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากอาคาร ห้องเก็บศพเป็นสถานที่ที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ และในช่วงแรกของภาพยนตร์นั้นมีความน่าขนลุกอย่างแท้จริง ในช่วงครึ่งหลังของภาพยนตร์จะพังทลายลง ในเมืองมีฆาตกรต่อเนื่องหลบหนี เขาฆ่าโสเภณี สารวัตรตำรวจทอม เครย์ (นิค โนลเต้) แวะเข้าไปในห้องเก็บศพเพื่อแจ้งเบลล์ว่าศพของหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมกำลังถูกนำมาส่ง
ฆาตกรตัดดวงตาของหญิงสาวที่เสียชีวิตออก ตำรวจอาจจะเสริมว่าผู้ลวนลามศพก็กำลังอาละวาดอยู่เช่นกัน คืนหนึ่ง ไฟแดงฉุกเฉินในห้องเฝ้ายามก็กะพริบ เบลล์ต้องตรวจสอบคนเดียวเพราะแพทย์เวรกลางคืนไม่ว่างเป็นเวลา 30 นาที NIGHTWATCH ปรากฏว่าเจมส์ (จอช โบรลิน) เพื่อนของเบลล์ที่สติแตกได้เล่นตลกกับเขา เขาแอบเข้าไปในห้องเก็บศพในเย็นวันหนึ่งและซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าปูที่นอนบนเตียงเคลื่อนย้ายศพในห้องเย็น จากนั้นก็ค่อยๆ ฟื้นจากความตาย โฮ่! ฉันกลัวคุณ!
เหตุการณ์ประหลาดอื่นๆ เกิดขึ้นด้วย และแทบจะไม่สมเหตุสมผล เหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวข้องกับศพของโสเภณีที่เสียชีวิตซึ่งถูกลากไปตามทางเดินไปยังประตูทางออก ทิ้งรอยเลือดเปื้อนไปทั่วทุกแห่ง “ทำไม” บางคนอาจถาม แล้วฆาตกรจะแอบเข้ามาทำสิ่งที่เขาทำได้อย่างไร รวมไปถึงการทำความสะอาดด้วย แล้วมาร์ตินจะพลาดเห็นสิ่งนี้ได้อย่างไรในครั้งแรกที่เขาอยู่ที่นั่น ในห้องเย็นที่สว่างไสว เมื่อฉันเห็นสิ่งนี้ครั้งแรก ฉันคิดว่าอาจเป็นคนเฝ้ายามที่กำลังฝันอยู่ แต่ไม่ใช่เลย ในไม่ช้า เบลล์ก็รู้ว่าเขากำลังถูกฆาตกรใส่ร้าย ยังไงก็ตาม ฆาตกรเคยทำงานในสำนักงานนิติเวชศาสตร์เมื่อหลายปีก่อนและถูกไล่ออกเพราะมีเพศสัมพันธ์กับศพ เบลล์จะจับฆาตกรตัวจริงได้อย่างไร
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
The Heiress and the Handyman (2024)
7.8