Masquerade Hotel (2019) พิกัดต่อไป ใครเป็นศพ
เรื่องย่อ
ตำรวจนักสืบผู้มากฝีมือที่ได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดลึกลับ ซึ่งผู้ต้องสงสัยได้ฝากข้อความปริศนาไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมีจุดร่วมคือโรงแรมสุดหรูในโตเกียวที่ชื่อว่า Hotel Cortesia Tokyo เพื่อคลี่คลายคดี Masquerade Hotel คาโต้จึงต้องปลอมตัวเป็นพนักงานต้อนรับในโรงแรม โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ยามางิชิ นาโอมิ หัวหน้าพนักงานต้อนรับผู้เคร่งครัดในกฎระเบียบ แม้ทั้งสองจะมีบุคลิกที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่พวกเขาจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อเปิดโปงความจริงที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางแขกผู้มีชนชั้นและปริศนาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผู้กำกับ
- Masayuki Suzuki
บริษัท ค่ายหนัง
- Cine Bazar
นักแสดง
- Takuya Kimura
- Masami Nagasawa
- Fumiyo Kohinata
- Zen Kajihara
- uki Izumisawa
- Ren Ishikawa
โปสเตอร์หนัง
รีวิว
ต้องบอกว่าเรื่องนี้ที่ดังขนาดที่ว่าไปดูโรงไหนก็แน่นไปหมด Masquerade Hotel อาจจะเป็นส่วนหนึ่งเพราะได้พระเอกตำนานอย่างคิมูระ ทาคุยะ ประกบคู่กับนากาซาวะ มาซามิ ทำให้หนังดูน่าดูน่าสนใจขึ้น แถมตัวละครประกอบหลายตัวก็เป็นนักแสดงแนวหน้าทั้งนั้นทำให้แฟนคลับต่างแห่กันมาดูเต็มโรงกันเลย หนังเรื่องนี้มีต้นฉบับมาจากนิยายสืบสวนสอบสวน ผมไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้เลยเปรียบเทียบไม่ได้ว่ามันดีกว่าไหมหรือต่างกันอย่างไรบ้าง ขอพูดแค่ความรู้สึกหลังจากดูเลยละกัน เรื่องนี้ออกแนวฮาๆมากกว่าที่จะลุ้นตื่นเต้นกับการไล่ตามจับผู้ร้ายสักเท่าไร เนื่องจากเวลาที่จำกัดกับเนื้อเรื่องที่พยายามจะหลอกเราว่าใครคือผู้ร้าย ทำให้ออกแนวคอมเมดี้มากกว่าที่จะดราม่าดึงเครียดกัน
เรื่องราวของตำรวจที่ตามจับฆาตกรต่อเนื่องคนหนึ่งที่หลังจากฆ่าเหยื่อแล้วจะวางกระดาษที่เขียนเลขบอกพิกัดของเป้าหมายการสังหารครั้งต่อไป ซึ่งเหยื่อรายที่ 4 ที่มีการคาดเดาว่าจะเกิดการฆาตกรรมจะเกิดขึ้นที่โรงแรม MASQUERADE ทำให้ตำรวจหลายนายรวมถึงพระเอก (คิมูระ) ต้องมาปลอมตัวเป็นพนักงานโรงแรม โดยพระเอกได้เป็นฟรอนต์ของโรงแรม พร้อมกับมีคนฝึกสอนคือนางเอก (มาซามิ) ซึ่งเป็นคนที่มีระเบียบ ออกแนวจู้จี้หน่อย ทำให้ทั้งสองไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร
ความสนุกของเรื่องนี้คือเราจะได้เห็นความยากลำบากของการเป็นพนักงานโรงแรมที่จะต้องฟังคำขอร้องของแปลกๆของลูกค้า บทสนทนาหนึ่งที่นางเอกพูดกับพนะเอกที่ผมชอบในเรื่องนี้คือ “หากตำรวจมีหน้าที่สงสัยผู้ต้องหา พนักงานโรงแรมก็มีหน้าที่เชื่อใจแขกที่มาเยือน” จะเห็นได้ว่าทั้งงานและนิสัยของทั้งคู่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งคู่กลับเคมีเข้ากันมากๆ มีฉากหลายๆฉากที่น่ารักจนยิ้มออก แม้ทาคุยะจะปาไป 40 กว่าๆแล้วแต่ก็ยังเท่และเฟี้ยวมาก ส่วนมาซามิก็ 30 ยังแจ๋วอยู่เลย
ส่วนที่ผมชอบของหนังเรื่องนี้คือการที่พระเอกเป็นคนหัวแข็ง Masquerade Hotel ไม่ฟังใครกลับต้องมาทำตามการเรียกร้องของแขกซึ่งคือหน้าที่สำคัญของพนักงานโรงแรม พระเอกต้องเรียนรู้ทั้งการทำงานพร้อมกับจับตามองหาผู้ต้องสงสัย ที่แต่ละวันจะมีแขกมาพักไม่เปลี่ยนหน้า แล้วใครล่ะที่จะเป็นคนร้ายตัวจริง หนังจะทำให้เราหัวปั่นกัน สรุปว่าใครจะเป็นคนร้าย เราต้องไปงมกันเองครับ สนุกคลายเครียดได้เลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในเมือง ซึ่งมีเหยื่อในคดี 3 รายถูกพบเป็นศพ แต่ความแปลกของคดีนี้ก็คือ เหยื่อทั้ง 3 ราย ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือมีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงทั้งสามคดีเข้าหากันได้ ไม่ว่าจะข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ หรือแม้แต่วิธีการลงมือของฆาตกร ในแต่ละครั้งก็มีรูปแบบไม่เหมือนกันอีกด้วย
สิ่งเดียวที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปว่า เหยื่อทั้ง 3 รายเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็เพราะ บนร่างของเหยื่อที่พบนั้น คนร้ายจะทิ้งกระดาษที่ระบุชุดตัวเลขเอาไว้ ซึ่งตัวเลขที่ว่านั้นก็คือ พิกัดที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมครั้งต่อไป หลังจากเหยื่อรายที่สามที่เป็นเหยื่อรายล่าสุด ตำรวจหนุ่มอย่าง โคสุเกะ นิตตะ (Takuya Kimura) ผู้ที่เป็นคนไขปริศนาชุดตัวเลขของคนร้ายได้ ระบุว่าสถานที่ฆาตกรรมเหยื่อรายต่อไปก็คือ โรงแรมหรู HOTEL CORTESIA TOKYO โรงแรมที่มีแขกมากหน้าหลายตาเข้ามาพัก
การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามจับคนร้ายรายนี้ได้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องส่งคนแฝงตัวเข้ามา เป็นทั้งพนักงานโรงแรมและแขกที่เข้าพัก สำหรับเจ้าหน้าที่คนอื่นแล้วอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่ใช่กับ นิตตะ ตำรวจหนุ่มขาลุยขี้วีน เขาได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงานต้อนรับ ที่ต้องคอยจับคู่ร่วมงานกับ นาโอมิ ยามากิชิ (Masami Nagasawa) พนักงานต้อนรับเจ้าระเบียบ เป๊ะไปเสียทุกเรื่อง มองคุณลูกค้าเปรียบเสมือนพระเจ้า นิตตะ ก็เลยต้องรับศึกหลายด้าน ทั้ง ผู้คุมกฎอย่าง ยามากิชิ ร่วมถึงสารพัดปัญหาจากลูกค้า ซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ที่เป็นคนร้ายตัวจริง
หนังสืบสวนจากนิยาย “Masquerade Hotel” ของ Keigo Higashino แอดไม่เคยอ่านนิยายมาก่อน เลยขอข้ามไม่กล่าวถึงส่วนนั้นก็แล้วว่า ว่ามีความเหมือนความแตกต่างกันอย่างไร
แต่กับฉบับหนังนี้ในตอนแรกจากที่ได้อ่านเรื่องย่อและดูตัวอย่าง ตัวผมเองคาดหวังไว้พอสมควรเลยนะ ด้วยนักแสดงก็ระดับแม่เหล็กแถวหน้าทั้ง ทาคุยะ คิมุระ กับ มาซามิ นากาซาวะ แต่หลังจากที่ดูจบแล้วบอกตามตรงเลยว่าไม่สมหวัง หนังไม่สนุกอย่างที่คาดหวังไว้ จะว่ายังไงดี มันแทบไม่มีอารมณ์แบบหนังสืบสวนเลย ดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ โอเคเข้าใจว่าธรรมชาติของหนังญี่ปุ่น เขาไม่เร่งเร้าขายความระทึกขวัญบันเทิงอยู่แล้ว
แต่ในแง่มุมของการสืบสวน ปริศนาฆาตกร หนังใส่เข้ามาเพียงเล็กน้อยแทบไม่มีผลอะไรต่อเนื้อเรื่องเลย แต่ละเหตุการณ์ที่ผ่านไป มันเป็นเรื่องของการคลี่คลายปมในใจของตัวละครมากกว่า อย่างในช่วงแรกหนังเล่าการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร นิตตะ ที่เป็นคนกระด้าง ขี้วีน แต่การที่เขาต้องมาเป็นพนักงานต้อนรับ พร้อมกับต้องลืบคดีไปด้วย มันทำให้เขาจัดลำดับความสำคัญไม่ได้ เขามักจะมองหาแต่คนร้าย สงสัยแขกแทบทุกคน จนลืมไปว่าตัวเองก็สวมอีกบทบาทหนึ่งเป็นพนักงานโรงแรมอยู่
นอกจากนั้นยังมีเนื้อหาในอดีต Masquerade Hotel แก้ไขเรื่องราวในใจตัวละครที่เป็นแขกของโรงแรม ที่ตัวละคร นิตตะและยามากิชิ ต้องร่วมมือกันคลี่คลายปมเหล่านั้นอีกด้วย เกินครึ่งเรื่องของหนังจึงมีเนื้อหาในทำนองเดียว กับหนังดราม่าฟีลกู๊ดที่พระนางช่วยกันรักษาปมในใจ ของแขกที่เข้ามาพัก มากกว่าการไขปริศนาคดีฆาตกรรม ที่ระหว่างทางอาจจะมีแทรกเนื้อหาในมุมของคดีเข้ามาบ้างเพียงเล็กน้อย
เลยทำให้ในแง่ของความเป็นหนังสืบสวน ลึกลับ ตัวหนังเองทำได้ไม่ค่อยดี แม้การเฉลยตัวฆาตกรจะดูมีชั้นเชิง และเชื่อมโยงกับเนื้อหาส่วนแรกที่ดูฟีลกู๊ดได้ดี แต่รายละเอียดแรงจูงใจ ความซับซ้อนของแผนการ เอาจริงก็ดูเหมือนมีของนะ แต่พอเล่าไม่สนุก ดึงความสนใจคนดูไว้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ปูเนื้อหาเอาไว้บ้างเลย มาเล่ารวบยอดเอาทีเดียวตอนไคล์แม็กซ์ แทนที่จะออกมาบันเทิงน่าติดตาม มันกลายเป็นเหมือนคนละเรื่องเดียวกัน ไม่มีความปะติดปะต่อเรื่องราว นึกจะเฉลยก็เปิดเผยความลับกันง่ายๆ
เนื้อหาหนังส่วนที่ได้น้ำได้เนื้อเลยเป็น ดราม่าของตัวละคร นิตตะ กับความสัมพันธ์ที่เป็นคู่กัดก่อนจะกลายเป็นคู่หู ระหว่างเขากับยามากิชิ ดูจะเป็นอะไรที่จับต้องได้มากที่สุด อีกส่วนที่หนังกล่าวถึงคงจะเป็นหัวใจหลักของการทำงานบริการ ที่ตัวละครคนนอกอย่าง นิตตะ ต้องมาเผชิญ แล้วตัวละคร ยามากิชิ ทำมาตลอด ซึ่งคนที่ทำงานบริการคงไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า วันหนึ่งงานบริการซึ่งเป็นหน้าที่ของตัวเอง และก็ทำอย่างสุดความสามารถแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันจะย้อนศรกลับมาทำร้ายพวกเขา
สรุปแล้ว Masquerade Hotel (2019) พิกัดต่อไปใครเป็นศพ ส่วนตัวผมไม่ฟินนะ หนังกลางๆค่อนมาทางไม่สนุก แต่ใครเป็นแฟน มาซามิกับทาคุยะ อยากจะดูก็น่าจะพอไหว หากพูดถึงการแสดงก็ยังทำได้ตามมาตรฐาน แอร์ไทม์ในหนังก็ค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่น แต่พยายามอย่าคาดหวังความบันเทิงไว้เยอะก็แล้วกัน
ความสง่างามของการสร้างฉากที่อลังการของ Masquerade Hotel เพียงพอที่จะเชื้อเชิญให้คุณเข้าสู่ภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวสืบสวนสอบสวนที่ทั้งตลกและจริงจัง โดยทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวเพื่อไขคดีที่ฆาตกรต่อเนื่องควรจะลงมือสังหารคนสุดท้ายของเขา แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างยุ่งวุ่นวายและยืดเยื้อในองก์ที่ 2 และ 3 แต่ฉันก็สนุกกับการดูนักแสดงนำแสดง และยิ่งสนุกมากขึ้นไปอีกเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงความบริสุทธิ์ของฉากการจัดการโรงแรม ซึ่งเป็นหัวข้อที่น่ายินดีในตัวมันเอง เมื่อเรื่องราวคลี่คลายลงในที่สุด คุณจะรู้สึกโหยหาโรงแรมแห่งนี้ หากคุณเคยพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว นั่นคือผลกระทบที่ Masquerade Hotel มี รัฐเทนเนสซี
ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
Amityville Where the Echo Lives (2024)
Monster Summer (2024) มอนสเตอร์ซัมเมอร์
Amelia s Children (2024) อมีเลีย ชิลเดรน
4.6