ดูหนังออนไลน์ใหม่ 2025 หนังเต็มเรื่อง ดูหนังใหม่ ดูหนังฟรี HD Netflix

Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

3 คะแนน

ตัวอย่าง

Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

ดูหนังออนไลน์ Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

เรื่องย่อ

มาร์โก Marco ลูกบุญธรรมของตระกูลอาดัตตู ออกเดินทางเพื่อแก้แค้นอย่างไร้ความปราณีหลังจากที่พี่ชายของเขาถูกฆ่าอย่างโหดร้าย พบกับการทรยศ การสูญเสีย และความโหดร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้ในทุกย่างก้าว เป็นภาพยนตร์แนวแอ็กชันระทึกขวัญภาษามาลายาลัมจากประเทศอินเดีย กำกับและเขียนบทโดย ฮานีฟ อาเดนี (Haneef Adeni) และอำนวยการสร้างโดย ชารีฟ มูฮัมหมัด (Shareef Muhammed) ภายใต้สังกัด Cubes  เรื่องราวมุ่งเน้นไปที่ มาร์โก (รับบทโดย อุนนี มูกุนดัน – Unni Mukundan) ลูกบุญธรรมของตระกูลอาดัตตู ผู้มีอิทธิพลในวงการค้าทองคำของรัฐเกรละ เมื่อพี่ชายของเขาถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม มาร์โกจึงออกเดินทางเพื่อล้างแค้น โดยต้องเผชิญกับการทรยศ การสูญเสีย และความโหดร้ายที่ไม่อาจจินตนาการได้

ผู้กำกับ

  • Haneef Adeni

บริษัท ค่ายหนัง

  • Cubes Entertainments

นักแสดง

  • Unni Mukundan
  • Siddique
  • Jagadish
  • Abhimanyu Shammy Thilakan
  • Kabir Duhan Singh
  • Ishan Shoukath
  • Yukti Thareja

โปสเตอร์หนัง Marco

ดูหนังออนไลน์ Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

ดูหนังออนไลน์ Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

ดูหนังออนไลน์ Marco (2024) มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

รีวิว มาร์โก หมาบ้า พันธุ์ระห่ำ

คนวิจารณ์หนังไม่เป็น Part 2

มารโค้  Marco ลูกชายนอกสมรสของตระกูลมาเฟียผู้มีอิทธิพลพบว่าน้องชาย-องเขาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และเมื่อเขาพบความจริงว่าผู้อยู่เบื้องหลังการตายของน้องชายเขากลับเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจของคนในครอบครัวเขาซะเอง มาร์โค้จึงต้องปลุกปีศาจในตัวเพื่อเริ่มต้นล้างแค้นไล่ฆ่าพวกมันให้สิ้นซาก! นี่คือหนังแอคชั่นจากอินเดีย ภาษามาลายาลัม ที่สร้างปรากฎการณ์ความฮิต ณ ตอนที่ฉาย ทั้งคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม ทำเงินถล่มทลาย รวมถึงทุกๆคนที่ได้ดูต่างยกย่องสรรเสริญกันว่านี่คือหนังแอคชั่นจากอินเดียที่โหดมากที่สุดที่เคยมีการสร้างมา จนกระแสแบบปากต่อปากก็ทำให้ตอนนี้หนังมีแพลนจะสร้างภาค 2 แล้วด้วย! ซึ่งเราที่ได้ดูแล้วก็ขอยืนยันอีกเสียงเลยว่านี่น่าจะเป็นหนังอินเดียที่โหดที่สุดเท่าที่ได้ดูมาแล้วล่ะ โหดมากกว่า Kill อีก และมันโหดชนิดที่ว่าอีกนิดหนึ่งมันจะเป็น Terrifier ในฉบับหนังแอคชั่นได้เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เปลี่ยนจาก Art the Clown กลายเป็นพี่ตัวละคร  Marco  ที่ฆ่าคนด้วยวิธีการที่โหดสลัดสุดเกินคำบรรยาย!

จริงๆภาพรวมมันก็คือหนังแอคชั่นโม้เหม็นแบบคนอินเดียที่เราเคยล้อๆหรือดูกันมานี่แหละ มันครบสูตรตั้งแต่ เวลาที่พระเอกเดินเข้าเฟรมหรือเปิดตัวทำอะไรสักอย่างก็ทมาพร้อมซีนเหวี่ยงมุมกล้องเท่ๆ โหมกระหน่ำด้วยธีมเพลงปลุกอารมณ์ฮึกเหิม หนังเป็นแนวตัวเอกมาคนเดียว One Man Army เท่ๆปะทะคนร้ายมากกว่า 100 คน กับวิธีการสู้ที่ยังไงก็ไม่ได้มาเอาจริงเอาจังหรือหาความสมเหตุสมผลอยู่แล้ว พระเอกแม่งเดินเหาะเหินแตะหัวผู้ร้ายบินขึ้นที่สูง อะไรแบบนี้เราจะหาจากหนังชาติอื่นไม่ได้หรอก 55555 หนังอาศัยการเล่าเรื่องแบบอารัมภาบทปูตัวละครเยอะๆ ตัดสลับกับเรื่องราวการหักเหลี่ยมชิงไหวพริบของแก๊งค์เตอร์ ซึ่งส่วนตัวด้วยความยาวหนัง 2 ชั่วโมงกว่าๆ มันก็เล่าเรื่องน่าติดตาม แม้ว่ากว่าจะเข้าช่วงซีนมันส์ๆก็อาจจะต้องรอสักนิด เพราะครึ่งแรกมันเน้นเล่าเรื่องการสืบหาคนร้าย และพวกตัวร้ายที่พยายามกลบหลักฐานไม่ให้พระเอกจับได้ อะไรประมาณนี้

ซึ่งเราว่าหนังมีบาดแผลที่บทมันอ่อน เพราะมันก็คือเรื่องการล้างแค้นในหมู่คนทำธุรกิจผิดกฎหมาย  Marco ไม่มีอะไรใหม่เลย เล่าเรื่องสะเปะสะปะเกินไป ยังไม่ค่อยกลมกล่อมนัก การปูตัวละครเยอะเกินไปจนไม่มีพื้นที่ให้กับตัวละครหรือเกลี่ยบทได้ดีพอ จนไม่ได้ทำให้เราสัมผัสหรืออินกับใครได้ เพราะมันอาศัยการเล่าเรื่องด้วยการตัดต่อ สลับ flashback น้อยๆ แต่จุดขายของหนังจริงๆก็คือฉากแอคชั่นที่ควบคู่กับความโหดเลือดสาดของมัน หนังเหมือนฟิวชั่นกันระหว่างความเป็นหนังแอคชั่นอินเดียเน้นสไตล์โม้ให้สุด บวกกับความเป็นหนังแอคชั่นเกาหลี-อินโดนิเซียที่เวลาตัวละครจะตายแต่ละทีก็ตายด้วยวิธีการที่ไม่ธรรมดา บางคนโดนกระหน้่ำแทงตายไม่ยั้ง บางคนโดนยิงปืนจนศพเละเทะกระจัดกระจาย

ยกตัวอย่างซีนที่ชอบ เช่น พระเอกโดนมัดมือ เตรียมโดนผู้ร้ายเก็บแล้ว แต่พระเอกฮึดสู้เอาปากกัดมือคนร้ายคนหนึ่งที่ถือมีดอยู่ ก่อนจะใช้ปากบังคับกัดมือจนปล่อยมีด แล้วพระเอกก็เอาปากคาบมีดแล้วฟันคอแม่ง แล้วเอาปากไปกัดหูผู้ร้ายอีกคนจนหูขาดแหว่งไปเลย ก่อนจะนำไปสู่ซีนต่อสู้ที่พระเอกถูกมัดข้อมืออยู่ แต่เอาปากคาบมีดสู้กับคนร้ายแม่ม 5555 หรือซีนแอคชั่นสู้กับกลุ่มโจร 30 กว่ารายที่มันถ่ายลองเทค (แบบปลอมๆ) มีความเป็น Oldboy, Daredevil สูงมากๆ เพราะพระเอกต้องขึ้นบันไดจากล่างไปข้างบน ระหว่างเดินขึ้นบันไดก็ต้องเจอกับคนร้ายที่วิ่งเข้ามารุมฆ่าพระเอกจนแออัดไม่เหลือพื้นที่ พี่พระเอกแกก็ต้องสู้ไปโดนวงบีบเข้าไป เอามีดเอาขวานจ้วงแทงคนร้ายแต่ละคนไม่ยั้งมือจนศพนอนเกลื่อนบันไดในแต่ละขั้น

หนังมีซีนแอคชั่นดีๆโม้ๆ และมันส์สะใจเยอะกว่านี้มาก แต่ที่ชื่นชมเลยคือหนังใช้ประโยชน์ของความโหดเลือดสาดได้คุ้มค่าจริงๆ เพราะมันไม่ได้ถูกนำมาใช้ในแง่ของซีนแอคชั่นไล่ฆ่ากันอย่างเดียว แต่ซีนประเภทการจับคนร้ายมาทรมาณ หรือซีนที่พวกผู้ร้ายผงาดไล่ทำร้ายคนที่พระเอกรักก็เข้าขั้นซาดิสม์มากกว่าที่หนังแอคชั่นสามัญทั่วไปเขาจะทำกัน (โดยเฉพาะครึ่งหลังที่เป็นซีนบุกบ้านพระเอกเนี่ย มันโหดชนิดที่ว่าจากบ้านสีขาว มันสู้กันจนเลือดสาด เปรอะเปลื้อนจนบ้านเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานเลย) สิ่งที่เป็นไฮไลท์มากอีกอย่างเลยคือการสร้างตัวละครมาร์โค้ที่น่าจดจำเนี่ยแหละ นอกจากความโม้เหม็น การโหมกระหน่ำเปิดตัวแล้วใส่เพลงเท่ๆ เราว่านักแสดงอย่าง Unni Mukundan ก็ถ่ายทอดคาริสม่าตัวละครนี้ได้ดี พี่เท่แบบเท่ระเบิดไปเลย หนังปูตัวละครนี้ว่าเป็นเหมือนหมาป่า เป็นปีศาจที่ไม่ควรแส่ไปหาเรื่อง ซึ่งการแสดงของเขาก็ทำให้เราเชื่อถึงความอำมหิตที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชายคาความหล่อเหล่าของตัวละคร

แล้วคือเราไม่ได้อินกับความเศร้าที่ตัวละครแกเจอมาเลยนะ แต่เราอินทุกครั้งเวลาที่แกเริ่มเดือดเป็นฟื้นเป็นไฟจนลุกขึ้นมาฆ่าคนได้ แม้ว่าร่างกายจะย่ำแย่มากแค่ไหนก็ตาม หนังมันเขียนตัวละครนี้มาสนุกมากจริงๆจนเราคนดูยังสนุกตามเลยนะว่าแกจะมาไม้ไหนหรือจะสู้กับคนอื่นยังไงอีก แล้วอีความซาดิมส์ของแกก็ส่งต่อไปยังผู้ร้ายแต่ละคนที่โดนทรมาณจนไม่เหลือสภาพความเป็นมาเฟียเลย เอาตรงๆแล้ว KILL สนุกและดีกว่านั่นแหละ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Marco มันเป็นหนังอินเดียที่โหดเลือดสาดมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา มัน delivers ในสิ่งที่เราอยากจะดูซึ่งก็คือตัวเอกเท่ๆ ฉากแอคชั่นมันส์ๆ (+โม้ด้วย) และการตายของแต่ละตัวละครที่พิศดารปนความสยดสยองซะยิ่งกว่าหนัง horror-slasher ด้วยกันซะอีก เป็น 2 ชม. 20 นาทีกว่าที่ดูแล้วเหนื่อยแต่สาแก่ใจข้าพเจ้ามากจริงๆ โหดลาดเลือดได้ใจเราสุดๆ

คะแนน: 4/5 ดาว ปล. จริงๆแล้ว  Marco มันคือหนังภาคต่อ/ภาคแยก Spin-Off จากหนังแอคชั่นอินเดียเรื่อง Mikhael (2019) ที่ตัวละครมาร์โค้ในเรื่องนั้น จริงๆแกเป็นตัวร้ายที่ออกตามล่าไล่ฆ่าพระเอกใน Mikhael นั่นแหละ เพียงแต่ว่าหนังภาคแรกไม่มีกระแสเลย เงียบเชียบ เจ๊ง ณ ตอนที่ออกฉาย คำวิจารณ์ก็ไม่ดี แต่ไม่รู้ผู้สร้างคิดอะไรอยู่จึงสร้างหนังภาคแยกจากหนังที่ไม่ค่อยมีคนดู แต่ทว่า Marco ดันประสบความสำเร็จเกินคาดมากๆ หนังทำเงิน คำวิจารณ์ดี แถมมีแพลนจะสร้างภาคต่ออีก 5555

arungeorge

มาร์โกเป็นหนังที่น่าดูมากเพราะมีฉากแอ็กชั่นเลือดสาด แม้ว่าจะดูสร้างแรงบันดาลใจก็ตาม ถ้าคุณรู้จักผลงานก่อนหน้านี้ของฮานีฟ อาเดนี คุณคงระวังว่าบทของเขาจะอ่อนแอแค่ไหน แต่ผู้ชายคนนี้รู้วิธีนำเสนอตัวละครเอกชายที่เปี่ยมด้วยฮอร์โมนเพศชายและอวดดี (ยกเว้นอูลักกา จักกา จักกา!) เขาทำแบบเดียวกันกับอุนนี มุกุนดัน โดยกำจัดเรื่องราวหรือความเชื่อมโยงกับมิคาเอลออกไป ยกเว้นชื่อ นามสกุล และตัวละครที่ซิดดิกเล่น ซึ่งนั่นทำให้เขามีผลงานที่ดีในเชิงภาพยนตร์ เพราะมาร์โก จูเนียร์ที่ฉันได้เห็นในมิคาเอลนั้นทนไม่ได้เลย ในภาพนี้ เขาดูเหมือนเครื่องจักรสังหารในชุดสูท มีเสน่ห์ดึงดูด และอวดดี

บทสัมภาษณ์ก่อนออกฉายระบุว่านี่จะเป็นมาตรฐานสำหรับความรุนแรงในภาพยนตร์มาลายาลัม ฉันคิดว่าพวกเขาทำได้สำหรับภาพยนตร์อินเดียโดยรวม ฉากบุกบ้านฉากหนึ่งในช่วงครึ่งหลังนั้นโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อ และฉันอยากดูเวอร์ชัน Director’s Cut ของฉากนี้จริงๆ นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ยังตัดฟุตเทจความยาว 8 นาทีออกไปด้วย ฉันจึงอยากรู้ว่าในฟุตเทจมีเนื้อหาอะไรบ้าง (พวกเขาทำอะไรกับริยาซ ข่านของฉัน) ฉากแอ็กชั่นถูกถ่ายทำด้วยความเข้มงวดและเต็มไปด้วยความหลงใหล ขอชื่นชม Unni Mukundan ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในส่วนนั้น ฉันชอบฉากสองฉากเป็นพิเศษ คือฉากก่อนพักครึ่งและหลังพักครึ่ง ผลงานที่ยอดเยี่ยมของผู้กำกับสตั๊นท์อย่าง Kalai Kingson การจัดระดับสี (Srik Varier) และเครื่องแต่งกาย (Dhanya Balakrishnan) ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน DOP Chandru Selvaraj ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับฉากในระดับนานาชาติ

อย่างที่คาดไว้ บทภาพยนตร์ (โดยเฉพาะบทสนทนา) พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นจุดอ่อนของภาพยนตร์เรื่องนี้ Siddique และ Jagadeesh ก้าวข้ามบทภาพยนตร์ที่บางจนดูเวเฟอร์และนำเสนอเนื้อหาให้กับบทบาทของพวกเขา Abhimanyu Shammi Thilakan และ Kabir Duhan Singh Marco  โดดเด่นในบทบาทตัวร้ายที่โหดร้ายและคุกคาม เพลงประกอบของ Ravi Basrur ทำให้พระเอกมีช่วงที่โดดเด่น แต่การไม่มีดนตรีประกอบเลยในฉากบันไดถือเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เพลงประกอบช่วยให้หมัดและหมัดเข้าเป้ามีพลังมากขึ้น แม้ว่าส่วนที่เหลือของหนังจะขาดความต่อเนื่องที่น่าเชื่อถือ แต่ Shameer Muhammed ก็ทำฉากแอคชั่นได้ดี (แต่ไม่ใช่แฟนของเลือดสาดที่ CG เลย) ไม่จำเป็นต้องมีฉากนำไปสู่ภาคต่อ แต่พวกเขาก็ทำฉากนั้นในฉากหลังเครดิตที่แปลกประหลาดซึ่งตัดอย่างกะทันหัน

ดูหนังออนไลน์ ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Sorgavaasal (2024) ประตูสวรรค์

Dhoom Dhaam (2025) บ่าวสาวชื่นชุลมุน

Anti Drug Operations (2025) ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด

Den of Thieves 2 Pantera (2025) โคตรนรกปล้นเหนือเมฆ แพนเธอรา

Attack on Titan The Last Attack (2025) ผ่าพิภพไททัน การโจมตีครั่งสุดท้าย

แชร์

หนังอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดูหนังออนไลน์ 2024

เว็บดูหนังมาแรงในตอนนี้ สามารถดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ที่มีคุณภาพที่สุดในตอนนี้ ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ อีกทั้งมีหนังมากมายมาให้เลือกชม มากมายกว่า 10,000 เรื่อง ที่นี่มีหนังใหม่2023 จากค่ายดังทุกค่ายมาให้ทุกคนได้รับชมกันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่า Netflix, Disney+, Viu , DC , Marvel ทำให้ท่านได้รับความสนุกเพลิดเพลินเหมือนได้รับชมอย่างสมจริงทั้งภาพที่คมชัดระดับ Full HD และเสียงภาพยนตร์ที่คมชัดมากที่สุด

ดูหนัง Netflix หนังใหม่

อ่านต่อที่นี่