ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) เอียร์วิกเด็กสาวกำพร้าได้รับการเลี้ยงดู จากแม่มดและกลับมาบ้านที่น่ากลัวที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเวทมนตร์ในอังกฤษช่วงทศวรรษ 1990 แม่มดคนหนึ่งทิ้งลูกของเธอที่ชื่อ Earwig ไว้ที่บ้านเด็กเซนต์มอร์วาลด์ หัวหน้าแม่บ้านของบ้านคิดว่าชื่อนี้ไม่เหมาะกับเด็กจึงเปลี่ยนชื่อเป็นเอริกา วิกก์ หลายปีต่อมา Earwig เป็นเด็กอายุ 10 ขวบที่ชอบอาละวาด เธอสบายใจมากในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทุกคนทำในสิ่งที่เธอต้องการ เธอชอบอาศัยอยู่ที่นั่นกับคัสตาร์ดเพื่อนของเธอ และไม่ต้องการรับเลี้ยง
วันหนึ่ง คู่รักแปลกหน้า เบลล่า ยากา และ แมนเดรก รับเลี้ยงเอียร์วิกโดยขัดกับความปรารถนาของเธอ เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน เบลล่า ยากาบอกเอียร์วิกว่าเธอเป็นแม่มด และเธอรับเลี้ยงเอียร์วิกเพียงเพื่อเป็น “อีกคู่หนึ่ง” เพื่อช่วยเหลืองานบ้านเท่านั้น Earwig
ตกลงที่จะช่วยก็ต่อเมื่อ Bella Yaga สอนเวทมนตร์ของเธอเป็นการตอบแทน เอียร์วิกเตรียมส่วนผสมสำหรับคาถาและทำความสะอาดห้องทำงาน เธอเหนื่อยกับการทำงาน เธอจึงพยายามออกจากบ้าน แต่พบว่าทางออกทั้งหมดถูกปิดผนึกด้วยเวทย์มนตร์โดยแมนเดรก เธอเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเพราะเบลล่า ยากาไม่เคยสอนเวทมนตร์ใดๆ ให้เธอเลย
Earwig เริ่มฟังเทปจากวงดนตรีเก่าชื่อ Earwig และพบว่า Thomas ซึ่งเป็นแมวที่คุ้นเคยของ Bella Yaga สามารถพูดได้ พวกเขาทั้งสองเข้าไปในห้องทำงานตอนกลางคืนเพื่อสร้างคาถาที่จะทำให้พวกเขาทนต่อเวทมนตร์ และได้รับภูมิคุ้มกันจากการลงโทษของ Bella Yaga พวกเขายังร่ายมนตร์เพื่อให้ “มือคู่พิเศษ” ของ Bella Yaga บนร่างกายของเธอเพื่อที่ Earwig จะถูกไล่ออกจากงานของเธอคาถานี้ประสบความสำเร็จและเบลล่า
ดูหนัง Earwig and the Witch (2020)
ยากาก็โมโหกับมือคู่พิเศษของเธอ ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) และเหวี่ยงหนอนเวทมนตร์ที่ปรากฏในห้องของเอียร์วิก เนื่องจากการต้านทานเวทย์มนตร์ของ Earwig หนอนจึงไม่เป็นอันตราย Earwig ส่งหนอนผ่านรูในกำแพง ซึ่งทำให้ Mandrake โกรธ ท่ามกลางความวุ่นวายที่ตามมา Earwig บุกเข้าไปในห้องของ Mandrake และพบว่าเขาและ Bella Yaga เป็นสมาชิกของวง Earwig
ด้วยพลังใหม่ของเธอ Earwig สามารถยึดครองบ้านและให้คนอื่นทำในสิ่งที่เธอต้องการ เธอยังชวนคัสตาร์ดเพื่อนของเธอมาร่วมงานคริสต์มาสด้วย เมื่อเขามาถึง แม่ของเอียร์วิก ซึ่งเป็นสมาชิกอีกคนของวง ก็แวะมาเยี่ยมด้วยความประหลาดใจIn 1990s England, a witch leaves her child,
Earwig, at St. Morwald’s Home for Children. The matron head of the home thinks that the name is unfit for a child and changes it to Erica Wigg. Years later, Earwig is a rambunctious 10-year-old who is very comfortable in an orphanage where everyone does what she wants. She likes living there with her friend Custard and does not want to get adopted.
One day, a strange couple, Bella Yaga and Mandrake, adopt Earwig against her wishes. When they get home, Bella Yaga tells Earwig that she is a witch, and that she only adopted Earwig for “an extra pair of hands” to help around the house. Earwig agrees to help,
only if Bella Yaga teaches her magic in return. Earwig prepares ingredients for spells and cleans the workroom. Tired of working, she attempts to leave of the house, only to find that all the exits have been magically sealed by Mandrake. She becomes further frustrated because Bella Yaga never teaches her any magic.
Earwig begins to listen to tapes from an old band called Earwig and discovers that Bella Yaga’s cat familiar Thomas can talk. The two of them enter the workroom at night to create a spell that will make them resistant to magic, becoming immune to Bella Yaga’s punishments. They also work on a spell to give Bella Yaga a literal “extra pair of hands” on her body so Earwig would be dismissed from her work.
The spell is a success and Bella Yaga is furious at her extra pair of hands, and casts magical worms that appear in Earwig’s room. ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) Because of Earwig’s magical resistance, the worms are harmless. Earwig sends the worms through a hole in the wall, which angers Mandrake. In the ensuing chaos, Earwig breaks into Mandrake’s room and discovers he and Bella Yaga were members of the band Earwig.
Through her new power, Earwig is able to take over the house and have the others do what she wants. She even manages to invite her friend Custard over for Christmas. When he arrives, Earwig’s mother, another member of the band, drops in for a surprise visit.
Earwig and the Witch เป็นงานอนิเมชันบรรยากาศยุโรปที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชน
ชื่อเดียวกัน (2011) ของ Diana Wynne Jones นักเขียนหญิงชาวอังกฤษเจ้าของผลงานวรรณกรรมเรื่อง Howl’s Moving Castle (1986) ซึ่งเคยถูกนำมาดัดแปลงเป็นงานอนิเมชันโดย Hayao Miyazaki ด้วยเช่นกัน และอย่างที่ชื่อวรรณกรรมได้สื่อไว้ Earwig and the Witch ยังคงว่าด้วยเรื่องเวทมนตร์คาถาและการผจญภัยของแม่มดมือใหม่ ดูละม้ายคล้ายคลึงกับที่ Hayao Miyazaki เคยเล่าไว้ในหนังแม่มดขี่ไม้กวาดส่งของเรื่อง Kiki’s Delivery Service
อนิเมชันเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ Earwig เด็กหญิงจอมแก่นจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของคุณนาย Morwald ผู้ใจดี โดย Earwig ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าสถานรับเลี้ยงตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอยังแบเบาะ พร้อมด้วยเทปคาสเซ็ตต์ที่เขียนชื่อไว้ว่า Earwig และกระดาษโน้ตเล็กๆ ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) บันทึกข้อความจากผู้เป็นมารดาว่า จำต้องออกไปจัดการกับเหล่าแม่มดร้ายอีก 12 รายที่เหลือให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วจะมารับ Earwig กลับไปดูแลในภายหลัง อาจจะด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ Earwig เป็นเด็กหญิงที่ไม่เคยคิดกลัวสิ่งใดและรู้สึกผูกพันกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของคุณนาย Morwald เป็นอย่างมาก
โดยทุกครั้งที่มีผู้อุปการะมาเลือกเด็กกำพร้าไปเลี้ยงดู Earwig มักทำตัวให้น่าเกลียดน่ากลัว ทำตาเหล่ตาเข ไม่น่ารัก เพื่อจะได้อยู่กับคุณนาย Morwald ตลอดไป หนังประเภท Adventure ผจญภัย กระทั่งวันหนึ่ง ได้มีคู่สามีภรรยาท่าทางพิรุธที่เหมือนจะซุกซ่อนความชั่วร้ายไว้ภายใต้ชุดเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ดูดีมีสกุลเกิดตัดสินใจเลือกเด็กหญิง Earwig ไปเลี้ยงดู Earwig ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเก็บข้าวของทั้งหมดและย้ายไปอยู่กับคู่สามีภรรยาที่ไม่น่าไว้วางใจคู่นี้
ก่อนที่ฝ่ายภรรยาจะสารภาพกับ Earwig ทันทีที่ถึงรัง ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นแม่มดที่คอยรับจ้างปรุงสูตรยาเสกคาถาเนรมิตต่างๆ ให้บรรดาลูกค้า และต้องการ Earwig เพื่อมาเป็น ‘ลูกมือ’ ช่วยงานเธอเพียงเท่านั้น แต่นั่นกลับทำให้ Earwig รู้สึกตื่นเต้นไปกับประสบการณ์และการผจญภัยครั้งใหม่ จนต้องคอยรบเร้าอ้อนวอนให้คุณนายแม่มดจอมหน้าบึ้งสอนเธอปรุงยาเสกคาถาและถ่ายทอดวิชามนตร์ดำเหล่านี้ให้กับเธอ!ความพิเศษแปลกใหม่ที่เห็นได้ชัดประการแรกใน Earwig and the Witch
คือ นี่ถือเป็นงานอนิเมชันเรื่องแรกของค่าย Studio Ghibli ที่ใช้ 3D Computer-Generated-Imagery หรือ CGI อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้บรรยากาศงานภาพของอนิเมชันเรื่องนี้มีความร่วมสมัยแตกต่างไปจากงานวาดมือเรื่องอื่นๆ ของค่ายอย่างเห็นได้ชัด แต่ผู้กำกับ Goro Miyazaki ก็ดูจะพยายามหลอมรวมลักษณะตัวละครดีไซน์ประหลาดในแบบฉบับของ Studio Ghibli กับบรรยากาศสวยฟุ้งอุดมไปด้วยสีสันตามลักษณะงานอนิเมชัน CGI จนเกิดเอกลักษณ์เฉพาะตนที่แตกต่างจากงานอนิเมชัน CGI ฝั่งอเมริกาได้อย่างชัดเจน
องค์ประกอบที่เสริมเข้ามาอย่างชัดเจนมากๆ ในผลงานใหม่ของค่าย Studio Ghibli เรื่องนี้คือการให้รายละเอียดของแสงที่รักษาความสมจริงอย่างที่ไม่เคยเห็นในงานชิ้นก่อนๆ สะท้อนมิติมุมมองใหม่ๆ ให้กับผลงานของค่ายที่ช่วยให้ไม่รู้สึกวนย่ำจำเจอยู่กับรูปแบบเดิมๆ
แต่ส่วนที่อาจจะเรียกได้ว่า ‘แหวกกรอบ’ จนกลายเป็นความท้าทายมากที่สุดใน
Earwig and the Witch คงอยู่ที่ ‘เนื้อหาเรื่องราว’ ที่มุ่งเน้นภาพความอัปลักษณ์ของผู้ประกอบอาชีพเป็น ‘แม่มดปรุงยา’ ซึ่งพลิกขั้วไปจากภาพชีวิตอันโสภาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ อีกทั้งตัวละครนำอย่าง Earwig ก็ทั้งแก่น ทั้งซน จนไม่พบเห็นความอ่อนโยน
ในส่วนตัวละครแม่มดเจ้าของบ้านก็ล้วนเปี่ยมไปด้วยมุมแห่งความสกปรกและร้ายกาจ อาศัยความฉลาดและมารยามาห้ำหั่นบั่นทอนอำนาจในการคุมเกมระหว่างกัน ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) จนปราศจากคราบการเป็น ‘แม่มดผู้น่ารัก’ อย่างที่เคยเห็นในเรื่อง Kiki’s Delivery Service กันเลยทีเดียว
อีกทั้งเนื้อหาซึ่งอิงมาจากวรรณกรรมเยาวชนต้นฉบับของ Diana Wynne Jones เกือบทั้งหมด ก็ไม่ได้ให้คติสอนใจใดๆ นอกเหนือไปจากการเอาตัวเองให้รอดจากการถูกเอาเปรียบในโลกแห่งความชั่วร้าย นับเป็นงานหนังวรรณกรรมสำหรับเยาวชนที่เหมือนอยู่คนละขั้วกับความจรรโลงใดๆ ซึ่งต้องถือว่าผู้กำกับ Goro Miyazaki มีความกล้าหาญไม่น้อยที่เลือกหยิบเอานิยายสั้นเรื่องนี้ของ Diana Wynne Jones มาเล่าผ่านงานอนิเมชันอย่างตรงไปตรงมา เพราะถ้ามองในเชิงการตลาดแล้ว Earwig and the Witch
น่าจะเป็นงานที่แฟนๆ เก่าแก่ของอนิเมชันค่าย Studio Ghibli ถูกใจได้ยากที่สุดแต่ไม่ว่าอย่างไร Earwig and the Witch ทั้งฉบับงานวรรณกรรมเยาวชนของ Diana Wynne Jones และฉบับหนังอนิเมชัน 3D CGI ของ Goro Miyazaki ก็เป็นทางเลือกที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลาย
ในงานสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน ที่ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อหาและบรรยากาศแบบอ่อนใสโลกสวยแต่เพียงด้านเดียว ทว่ายังสามารถนำเสนอมุมมืดหม่นอัปลักษณ์ ที่สะท้อนสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอย่างเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ผ่านเรื่องราวการผจญภัยของตัวละครที่เหมือนจะมีแต่ฝ่ายอธรรมมาห้ำหั่นกันเองได้เช่นกัน
ความ ‘ร้ายกาจ’ ของ Earwig and the Witch จึงยังคงแตกต่างจากงานอนิเมชันสำหรับเด็กเนื้อหา mature เป็นผู้ใหญ่เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตอย่าง Watership Down (1978) ของ Martin Rosen หรือ James and the Giant Peach (1996) ของ Henry Selick ที่สุดท้ายก็ยังจะดูมองโลกในแง่ดีมากกว่า
ความ ‘ไม่น่าพิสมัย’ ดูหนัง Earwig and the Witch (2020) ทั้งหลายใน Earwig and the Witch นี่แหละ ที่ทำให้มันกลายเป็นงานอนิเมชันที่แปลกใหม่และล้ำไกลได้มากที่สุดเท่าที่ค่าย Studio Ghibli เคยสร้างมา แม้ว่ามันจะสุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะทำให้บรรดาขาประจำต้องผิดหวังกับการพยายามรังสรรค์ความสดใหม่ในเชิงศิลปะอะไรทำนองนี้…
ขอให้สนุกกับการดูหนังออนไลน์ หนังการ์ตูน เรื่อง Earwig and the Witch (2020) เว็บดูหนัง KUBHD.COM ดูหนังออนไลน์ฟรี หนังไทย หนังต่างประเทศมากมายกว่า 10,000 เรื่อง หนังใหม่ ดูฟรี หนังไม่กระตุก ดูหนังชัดชนโรง ดูหนัง ออนไลน์ หนังพากย์ไทย ซับไทย เต็มเรื่องHD หนังใหม่อัพเดททุกวัน หนังอัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง ดูหนัง 2023 ดูหนังบนมือถือ Android iOS
6.3